ปลดล็อค...รหัสหัวใจ


จดหมายฉบับที่เห็นนี้ เป็นจดหมายที่ลูกชายแม่ดาว เขาเขียนถึงพ่อของเขา เป็นอีก 1 วิธีการเล่นด้วยกันของพวกเราอย่างหนึ่งค่ะ นานแล้วที่ไม่ได้เล่นเขียนจดหมาย เริ่มแรกที่เล่นเขายังไม่เปิดใจ ไม่ชอบวิชาภาษาไทยต่อต้านเอามาก ๆ ณ ตอนนั้นเขาเขียนไปก็หงุดหงิดตัวเองไป งอแง สะกดคำไม่ค่อยจะได้ ใจร้อน หงุดหงิดตัวเอง ไม่พอใจตัวเอง แม่ดาวก็ค่อยๆ ตะล่อมบอกว่าลูกส่งมาเป็นจดหมายเปล่า ๆ ก็ได้ หรือจะวาดรูปมาแม่ก็จะยิ่งดีใจ ตามใจลูกเลย

ในกรณีส่งจดหมายเปล่าแม่ดาวก็จะเป็นมโนเอาเองว่าลูกเขียนมาว่าอย่างไร เพราะเป็นกระดาษว่างเปล่าเนาะ ใส่มุขขำ ๆ เข้าไป ลูกก็ขำ เล่นมาเรื่อย ๆ ถ้าไม่ผิดเริ่มเล่นแบบนี้มาตอนลูกอนุบาล 3 ตอนนั้นก็ต่อต้านภาษาไทยแบบนี้เลย แล้วก็ค่อย ๆ เปิดใจมาบ้าง ด้วยตัวเราเองก็เข้าไปปรึกษา ขอความช่วยเหลือจากครูด้วย ทางคุณครูก็เข้าใจช่วยเหลือร่วมมือกันเป็นอย่างดี ผ่านไปกับวัยอนุบาล เขียนชื่อแม่ดาวได้ คำว่า รัก เขียนได้ ชื่อตัวเองเขียนได้ ประมาณนี้

พอเข้าระดับประถมตอนป.1 ก็ยังไม่ต่อต้านมากเท่าไหร่ พอขึ้นป.2 เห็นชัดกับอาการไม่ชอบวิชาภาษาไทยอย่างชัดเจน แม่ดาวก็ทำหน้าที่ของตัวเองไปเรื่อยๆ จูงใจไปเรื่อย ๆ ค่อย ๆ หยอด ๆ กันไป ขั้นแรกแม่ดาวต้องชวนคุยเพื่อหาสาเหตุของปัญหานี้ก่อน รับฟังและไม่ด่วนตัดสินอะไร ฟังๆๆๆๆ และหาวิธีไปเรื่อย

ทุกวันจัดให้มีช่วงเวลา “เรียนรู้ร่วมกัน” เป็นการทบทวนบทเรียน หรืออ่านหนังสือ เช่นอาจ อ่านนิทานตามใจลูก ให้เขาเลือกเอง เขาจะเลือกนิทานที่ตัวโต ๆ ข้อความไม่เยอะ เริ่มจากอ่านสัก 1 ประโยคใน 1 หน้า เหมือนเขาก็ได้ฟังนิทานไป 1 เรื่อง พยายามทำบ่อย ๆ อาจไม่ทุกวัน เพราะบางทีการบ้านก็เยอะ และยาก ฯลฯ แล้วแต่เหตุปัจจัย แต่ส่วนมากก็จะทำตามเวลา และใช้เวลาไม่นานมาก สัก ครึ่งชม.ได้ แต่ถ้าเขาสนุกมากก็จะนานหน่อย

เย็นวันหนึ่งไปรับลูกชายที่โรงเรียน คุณครูประจำวิชาภาษาไทย เดินเข้ามาหา เรียกว่าตั้งใจตามหาแม่ดาวเลยฮ่าๆๆ เพื่อบอกถึงปัญหาการเรียนภาษาไทยในห้องเรียน ซึ่งบางเรื่องก็รู้แล้ว บางเรื่องก็ยังไม่เคยรู้ เพราะลูกก็ไม่ได้เล่าทั้งหมด ครูบอกว่าลูกชายมักหลับในวิชาเรียนฮ่าๆๆๆๆ อันนี้รู้ค่ะ เขาบอกทุกครั้งที่หลับ บอกว่ามันน่าเบื่อมาก แต่เขาให้เหตุผลกับคุณครูว่า เขาเป็นภูมิแพ้ มักคันจนนอนไม่ค่อยจะหลับในเวลากลางคืน ซึ๋งเป็นเหตุผลที่มีส่วนจริงอยู่ค่ะ คือบางทีเขาก็นอนไม่พอจริง ๆ เข้านอนตามเวลา แต่ดึกๆ บางทีก็ตื่นมาด้วยอาการคัน ทั้งภูมิแพ้อากาศและภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ ชอบอาบน้ำอุ่นทั้งที่อากาศร้อนบอกว่าหนาว แต่พอจะเข้าห้องนอนบอกร้อนมากต้องเปิดแอร์ฮ่าๆๆๆ แม่ดาวยังเคยแกล้งแซว ๆ แบบให้สติเขาคิดเนาะว่า อ้าวลูกหนาวนะครับเนี้ย อย่าเปิดแอร์เลยแม่เป็นห่วงเดี๋ยวลูกจะเป็นหวัดนะ อากาศมันหนาวมาก นี่หนาวจนลูกต้องอาบน้ำอุ่นเลยนะ ซึ่งบางทีมุขนี้ก็ใช้ได้ผล อาบน้ำอุ่นแต่ไม่เปิดแอร์ กลัวเสียฟอร์ม หรือบางทีก่อนจะอาบก็มีแหย่ว่า วันนี้หนาวหรือร้อนครับ แม่จะได้เตรียมห้องนอนถูก ถ้าหนาวเปิดน้ำอุ่นแม่จะได้ช่วยเปิดหน้าต่างระบายอากาศรับลมธรรมชาติเย็นสบาย ๆ กำลังดี แทนเปิดแอร์ เขาก็จะชิงอาบน้ำปกติ เพื่อจะเปิดแอร์ เหมือนเล่นเกมส์กันไปเรื่อย

ทั้งนี้ต้นแบบนี่แหละค่ะ สามีแม่ดาวชอบจริงๆ อาบน้ำอุ่น แม้อุณหภูมิจะไม่ได้หนาวก็เถอะ ไม่แปลกใจเนาะ แต่สงสารลูกเพราะผิวเขาเป็นแบบหนาวก็คัน ร้อนก็คัน หนาวก็ผิวแห้งไป ร้อนก็เหงื่อออกมา แพ้เหงื่อตัวเอง ตามบริเวณรอบคอ หรือพวกตามข้อพับ จุดอับต่าง ๆ นี่แทบไม่มีเหลือดี ผิวสากเป็นคางคกเลย ตอนนี้ให้เขาดูแลตัวเอง คันก็ต้องเรียนรู้เอง ถ้าไม่ดูแลรักษาตัวเอง เราอยู่ดุแลลูกไม่ได้ตลอดชีวิตจริงไหม หลักการต่าง ๆ ในการดูแลตัวเองเบื้องต้นพวกนี้เขาก็ทราบดีค่ะ ไปหาหมอ ๆ ก็จะสอนวิธีการ ก็ไม่ค่อยจะทำ คันมาก ๆ ค่อยขยับมาหยิบยา ทาครีม(ครีมบำรุงผิวแห้งมากๆๆๆ) บางรายก็ว่าแม่ใจร้ายเนาะฮ่าๆๆๆ

