ฝันอยากเป็นดีเจ


  • ฝันอยากเป็นดีเจ

    คลื่นวิทยุ โฆษณาที่มีเพลงคั่น


    ดีเจเป็นอาชีพที่อยู่กินกับรสนิยม แบบเปิดเพลงขับกล่อมคนฟังตามรสนิยมเก๋ว์ๆ ของเรา คุยสายหน้าไมค์บ้าง บางวันก็มีคนแปลกหน้าโทร.มาชื่นชมว่าเปิดเพลงดี ประหนึ่งชมว่า เราเป็นคนที่มีรสนิยมเลิศ ได้พูดจาเท่ๆ เสียงหล่อๆดูมีสาระความรู้ ดูเป็นคนที่รู้ดีในสิ่งที่ตัวเองทำ รู้เรื่องเพลงดีเยี่ยม เป็นอาชีพที่มีหน้าที่หลักคือฟังเพลง คัดเพลงมาเปิดให้คนอื่นฟัง เป็นอาชีพที่มีสิทธิ์เต็มขั้นในการซื้อเพลงฟัง
    ยิ่งมายุคนี้ การเป็นดีเจหมายถึงการได้ออกสื่อ ออกทีวี เหมือนได้เข้าไปอยู่ในวงการบันเทิง เป็นดาราแบบกลายๆ ภาพลักษณ์ดี สมัยนี้แต่ละคนก็แต่งตัวกันเป็นนายแบบกันทุกวี่ทุกวัน นี่มันอาชีพในฝันชัดๆ ได้อยู่กับเสียงเพลง แถมยังได้เงินอีก หลายๆ คนก็เลยฝันอยากเป็นดีเจกับเขาบ้าง

    ซึ่งจุดนี้ต้องบอกเลยว่า เลิกฝันแล้วไปหาอะไรอย่างอื่นทำเลยจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสียเวลาชีวิต

    “ดีเจสมัยนี้มันไม่ได้เปิดเพลงเองแล้ว!” น้องดีเจคนหนึ่งที่อาสามาเป็นแนวร่วมยุติฝันบอกอย่างเซ็งๆ ขณะที่ให้ข้อมูลสำหรับเนื้อหาในตอนนี้ ทำเอาวิชัยแอบสะเทือนจิตนิดหน่อยที่ได้รู้ความจริง

    จากคำบอกเล่า สมัยก่อนนู้น ดีเจเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องหาซื้อแผ่นเสียง หาซื้อเทปมาเปิดเองในคลื่นวิทยุ แปลว่าจะมีต้องมีความรู้ในเรื่องเพลงจริงๆ อินอย่างจริงจังในเรื่องที่ตัวเองทำ รู้หมดว่านักร้องคนนี้มีผลงานมาแล้วกี่ชุด เพลงอะไรดัง เพลงอะไรกำลังจะดัง พอดีเจเป็นคนเอาเพลงมาเปิดเอง มันก็เลยทำให้เกิดค่านิยมในหมู่ดีเจด้วยกัน ว่าการหาเพลงเท่ๆ แนวๆ มาเปิดได้นั้นคือเรื่องที่เท่ ดีเจคนอื่นกลัวน้อยหน้าก็ทำบ้าง กลายเป็นแข่งกันเท่ ผลที่ได้คือ วงการเพลงบนวิทยุเบ่งบาน คนที่ได้กำไรที่สุดคือคนฟังที่จะได้ฟังเพลงที่หลากหลายแนวมากขึ้น แต่ยุคนี้มันไม่ใช่

    ยุคดิจิตอลโชเชียลเน็ตเวิร์กตอนนี้ คนไม่ฟังวิทยุกันแล้วฮะ ทีวีก็ไม่ดู คนแชตไลน์

    อัปเฟซบุ๊ค เล่นทวิตเตอร์กันอย่างเดียว

    ทำให้ความฝันของคนที่มีต่อดีเจยังเหมือนเดิม แต่ดีเจสมัยนี้หน้าตาไม่เหมือนเดิมแล้ว

  • ค่าย

    ทุกวันนี้ค่ายเพลงเป็นเจ้าของคลื่นวิทยุแล้วจ้า จบนะฮะ.

    บางคลื่นไม่เปิดเพลงบางค่าย เพราะติดค่าลิขสิทธิ์เพลงมันแพง จบนะฮะ.

    ทำให้ไม่ต้องแปลกใจถ้าทุกวันนี้ฟังเพลงจากคลื่นวิทยุบางคลื่นจะได้ยินแต่เพลงจากค่ายบางค่ายเท่านั้น แต่ยังโชคดีที่เดี๋ยวนี้คลื่นวิทยุเองก็พยายามทำตัวเป็นสถาบันอะไรสักอย่างที่เปิดเพลงอย่างเป็นกลางที่สุด (หรือพูดอีกอย่างคือ เอาใจโอนเอียงอย่างแนบเนียนที่สุด) มีการจัดอันดับชาร์ตเพลงยอดฮิตที่ดูเหมือนเป็นกลางที่สุด ทั้งที่ความจริงแล้วไอ้คลื่นชาร์ตต่างๆ มันก็แค่ประมาณว่า...

    ความดังของเพลง 25%—ความดังในที่นี้น่าจะเป็นช่วงโปรโมตเพลงนั้นๆ ที่ค่ายเพลงต่างทุ่มงบด้านสื่อทั้งหมดเพื่อทำให้เพลงนี้ ‘เหมือน’ จะดังหรืออย่างน้อยก็พยายามสะกดจิตคนดูว่า เพลงนี้มันดังนะ ฟังสิ ไม่ชอบเหรอ? ไม่เป็นไร กูมีแค่เพลงนี้ให้มึงฟัง ฟังไป!

    การอวยค่ายเพลง 25%—แหม ก็บอกอยู่หยกๆ ว่ามันต้องเป็นกลาง มันก็ต้องคละๆ กันไปสิวะ ทำดีกับค่ายอื่นบ้าง เวลาอยากได้ศิลปินค่ายเขามาทำกิจกรรมในคลื่นจะได้ไม่ดูน่าเกลียด

    ความชอบส่วนตัวของคนจัดชาร์ต 25%—อ้าว...ยังไม่รู้อีกเหรอ? ว่าชาร์ตนี้มีคนจัดเอง

    จำนวนของผู้ฟังที่โทร.มาขอเพลง 25%—ไหนๆ ก็ให้ผู้ฟังโทร.เข้ามาขอเพลงได้แล้ว ก็จดๆ ไว้เป็นข้อมูลสักหน่อยละกัน

  • http://minimore.com/b/02Cmt/3

คำสำคัญ (Tags): #ดีเจ
หมายเลขบันทึก: 577508เขียนเมื่อ 29 กันยายน 2014 11:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 กันยายน 2014 11:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท