วิจัยแบบไทยๆ 'ทะเยอทะยาน' น้อยไปหรือเปล่า ?
เป็นคำถามที่ผุดขึ้นมาในใจ
หลังได้ร่วมงานประชุมวิชาการ
4th APOMC
ได้เห็นงานวิจัยจากประเทศ ญี่ปุ่น,ไต้หวัน, ฮ่องกง
ที่ลงถึงระดับ พันธุวิศวกรรม
เพื่อพยายามหาวิธีรักษาโรคที่ (ณ ขณะนี้) รักษาไม่ได้
สังคมไทย มองคำว่า 'ทะเยอทะยาน' ในแง่ลบกว่า คำว่า 'เจียมตัว'
มีผู้อธิบายไว้
ที่นี่ ซึ่งข้าพเจ้าแปลตามความเข้าใจดังนี้
Ambition -> อิจฉา เพ่งเล็งที่ 'เป้าหมาย' เพื่อชื่อเสียง เงินทอง เพื่อ 'ตนเอง'
มาจากรากศัพท์ ลาติน Ambitionem (=going round)
Aspiration -> พัฒนา ให้ความสำคัญทั้ง 'เส้นทางและเป้าหมาย' เพื่อ'สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตนเอง/จิตวิญญาณ'
มาจากรากศัพท์ ลาติน Spiritus หรือ ฝรั่งเศส Aspirare (= breathing out)
ในทัศนะข้าพเจ้า
'ทะเยอทะยาน' อาจมีทั้ง Ambition และ Aspiration ในเวลาเดียวกัน
เพียงในแต่ละคน แต่ละช่วงเวลา มีสัดส่วนไม่เท่ากัน
Thomas Edison หรือ Steve jobs
สัดส่วนของ Ambition น่าจะมากกว่า ก่อน Aspiration เพิ่มขึ้นตามลำดับ
###
ขอบคุณอาจารย์และศูนย์โรคสมองภาคเหนือ ที่ให้โอกาสได้เรียนรู้
ตัวอย่าง งานวิจัย จากประเทศฮ่องกง ที่มี 'ความทะเยอทะยาน'
สร้างความหวังแก่ผู้ป่วยโรค Spinocerebellar ataxia ด้วยพันธุศาสตร์
ข้อสังเกต เพื่อพัฒนา
1.'ทะเยอทะยาน' ทำวิจัยทั้งทีให้มีประโยชน์ต่อส่วนรวม
2.'ข้ามข้อจำกัด' ด้วยการทำงานเป็นทีมสหสาขาวิชาชีพ
3. 'ตามการหายใจ' ทำต่อเนื่อง มีขึ้น มีลง เป็นเรื่องธรรมดา
..ราบเรียบ = หมดชีวิต
ขอบพระคุณสำหรับมุมมองที่น่าสนใจ น่าอ่าน ชวนติดตาม ผมเริ่มจะมี ambition และ aspirations สำหรับ innovation แล้วละครับ
อยากเห็นงานเขียนของคุณหมอ ป. กลายเป็นหนังสือสักเล่มให้พวกเราได้อ่านมุมมองต่าง ๆ เหล่านี้ ;)...
ได้ความรู้ใหม่ และสะกดใจมากมายกับบันทึกนี้ครับ