อ้าวนอกเรื่องซะยาว....หลังจากที่แม่ดาวได้พูดคุยกับครูก็พอจะเข้าใจลูก ว่าเพราะอะไร เช่น ลูกแม่ดาวจะเบื่อมากกับการสอนแบบเขียนขึ้นกระดานดำ ใช้ชอร์คขาวๆ เขียน ๆ และอธิบาย เขาชอบเรียนรู้แบบสนุก ๆ แต่ครูก็บอกว่ามีการเล่นเกมส์ด้วย ดูสื่อโทรทัศน์ด้วย ครูบอกว่าลูกเราสนใจดูสื่อมาก จ้องตาแป๋วไม่หลับเลยหากเปิดสื่อทีวี ส่วนเล่นเกมส์ไม่ยอมเล่น ไม่ตอบคำถาม ไม่เขียนคำยาก ฟังแล้วก็เห็นภาพลูกนะคะ เข้าใจเขาเพราะว่าเวลาที่ครูอธิบายสอนนั้น ครูคงขึ้นกระดานดำ สอนเช่น สระเดี่ยว สระประสม แบ่งครึ่งหน้ากระดานดำ เขียนตัวขาว ๆ และยืนอธิบายแบบนั้น พอเขาเบื่อ เขาไม่ฟัง หลับบ้างอะไรบ้าง ก็จะไม่เข้าใจ พอไม่เข้าใจ ก็ไม่มั่นใจ ไม่อยากตอบ ไม่อยากเขียน หรือทำอะไรทั้งนั้น

ก็แสดงความเข้าใจในการสอนและตัวคุณครู แลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่าลูกเราเป็นอย่างไร ตัวเราสอนลูกแบบไหน ครูบอกว่าลูกมักบอกว่า “ไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวกลับไปให้แม่สอนให้ได้” ประมาณว่าไม่ต้องเป็นห่วง เขาอาจไม่เข้าใจในห้องเรียน แต่แม่จะช่วยเขาให้เข้าใจได้ ซึ่งเขาเรียนกับแม่ดาวเขาเข้าใจและทำได้ แต่ไม่ค่อยจะยอมเปิดใจเรียน ด้วยอคติ ตั้งแง่ ปิดใจไปก่อนแล้ว

ก่อนจากกันคุณครูก็บอกว่าจะพยายามปลดล็อคในใจลูกเรา และตัวเราเองก็บอกว่าจะช่วยกันหารหัสลับเพื่อปลดล็อคร่วมกัน จากวันนั้นก็ต่างคน ต่างทำหน้าที่ของตัวเองค่ะ เพราะคุณครูโรงเรียนนี้ปกติจะไม่ค่อยมีเวลามาพบผู้ปกครอง อีกทั้งลูกแม่ดาวไม่ได้เรียนพิเศษจึงเลิกเร็วกว่าเด็กคนอื่น ๆ กลับบ้านเร็ว ก็เลยไม่ได้เจอคุณครูอีก ครั้งนั้นคุณครูตั้งใจมาพบเราโดยตรง ต้องขอบคุณในความตั้งใจและปรารถนาดีของคุณครูเนาะ

จากวันนั้นถึงวันนี้ ค่อย ๆ มีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้น เห็นแนวโน้มว่าเขารู้สึกเป็นมิตรกับวิชานี้มากขึ้น อาจมีหลับบ้างฮ่าๆๆๆ เขาก็บอกว่ามันน่าเบื่อมากจริง ๆ เขาพยายามจะไม่หลับแล้วนะแม่ ดีที่เขากล้ากพูดคุยกับเราแทบทุกเรื่อง รายงานกันรายวัน

