เรียนภาษาอังกฤษ__ ทำให้สมองดีขึ้น


กราฟ: แสดงประเทศที่มีคนพูดอังกฤษมากที่สุด (หน่วย: ล้านคน) = สหรัฐฯ อินเดีย ปากีสถาน อังกฤษ ไนจีเรีย ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย และอาฟริกาใต้ [ wikipedia ]

ประเทศอาเซียนที่มีความพร้อมด้านภาษาอังกฤษสูง คือ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และมาเลเซีย

สำนักข่าว BBC ตีพิมพ์เรื่อง "เรียนภาษาต่างประเทศ ช่วยสมองดี (เสื่อมช้าลง)", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

การศึกษาใหม่จากมหาวิทยาลัยเอดินเบรอ สกอตแลนด์ อังกฤษ (UK)

นำข้อมูลเก่าที่บันทึกผลการตรวจสมรรถภาพสมองในวัยเด็ก (อายุ 11 ปี) 262 คน

แล้วทำแบบทดสอบซ้ำตอนอายุ 70s (70s = seventies = 70-79 ปี)

.

ผลการศึกษาพบว่า คนที่ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นประจำ หรือ "เขียน-อ่าน-ฟัง-พูด" 2 ภาษา (bilingual) มีสมองเสื่อมช้าลงไปหลายปี

คนที่มีสมองดี หรือมีความสามารถในการคิด-ตัดสินใจ (cognitive abilities) สูงที่สุด คือ คนที่ "อ่านหนังสือ 2 ภาษา" เป็นประจำ

ข่าวดี คือ คนที่เรียนภาษาต่างประเทศหลังวัยเด็กก็ได้ผลดีเช่นกัน

ก่อนหน้านี้มีผู้สังเกตว่า คนอินเดียเป็นโรคหัวใจมาก แต่เป็นโรคสมองเสื่อมน้อย

.

กลไกที่เป็นไปได้ คือ พันธุกรรมหรือ DNA ของคนอินเดีย ทำให้หลอดเลือดเสื่อมเร็ว

ตรงนี้น่าจะเพิ่มทั้งโรคหัวใจ และโรคสมองเสื่อม

ทว่า... อินเดียเป็นประเทศที่คนใช้ภาษาท้องถิ่นสูง

เวลาพบกันจึงต้องใช้ภาษาอังกฤษ หรือภาษากลางคุยกัน

.

ทำให้คนอินเดียเก่งภาษาด้วย สมองดีด้วย

ดังมีคำกล่าวว่า

คนอินเดียมีสิทธิ์เป็น "สมองของโลก (brain of the world)"

คล้ายๆ กับประเทศไทยที่ตั้งเป้าจะเป็น "ครัวของโลก (kitchen of the world)"

.

คนอินเดียกินเครื่องเทศเป็นประจำ

เครื่องเทศที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า น่าจะช่วยทำให้สมองเสื่อมช้าลง คือ แกงกะหรี่

ข้างในแกงกะหรี่ มีสารสำคัญ คือ ผงขมิ้น

แกงใส่ขมิ้นพบมากในอาหารแขก + อาหารปักษ์ใต้

.

การศึกษาใหม่บอกเป็นนัยว่า

ถ้าอยากมีสมองดี

(1). ต้องเรียนภาษาต่างประเทศ

(2). ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นประจำ

(3). ถ้าต้องการผลดีที่สุด > ต้องอ่านหนังสือต่างประเทศเป็นประจำ

.

การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า

ถ้าไม่อยากเป็นโรคสมองเสื่อม

โดยเฉพาะอัลไซเมอร์

(1). อย่าสูบบุหรี่

(2). อย่าหายใจเอาควันบุหรี่ที่คนอื่นสูบเข้าไป โดยเฉพาะอย่าเข้าห้องแอร์ที่คนสูบบุหรี่

เช่น ไนท์คลับ ผับ บาร์ ฯลฯ

(3). อย่าลืมว่า "สมองดี เริ่มต้นที่เท้า"

  • เดินให้มากขึ้น สะสมเวลาให้ได้อย่างน้อย 40 นาที/วัน
  • ฝึกเดินเร็วมากๆ 10 นาที/วัน
  • ขึ้นลงบันไดตามโอกาส 4 นาที/วัน

.

ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

.

Thank BBC > http://www.bbc.com/news/health-27634990

Source by BBC > Annals of Neurology

.

หมายเลขบันทึก: 573141เขียนเมื่อ 24 กรกฎาคม 2014 12:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 กรกฎาคม 2014 12:00 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

Thank you.

I love this: 

อย่าลืมว่า "สมองดี เริ่มต้นที่เท้า"

One GP told me that

it is important to look after our feet -- more important than our face!

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท