เมื่อวานดร.ป๊อปได้เรียนรู้ "กฎแห่งกรรม" ที่น่าสนใจ คือ ภพภูมิของการเกิดใหม่ การระลึกอดีตชาติ และการทำนายอนาคต อยู่ในแนวระนาบเดียวกัน แต่การเปลี่ยนแปลงเวลาในโลกมนุษย์นั้นช้ากว่าโลกแห่งวิญญาณมากนัก เช่น เวลาที่เราทำบุญสังฆทาน ทำบุญด้วยเงิน นั่งสวดมนต์ทำสมาธิ กรวดน้ำหรือแผ่เมตตา (กรวดแห้ง) ฯลฯ เมื่อทำสัญญาเปิดจิตให้รับรู้เจ้าหนี้กรรมที่ส่งผลมากที่สุดในการใช้ชีวิตเป็นมนุษย์ที่สามารถสำนึกผิด ทำจิตให้เป็นกุศล และต่อรองให้เจ้าหนี้ได้ให้กรรมนั้นเป็นอโหสิกรรม (ยกโทษ) และมารับผลบุญแบบระบุ "เจ้ากรรมนายเวร" โดยไม่แบ่งปันให้กับผู้ใด และควรใช้ชุดสังฑทานใหม่ พร้อมพิจารณาพระสงฆ์ผู้เป็นพระปฏิบัติดีและสวดเพื่อการทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวรอย่างถูกต้อง ... ผมได้เรียนรู้ว่า "กิจกรรมเหล่านี้น่าจะมีผลเพิ่มสุขภาวะทางจิตวิญญาณ (การหยั่งรู้อารมณ์จนถึงการพิจารณาการกระทำที่ดีจากความรู้สึกดีและความคิดความเข้าใจต่อระบบความเชื่อในตัวตนที่ดีด้วย) จากการฝึกปฏิบัติจิตใต้สำนึกในเวลา 90 วัน (3 เดือนในโลกมนุษย์หรือ 3 นาทีในโลกจิตวิญญาณ) ด้วยระบบการทำความดีของตัวเรา
สำหรับผมก็ได้สัญญาว่า ภายใน 90 วัน ในทุกๆวันจะสวดมนต์และนั่งสมาธิไม่น้อยกว่า 30 วัน ทำบุญมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่า 1 ครั้ง และตักบาตรหรือเลี้ยงเพลแก่พระสงฆ์ 9 รูป พร้อมทำมหาสังฆทาน 1 ชุด (พระปางสมาธิ ผ้าไตรใช้บวชพระ บาตร ตาลปัตร ยาตำราหลวง และสังฆทานแห้ง) โดยมีการเผาใบอนุโมทนาและกรวดน้ำพร้อมระบุชื่อเจ้ากรรมนายเวร คดีและชื่อชาติก่อน
เจ้ากรรมนายเวรของผมคือ สิงโต เสื่อป่า กวางป่า ควายป่า และสัตว์ป่าทั้งหลายที่ไม่ได้เอ่ยนาม ทั้งในอดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ในชาติก่อนที่ดร.ป๊อปชื่อ เศรษฐีโกญจะ สมัยอินเดียที่ชอบล่าสัตว์เป็นกีฬาในฤดูผสมพันธุ์เป็นวิบากกรรม
นอกจากนี้น่าสนใจคือ น้าหญิงได้เขียนและเพ่งจิตขณะให้ดร.ป๊อปทำสมาธิจนจิตนิ่ง ก็ระบุว่า ดร.ป๊อปเวียนว่ายตายเกิดมาแล้ว 784 ชาติ เป็นผู้ชาย 50% เป็นผู้หญิง 50% (เทียบกับเวลาโลกวิญญาณคือ 784 เดือน ถ้ามากนับ 1,000 เดือนขึ้นไป) โดยชาติแรกคือ พญานาค ชาติที่แล้วก่อนเกิดมาเป็นดร.ป๊อป คือ พระบวชที่เนปาลนาน 17 ปี มรณภาพเพราะโรคหัวใจขณะมีอายุ 40 ปี เคยเกิดเป็นทั้งมนุษย์และสัตว์ต่างๆ
ด้วยความอยากเรียนรู้มากขึ้น ดร.ป๊อปจึงขออ้างอิงหนังสือชื่อ "เดอะมิราเคิล ศรัทธาหรืองมงาย ของทพ.สม สุจีรา (2557)" ที่เรียบเรียงเนื้อหาได้น่าสนใจ คือ "...การเกิดใหม่...จะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวเก่าๆในชาติเดิมเลย เพราะได้ลืมความทรงจำเก่าไป...แล้วตกลงบุญบาปมีจริงหรือไม่...เนื่องจากการนับเวลาที่ไม่ต่อเนื่องระหว่างภพภูมินี่เอง ทำให้แม้ได้ชดใช้กรรมในนรกถึงหมื่นปีแล้วได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้งก็อาจจะเกิดในช่วงเวลาเดียวกับเวลาที่เสียชีวิตในครั้งก่อนได้ทันที...ได้รับการพิสูจน์แล้วจากทฤษฎีสัมพันธภาพ แต่จะยิ่งชัดเจนขึ้นถ้าฝึกเจริญสติจนบุรรลุญาณ 16 ... อารมณ์นี่เองที่จะทำให้ชีวิตเป็นไปตามกฎแห่งกรรม ... การชดใช้กรรมก็คือการรับความรู้สึก ... การแก้กรรมที่แท้จริงคือการแก้จิตของตนเอง (หน้า 89-9ุ6)"
และเมื่ออ่านว่าด้วยเรื่องกรรม ของพระ ดร. ดับบลิว ราหุล ในหนังสือชื่อ พระพุทธเจ้าทรงสอนอะไร (2552) ก็น่าสนใจเข้าไปอีก คือ "... ทฤษฎีกรรมของทางพุทธศาสนามีความหมายเจาะจง บ่งถึงการกระทำที่มีเจตนาเท่านั้น ... กรรมไม่ได้หมายถึงผลของกรรม ... เรียกว่า ผลหรือวิบากของกรรม ... สิ่งที่เรียกว่าชีวิตนั้น ... คือการรวมตัวกันของขันธ์ ๕ ... มีการเกิดและตายอยู่ทุกขณะ ... สามารถผ่านหรือโยกย้ายจากชีวิตหนึ่งไปสู่อีกชีวิตหนึ่งได้ ... ตราบใดที่ยังมีตัณหา ... ก็คงดำเนินต่อไปอยู่ตราบนั้น ... จะยุติลงได้ ... ถูกตัดด้วยปัญญาซึ่งมองเห็นความจริงแท้สัจธรรม ...(หน้า 61-65)"
ศึกษาเพิ่่มเติมในเวปไซด์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับกฎแห่งกรรม [ขอบพระคุณเวปไซด์พุทธบูชา]
ศึกษาเพิ่มเติมเรื่องทบ.สัมพันธภาพของไอน์สไตน์ที่นี่ และศึกษาหนังสือ ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น ของทพ.สม สุจีรา ได้ที่นี่ [ขอบพระคุณ YOUTUBE.COM]
ขอบพระคุณมากครับอ.ภูสุภา คุณยายธี คุณบุษยมาศ และคุณส.รตนภักดิ์
ขอบพระคุณมากครับอ.นุ
ขอบพระคุณมากครับคุณ Mookda
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมนะคะ ดร.
ขอบพระคุณมากครับพี่ tuknarak
ขอบพระคุณมากครับคุณ พ. แจ่มจำรัส
ดชิ่แเรื่องกฎแห่งกรรมค่ะ
ขอบพระคุณมากครับพี่ Nui
ขอบพระคุณมากครับคุณอร
อนุโมทนาบุญนะครับ
ขอบคุณที่ช่วยกันเผแพร่เรื่องดีๆเช่นนี้ค่ะ
ยินดีและขอบพระคุณมากครับพี่นงนาท พี่โอ๋ และคุณทิมดาบ