จนวันที่ 14 ก.ค. 57 ที่ผ่านมา เขาก็ชวนแม่ดาวเล่นเขียนจดหมายกัน เราต่างก็นั่งเขียนจดหมายถึงกันและกัน วันนั้นสามีอยู่บ้าน นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ มีแม่ลูกที่สุมหัวกันเขียน เวลาเขียนเขาจะเอามือป้องไว้ไม่ให้เราเห็น แม่ดาวก็เลยเอาบ้างสนุกดีฮ่าๆๆ

จดหมายฉบับแรก เขาเขียนถึงแม่ดาว เราเขียนแลกกันเอง และเขียนเองก็ส่งกันเอง เล่นบทบาทสมมิตเป็นบุรุษไปรณีย์

ลูก ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง มีจดหมายมาส่งครับ

แม่ ขอบคุณค่า ว้าวมีจดหมายมาส่งด้วย จากใครน้า..(เพราะเขาไม่ได้เขียนจ่าหน้าซองอะไร พับ ๆ มา)

แม่ (อ่านออกเสียง) “มีศีลรักแม่ดาวมาก” (แสดงอาการแอ็คชั่นโอเว่อร์เข้าไว้ เพราะนี้คือการเล่นฮ่าๆๆ ) “โอ้โห....ปลื้มและดีใจสุด ๆ ครับ แม่ก็รักมีศีลมากเช่นกันครับ” (มันก็มาจากใจส่วนหนึ่งนะคะ คือเรารู้สึกยินดีที่เขายอมเขียน และดีใจกับประโยคสั้น ๆ ที่บอกรักแม่ แต่ต้องโอเว่อร์แอ็คติ้งเพื่อความสนุก)

ลูกยิ้มหน้าบาน จากนั้นเขาก็มองไปที่ป๊าที่นั่งจ้องคอมพิวเตอร์อยู่ เขาบอกกับแม่ดาวว่า “แม่เรามาเขียนจดหมายหาป๊ากันเถอะ” จากนั้นก็ต่างคนต่างเขียนเช่นเคย และ เหมือนเดิมค่ะ เป็นบุรุษไปรษณีย์ เขียนเองส่งเอง แต่คราวนี้มีจ่าหน้าจดหมายด้วยนะคะ “ส่งจดหมายให้พ่อที่รัก” และเมื่อเปิดข้อความอ่านข้างใน คือ “ลูกรักพ่อมาก ๆ เลย” แม่ดาวเห็นข้อความนี้น้ำตาจะไหล แห็นอะไรบางอย่างที่ลูกสื่อสารผ่านตัวอักษรน้อย ๆ นี้ เขามีรหัสรัก เป็นรหัสลับอยู่ในข้อความเหล่านี้ค่ะ

ปกติเขาจะเรียกพ่อว่า “ป๊า” แต่เขาเขียนคำว่า ป๊าไม่เป็น มันยากไป เลยเขียนคำว่าพ่อแทน ป๊าเขาก็ให้ความร่วมมือในการเล่นด้วย มีโต้ตอบตอบรับ ชื่นชม ขอบคุณ เขียนจดหมายตอบลูก

จากนั้นแม่ดาวกับลูกก็ไปอาบน้ำเตรียมพร้อมจะเข้านอน ส่วนป๊าก็ยังนั่งคาเครื่องคอมเช่นเดิม เข้าห้องนอนกิจกรรมคือนิทานก่อนนอน เขาขอว่า ขอเวลาอีกหน่อยอยากจะเขียนจดหมายถึงป๊าอีกสักฉบับ แม่ดาวก็ยิ้มและยินดี และเขาขอว่าให้แม่เขียนถึงป๊าด้วย เช่นเคย ก็ต่างคน ต่างเขียน มีเอามือพยายามจะปิดตัวหนังสือให้มิดเช่นเคย แต่ตัวอักษรนี่โตเท่าหม้อแกง จะปิดมิดไหมนั้น

