การบังคับโทษจำคุกเชิงพุทธ
วินัย เจริญเฉลิมศักดิ์ นบ. นม.
ในปัจจุบันเรือนจำในหลายประเทศได้นำการบังคับโทษจำคุกเชิงพุทธ หรือการดำเนินการให้มีการจัดกิจกรรมทางพุทธศาสนาแก่ผู้ต้องขังซึ่งนับถือศาสนาพุทธ โดยอนุศาสนาจารย์เรือนจำ หรือ องค์กรภาคเอกชนซึ่งทำหน้าที่ในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาเข้ามามีส่วนร่วม ในการจัดกิจกรรมทางพุทธศาสนาแก่ผู้ต้องขังซึ่งนับถือศาสนาพุทธในเรือนจำ เช่น เรือนจำในจีน ญี่ปุ่น ไทย เวียดนาม พม่า ศรีลังกา เกาหลีใต้ จีนไต้หวัน กัมพูชา อินเดีย ออสเตรเลีย UK และ USA เป็นต้น ทั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขฟื้นฟูผู้ต้องขัง ให้เป็นบุคคลที่เคารพกฎหมาย และช่วยเหลือตนเองได้ภายหลังพ้นโทษ โดยใช้แนวคิดทางศาสนา หรือแนวคิดทางจิตวิญญาณ เป็นเครื่องมือในการแก้ไขฟื้นฟู สำหรับการบังคับโทษจำคุกเชิงพุทธที่นำเสนอในบทความนี้ ได้แก่ การบังคับโทษจำคุกเชิงพุทธในเรือนจำ USA โดยจักได้กล่าวถึง แนวคิดทฤษฎีวิวัฒนาการ และแนวทางการดำเนินงาน โดยสังเขป ดังนี้
บริบทว่าด้วยการบังคับโทษเชิงพุทธ
ความหมาย
การบังคับโทษจำคุก หมายถึง การดำเนินการให้มีการจัดกิจกรรมทางพุทธศาสนาแก่ผู้ต้องขังซึ่งนับถือศาสนาพุทธ โดยอนุศาสนาจารย์เรือนจำ หรือ องค์กรภาคเอกชนซึ่งทำหน้าที่ ในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมทางพุทธศาสนาแก่ผู้ต้องขัง ซึ่งนับถือศาสนาพุทธในเรือนจำ รวมตลอดถึง การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังในเรือนจำ โดยอาศัยหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า เช่น หลักอริยสัจ 4 หลักกฎแห่งกรรม หลักแห่งเหตุและปัจจัย ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นต้น
แนวคิดทฤษฎีวิวัฒนาการ
การบังคับโทษจำคุกเชิงพุทธในเรือนจำ USA ดำเนินการภายใต้แนวคิดที่สำคัญอย่างน้อยสองประการ คือ แนวคิดในการแก้ไขฟื้นฟูผู้ต้องขังผู้ต้องขังให้เป็นบุคคลที่เคารพกฎหมายและช่วยเหลือตนเองได้ภายหลังพ้นโทษ และแนวคิดในการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนหรือมืออาชีพทางพุทธศาสนาเข้ามามีส่วนร่วมดำเนินกิจกรรมทางศาสนาในเรือนจำ ส่วนทฤษฎีศาสนาพุทธข้อมูลจากเว็บไซต์ http//www.kr.ac.th/ebook2/julaporn/04.html พบว่า ศาสนาพุทธจัดอยู่ในประเภท อเทวนิยม (ไม่นับถือพระเจ้า) มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย มีพระพุทธเจ้าเป็นศาสดา และเป็นผู้นำแนวทางดำเนินชีวิตด้านจิตวิญญาณของผู้คนทั่วโลกประมาณ 400 ล้านคน คัมภีร์ของศาสนาพุทธ คือ พระไตรปิฎก หมายถึงตำราที่บันทึกคำสอนของพระพุทธเจ้า ทฤษฎีศาสนาพุทธ เป็นทฤษฎี ทางจิตวิญญาณเช่นเดียวกับศาสนาอื่นๆ คำสอนที่เป็นหัวใจสำคัญของศาสนาพุทธ คือ หลักอริยสัจ 4 ที่เกิดจากความต้องการหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงของพุทธศาสนิกชนชาวพุทธ จุดมุ่งหมายสูงสุด ของพุทธศาสนา คือ ความดับทุกข์ หรือพ้นทุกข์ จึงอาจเรียกในเชิงทฤษฎีได้ว่า ทฤษฎีอริยสัจ 4 หรือ ทฤษฎีแห่งความหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง ประกอบด้วยทฤษฎีและหลักคำสอนหลายเรื่องด้วยกัน เช่น หลักอริยสัจ 4 หลักกฎแห่งกรรม หลักแห่งเหตุและปัจจัย เป็นต้น ด้านสถิติการนับถือ ศาสนาพุทธของผู้ต้องขังในเรือนจำ USA ข้อมูลของรัฐบาลกลางเว็บไซต์ http://freethoughtpedia. com/wiki/ percentage_of_atheists พบว่า ปี 1997 เรือนจำใน USA มีผู้ต้องขังนับถือ ศาสนาพุทธ จำนวน 882 คน คิดเป็นร้อยละ 1.180
พระพุทธเจ้าศาสดาของศาสนาพุทธ
แนวทางการดำเนินงาน
การบังคับโทษจำคุกเชิงพุทธในเรือนจำ USA นอกจากการจัดกิจกรรม ทางพุทธศาสนาแก่ผู้ต้องขังซึ่งนับถือศาสนาพุทธ โดยอนุศาสนาจารย์เรือนจำแล้วยังมีการเปิดโอกาส ให้ภาคเอกชนทำหน้าที่ในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม ทางพุทธศาสนาแก่ผู้ต้องขังซึ่งนับถือศาสนาพุทธในเรือนจำ เช่น องค์กรพุทธเรือนจำอนุศาสนาจารย์ (ข้อมูลจาก เว็บไซต์ http://www.dmoz.org/Society/Religion_and Spirituality/ Buddhism/ Engaged_Buddhism/Prison/ องค์กรพุทธเรือนจำ Fellowship (BPF) เป็นองค์กรระดับชาติที่ไม่แสวงหาผลกำไรก่อตั้งขึ้นในปี 2010 โดยชาวพุทธที่มีความศรัทธา สำนักงานใหญ่ของพุทธสมาคมชินนอร์ทอเมริกัน (NASBA) ตั้งอยู่ในมิดเดิลต์ USA (ข้อมูลจาก เว็บไซต์ [email protected]) และ องค์กรชุมชนแชมบาล่า ที่ดำเนินงานรองรับความต้องการทางจิตวิญญาณและการศึกษาในเรือนจำ เป็นต้น
โดยสรุป
จากสถิติเกี่ยวกับการนับถือศาสนาของผู้ต้องขังใน USA ปี 1997 ดังกล่าว พบว่า มีผู้ต้องขังที่นับถือศาสนาพุทธในเรือนจำ USA มีจำนวน 882 คน คิดเป็นร้อยละ 1.180 ซึ่งเป็นจำนวนผู้ต้องขังส่วนน้อยเมื่อเทียบกับผู้ต้องขังทั้งหมดของเรือนจำฯ แต่ยังคงเป็นภารกิจของเรือนจำฯ ที่จะต้องจัดให้มีการนำการบังคับโทษจำคุกเชิงพุทธ หรือกิจกรรมทางศาสนาพุทธในเรือนจำ โดยอนุศาสนาจารย์เรือนจำ หรือองค์กรภาคเอกชนทำหน้าที่ในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาเข้ามา มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมทางพุทธศาสนาแก่ผู้ต้องขังซึ่งนับถือศาสนาพุทธในเรือนจำ ทั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของทฤษฎีศาสนาพุทธ หรือ ทฤษฎีจิตวิญญาณ ที่เรือนจำ USA ใช้เป็นเครื่องมือที่ในการแก้ไขฟื้นฟูผู้ต้องขัง เพื่อแก้ไขฟื้นฟูผู้ต้องขังให้เป็นบุคคลที่เคารพกฎหมาย และช่วยเหลือตนเองได้ภายหลังพ้นโทษ บทความเรื่องแนวทางการบังคับโทษจำคุกเชิงพุทธในเรือนจำ USA จึงเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจอีกนวัตกรรมหนึ่งที่ผู้เกี่ยวข้อง หรือ สนใจจักได้นำไปใช้ประโยชน์ตามที่เห็นสมควร
.................................
ขอบคุณมากครับอาจารย์ขจิต ฝอยทอง ผมก็ติดตามผลงานของอาจารย์เช่นเดียวกันครับ
ขอบคุณมากครับอาจารย์ Dr.Ple ผมก็ติดตามผลงานของอาจารย์เช่นเดียวกันครับ