ระหว่างที่เขียน แม่ดาวก็แอบดูเขา เขาพยายามเขียนทุกคำด้วยตัวเอง มีบางคำที่เขียนไม่ได้ ก็จะมาถามว่าเขียนยังไง ซึ่งก็มีแค่ไม่กี่คำที่เขามาถาม นอกนั้นก็เขียนเอง การแต่งประโยคก็เรียบเรียงเอง ตั้งใจมาก เขาจะอ่านทวนตั้งแต่ต้นประโยคใหม่ เวลาที่หยุดมาสะกดคำ เพราะต้องคิดคำเขียนเชื่อมประโยคให้เข้ากัน

สิ่งที่เห็นลูกวันนี้ เราเห็นความรักในแววตาเขา เห็นความสุข เห็นความตั้งใจ ความพยายาม เขากำลังต้องการจะสื่อสารอะไรบางอย่าง พอเขาเขียนเสร็จแม่ดาวขออนุญาติอ่าน เขาก็ให้ และยังอ่านให้ฟัง อ่านจบ น้ำตาจะไหลอีกล่ะ ทั้งชื่นชม ประหลาดใจ ซาบซึ้ง และสงสารเล็ก ๆ ข้อความคือ

“ลูกก็รู้ว่าพ่อก็รักลูกมาก ๆ เลย เวลาที่ลูกทำผิดแล้วพ่อดุ เพราะพ่อรักมากๆ แล้วทำดีแล้วพ่อชมดีใจสุด ๆ จนบินได้เลย”

คุณเห็นอะไรจากข้อความนี้ค่ะ แม่ดาวไม่แปลกใจหากใครไม่เห็นความแตกต่าง หรือรู้สึกอะไรพิเศษกับจดหมายฉบับนี้ ที่แม่ดาวเห็นเพราะแม่ดาวเลี้ยงเขามา เรียนรู้นิสัยใจคอซึ่งกันและกันดี เรียกว่าเขาอ้าปากก็เห็นทะลุไปถึงลำไส้ใหญ่ฮ่าๆๆๆๆ

ที่ผ่านมาลูกชายกับสามีมักจะมีความไม่เข้าใจกันเนือง ๆ สามีมักตำหนิลูกบ่อยๆ ด้วยความรัก อยากให้ลูกได้ดี แต่กลายเป็นเห็นแต่ปัญหาของลูก ข้อดีก็มีชมบ้าง แต่ก็ไม่บ่อยเท่าตำหนิ ด้วยความที่สามีเป็นคนเจ้าระเบียบ และมีแนวคิดการเลี้ยงลูกที่ออกจะต่างกันกับแม่ดาวหลายเรื่อง

จดหมายนี้เป็นจดหมายบอกรัก และขอความรักเพิ่ม เขารู้ว่าพ่อรักเขา และเขาก็รักพ่อมาก เขาปรารถนาให้พ่อชมเขามากกว่าที่จะตำหนิ อยากให้พ่อยอมรับความเป็นตัวตนของเขา หากเทียบข้อความในจดหมายที่เขาเขียนถึงแม่ดาว มันเป็นความรู้สึก ว่าเขาได้รับความรักเต็มแล้วจากแม่ รู้ว่าแม่รัก และพอใจกับความรักที่แม่มีให้แล้ว เต็มใจเขาแล้ว ข้อความจะสั้น ๆ ไม่มีเรียกร้อง ออดอ้อน อย่างของพ่อเขาจะเขียนว่า “ลุกรักพ่อมาก ๆ เลย” หรือจ่าหน้าว่า "จดหมายรักให้พ่อที่รัก"  และตอนท้ายของข้อความในจดหมาย คือ “ทำดีแล้วพ่อชมดีใจจนบินได้เลย” ซึ่งมันหมายถึงดีใจมากๆๆๆๆๆ มากกว่าปกติหลายเท่าตัวนัก ปกติแม่ดาวมักเล่นหยอกกัน เช่นเวลาเขามาบอกรัก หรือชมว่าเราทำอาหารอร่อย ก็จะแกล้งทำว่า “โอีะๆๆๆๆๆ ดูซินี่แม่ดีใจจนเนื้อเต้น ตัวลอยเลยนะเนี้ย” แสดงท่าทาง “เต้นและเขย่งปลายเท้าเหมือนจะลอย” แบบนั้น

ป๊าเขาก็อ่านแล้วก็ขอบคุณ กอดหอมตามประสา แต่ดูท่าว่าจะไม่เข้าใจในรหัสรัก รหัสลับของลูก จากนั้นพาลูกเข้านอน และออกมาคุยถึงจดหมายว่า แม่ดาวเห็นอะไรในนี้ และรู้สึกอยากไร เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกครั้งกับเรื่องดี ๆ ในครอบครัวเรา ตั้งแต่วันนั้นก็เหมือนว่าลูกกับพ่อจะเข้าใจกันมากขึ้น สามีใจดี ยิ้มแย้มบ่อยขึ้น ลูกเองก็มีความเปลี่ยนแปลงไปมาก เช่น ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาตื่นนอนเอง และรับผิดชอบดูแลตัวเองอย่างดี ไม่งอแงจนไปโรงเรียน กลับมาก็ทำการบ้านเองแบบแม่ไม่ต้องมานั่งข้าง ๆ เขาบอกว่าทำเองได้ หากมีอะไรสงสัยจะมาขอความช่วยเหลือจากเราเอง เขารับผิดชอบตัวเองได้ดีผิดปกติมากๆ เขาถึงว่า “มหัศจรรย์แห่งรัก”

ชื่นชมและรับความสุขไปทุกขณะ และไม่คาดหวังว่าสภาพนี้จะคงอยู่ตลอดไป สุขอยู่กับปัจจุบันเนาะ แบ่งปันเรื่องราวอมยิ้ม อิ่มสุขในวันศุกร์ค่า  

หมายเลขบันทึก: 572706เขียนเมื่อ 18 กรกฎาคม 2014 13:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 กรกฎาคม 2014 13:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

เวลาพิมพ์บทความแล้วจะแนบรูปทำอย่างไรค่ะ ทำไม่เป็นคะ  รบกวนผู้รู้สอนหน่อยนะคะ ไว้โอกาสหน้าจะปรับปรุงค่ะ

น่ารัก อบอุ่นมากค่ะ  เก็บจดหมายเหล่านี้ไว้นะคะ  อีก ๒๐ ข้างหน้าจะเป็นสิ่งที่มีค่ามาก

พิมพ์ข้อความแล้ว  

๑. ต้องการใส่รูปตรงไหน วางเคอร์เซอร์ไว้ตรงนั้น

๒ คลิกที่ "ใส่รูปหรือไฟล์" ข้างล่าง  จะปรากฎคำว่า "เลือกไฟล์"  กับภาพในไฟล์อัลบั้ม (ถ้าเราใส่ภาพไว้แล้ว  ต้องการเลือกภาพในไฟล์อัลบั้ม ก็ไปคลิกที่ภาพนั้น  รอจนภาพถูกดึงมาไปปรากฎตรงตำแหน่งที่เราต้องการ)

๓. ถ้าต้องการภาพจากในเครื่องของเรา คลิก "เลือกไฟล์" ปรากฎเมนู "Open" เราก็เลือกเปิดภาพที่เราต้องการ  

พี่เองกว่าจะใช้งานพอเป็น ก็ต้องถามเขาไปเรื่อยๆ แบบนี้แหละค่ะ  เดี๋ยวก็เก่งค่ะน้อง

ขอบคุณค่าสำหรับทุกๆ ความคิดเห็น และคำแนะนำ ครั้งหน้าจะลองทำดูนะคะ  ตอนนี้มีเรื่องหลายเรื่องเลยค่า แต่ยังไม่มีเวลามากพอมานั่งพิมพ์แบ่งปัน  

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท