อร่อยมากๆ ข้าวเหนียว 2ดัง อาหารฟื้นบ้านก้นครัว ขายหมดทุกวันๆๆ ขายดีมากๆ เด็กชอบกิน ผู้ใหญ่ชอบใจ

กิตติยาณีย์/ศูนย์ข่าวหาดใหญ่

ไอเดียเก๋ “ข้าวเหนียว 2ดัง”

อาหารพื้นบ้านก้นครัวสู่ตลาดฝีมือ“นายพิสิฐศักดิ์ ศักดิ์วิเชียร”

ความเจริญที่พาคนในสังคมวิ่งไปพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ บ้างครั้งก็อาจจะทำให้ใครหลายๆ คนโหยหาความหลัง ในวัยเด็ก หลายคนอาจจะเคยสัมผัสกับข้าวเหนียว 2 ดัง ซึ่งเป็นเศษข้าวเหนียวที่เหลือจากการทำต้ม หรือต้มมัด ที่ต้องใช้ในช่วงเทศกาลเดือนสิบสำหรับภาคใต้ หรืออาจจะเหลือจากงานแต่งงาน แต่วันนี้มีข้างเหนียว 2 ดังมีให้กินได้ในทุกเทศกาล และก็อร่อยด้วย

ต้นตำรับที่พัฒนาข้าวเหนียว 2 ดังให้กลายเป็นอาหารว่าง จากที่เคยเป็นของเหลือก้นครัว ที่หากินได้ยาก มาขายจนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วคือ “นายพิสิฐศักดิ์ ศักดิ์วิเชียร” เจ้าของร้านข้าวเหนียวสองดัง ที่สามารถหาซื้อได้ตามงานที่หน่วยงานราชการจัดแสดงสินค้า หรือปัจจุบันจำหน่ายทุกวันที่ร้านจำหน่ายอาหารป้าแอ็ด ตรงข้ามแขวงการทางนาหม่อม อำเภอนาหม่อม

นายพิสิฐศักดิ์ เล่าว่า ข้าวเหนียว 2 ดัง เป็นอาหารว่าง พื้นบ้านของภาคใต้ ตรัง พัทลุง สงขลา นครศรีธรรมราช เรียกข้าวเหนียว 2 ดัง แต่ฝั่งสุราษฎร์ธานี ชุมพร เขาจะเรียกข้าวเหนียวอุบ ข้าวเหนียวอุบคือสมัยก่อน เป็นการนำข้าวเหนียวที่เหลือจากงานแต่งงาน หรือข้าวเหนียวที่ใช้ทำต้มในช่วงเทศกาลเดือนสิบ ต้มห่อใบกะพ้อ มันจะเหลืออยู่หน่อยหนึ่งคือมันเป็นข้าวเหนียวที่แช่ ไม่ได้นึ่ง แต่เป็นการผัดกับกะทิ คือมันจะสุกแหล่ไม่สุกเหล่ เขาก็จะเอามาทำต้ม สามเหลี่ยม ที่เหลือมันจะเป็นดังติดก้นกะทะ มันจะไม่สุก ที่นี้คนแก่ๆ สมัยก่อนคุณตาคุณยาย ก็จะให้ลูกหลานไปตัดใบกล้วย หรือที่เราเรียกว่าหางตอง ก็เอามาปิดไว้ แล้วใช้ฝาหม้อ หรือจานปิดไว้ ตั้งบนถ่านไฟอ่อน เพื่อให้มันสุก เมื่อสุกแล้ว เอาช้อนขูด เพราะมันเป็นดังข้าวที่ติดก้นกระทะ ก็เอาช้อนมาขูดอันนี้เรียกว่าเหนียวอุบ

“ส่วนที่นครศรีฯ พัทลุง ตรัง เขาจะเรียกว่า “ข้าวเหนียว2ดัง” แต่ถ้าไปแถว ระนอง กระบี่ พังงา ภูเก็ต เขาจะเรียกอีกอย่างว่าข้าวเหนียวนั่งห้าง เนื่องจากเวลาเขาเดินทางแล้วมันจะสามารถเก็บได้ประมาณ 2 วัน สำหรับข้าวเหนียวชนิดนี้ เขาจะพาไปเพื่อนั่งห้างส่องสัตว์ในสมัยก่อนโน้น เขาไม่สามารถไปหุงหาอาหารที่นั่นได้ ดังนั้นเขาจึงใช้ตรงนี้เป็นสเบียงอาหาร นั่งห้างส่องสัตว์

ข้าวเหนียวนั่งห้าง ข้าวเหนียวอุบ ข้าวเหนียว 2 ดัง คืออันเดียวกัน ของภาคใต้ เป็นอาหารพื้นบ้านของภาคใต้

นายพิสิฐศักดิ์ เล่าต่ออีกว่า ก็เป็นการจุดประกายที่จะพัฒนาโดยใช้กระทะเทฟร่อน พลิกไปพลิกมาเพื่อให้เป็นดังทั้งสองด้าน ความหมายของเหนียว 2 ดังก็คือตัวนี้ โดยพัฒนามาจากอาหารพื้นบ้านที่เล่าให้ฟังมา

จากวันนี้ถึงวันนี้ เป็นเวลา 15 ปี เริ่มทำจากปลายปี 2542

จุดประกายเริ่มต้นที่ได้ทำ คือได้ยินเรื่องข้าวเหนียวสองดัง ไม่รู้ว่าเขาทำกันที่ไหน ทำอย่างไร ไม่มีใครทำให้ดูด้วยไม่เคยเห็น มันไม่มีขายในท้องตลาด ก็มาคุยกับน้า เขาก็แนะนำว่าน่าจะใช้กระทะเทฟล่อนทำอย่างนี้ เราก็เลยตัดสินใจลองทำดู พอดีว่าภรรยาผมทำข้าวต้มมัดขายในตอนเช้าในกับร้านน้ำชา ซึ่งตรงนี้ขอชื่นชมว่าเธอทำได้อร่อยกว่าท้องตลาดนิดหนึ่ง

ตอนนั้นอยู่อำเภอเมืองสงขลา ภรรยาก็ทำก็นำไปให้พรรคพวกชิม ทุกคนก็บอกว่าลองทำขายซิ ก็ทำขายวางขายตามร้านน้ำชาเล็กๆ น้อยๆ ประมาณสัก 4 กิโลข้าวเหนียว ไปวางขายตอนเช้า แล้วตอนเย็นก็ไปเก็บตังค์

หลังจากนั้นมันมีงานที่สนามกีฬาจังหวัดสงขลา งานมรดกไทย น้องสาวที่อยู่พัฒนาชุมชนที่อำเภอระโนดตอนนั้น ก็มาขอช่วยให้หาคนไปช่วยขายของ คือพื้นที่ที่จะมามันไกล คนที่ขายเขาก็ไม่มั่นใจว่ามันจะขายได้ ก็ไม่มีคนมาขาย น้องสาวก็บอกว่าพี่มาช่วยน้องหน่อย มาขายข้าวเหนียวสองดัง เราก็เลยไปนั่งขาย

บังเอิญว่าตั้งแต่วันแรกเลยผมทำขายไม่ทัน ขายดีมากด้วย ตอนนั้นท่านรองผู้ว่าฯ ประจักษ์ สุวรรณภักดี ผมไม่รู้จักท่าน ท่านใส่กางเกงขาสั้น ใส่เสื้อห่านคู่ ตอนนั้นท่านซื้อเสร็จก็ชูขึ้น แต่คนก็มายกมือไหว้ ไอ้เราก็คิดว่าแล้วคนนี้ใคร

แล้วท่านก็ประกาศว่าอันนี้ข้าวเหนียว 2 ดังอาหารพื้นบ้านน่าจะอนุรักษ์ไว้ คราวนี้ทุกคนก็มาช่วยซื้อ งานนั้นทำขายไม่ทัน ทำเท่าไหร่ก็ขายหมดไม่พอ ตอนหลังก็มีท่านผู้ว่าฯ สมพร ใช้บางยาง ซึ่งตอนหลังก็ย้ายไปเป็นอธิบดี ท่านมาซื้อ จนกระทั่งพวกอส. มาซื้อหิ้วไปฝากเพื่อนฝูง โชคดีตอนนั้น

หลังจากนั้นมีน้องที่เทศบาลนครสงขลา เขาจัดมหากรรมอาหาร 2 ทะเล ปีนั้นเขามาสอนค่าบูส 1,500 บาท ก็บอกเขาว่าใช้ล็อกเดียวไม่พอ ต้องใช้ 2 ล็อก เราก็เอาอุปกรณ์ทุกอย่างไปทำที่โน้น ก็คือเน้นของสด กะทิ ถั่วก็ต้มที่ร้าน ปรากฏว่าขายดีมาก แต่เราได้ขายกันปีละครั้งแค่นั้นเอง เพราะงานอื่นๆ ค่าบูสเราไม่ไหว ราคา 10,000 กว่าบาท จำได้ว่าในงานนั้นผมขายแผ่นละ 35 บาท แต่ตอนนั้นมะพร้าวก็กิโลกรัมละ 15 บาท

แต่ปีนี้กิโลกรัมละ 60-70 บาท แล้วข้าวเหนียวเมื่อก่อนกระสอบละ 650 บาท แต่ตอนนี้ 1,475 บาท ขึ้นไปกว่าครึ่งแล้ว ข้าวเหนียวก็ใช้เงี้ยวงูอย่างดีด้วย ส่วนมากจะมาจากภาคเหนือหรือภาคอีสาน ตอนนี้ใช้ตรานางเงือก รวมทั้งมีตราอื่นๆ ที่ใช้อยู่บ้าง เช่นตรานกเป็ดน้ำ

นายพิสิฐศักดิ์ บอกว่า ลูกค้าก็เป็นคนทั่วไป นอกจากนี้ก็เป็นกลุ่มคนที่อายุเยอะๆ ที่จะคอยบอกลูกหลานว่านี้ นี่คือข้าวเหนียวที่คุณยายเคยทำกินเมื่อก่อน ก็ซื้อให้ลูกๆ หลานได้กิน หลังจากนั้นกลุ่มนี้ก็กลายมาเป็นลูกค้า ซื้อฝากคุณแม่ ซื้อฝากคุณยาย มันเหมือนเราขายภูมิปัญญาไปด้วย สินค้าตัวนี้มันเป็นของเก่า เป็นตำนาน

ในช่วงเทศกาลอาหารสองทะเล เราโชคดีได้พาณิชย์จังหวัดเชิญไปขายที่สุราษฎร์ธานี ออกจากนั้นก็มาขายงานพาณิชย์ของจังหวัดตรัง เราขายวันละ 3 กระสอบข้าวเหนียว ไม่น่าเชื่อที่จังหวัดตรัง ขนาดฝนตกเขามากางร่ม รอคิว ผมทำบัตรคิว 100 ใบ ชุดละ 50 ใบ สีเหลือง กับสีน้ำเงิน เข้าคิวซื้อ ทำทั้งหมด 24 เตาทำกันทั้งหมด 5 คน มี ผม น้องสาว น้องเขย แล้วก็เอาหลานไปช่วย

ซึ่งมีคนพูดว่าข้าวเหนียวย่างมันจะขายได้อย่างไร วันละ 3 กระสอบ แต่มันก็พิสูจน์แล้วว่าเป็นจริง ตอนปีนี้ก็ได้ทำการประชาสัมพันธ์ผ่านรายการวิทยุ และที่สำคัญคือปากต่อปากของลูกค้าที่ช่วยกันบอกต่อ ทำให้ขายดีมาก ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งมาดูผมทำตั้งแต่วันแรก พอกลับจากตรัง ก็มีคนโทรมาบอกว่าเดี๋ยวนี้ที่ตรังมีขายที่เซ้นเตอร์พอย ก็ถือว่าดี เพราะจากวันนั้นถึงวันนี้ก็ทราบว่าเขาขายมาตลอดเลย ก็ถือว่าดีเขาได้มีอาชีพ

หลังจากนั้นพาณิชย์จังหวัดสงขลาบอกว่าให้ไปจดลิขสิทธิ์ ผมก็บอกว่าเราไม่จด ก็คืออยากให้เขาได้ช่วยกันอนุรักษ์ของเก่า เขาจะได้มีอาชีพ ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็ไม่ได้ทำเป็นอาชีพประจำ

แต่ประมาณปีกว่ามาแล้วที่ผมทำขายประจำที่ร้านป้าแอ็ด ให้ลูกชายขายที่บ้านนาหม่อม ตรงข้ามแขวงการทางนาหม่อม

วัตถุดิบมันมีข้าวเหนียว กะทิ น้ำตาลทราย แต่ผมใช้นมสดด้วย ซึ่งข้าวเหนียวของเรานั้นจะคล้ายๆ ข้าวหลาม โดยสามารถเก็บได้ 2 วัน แต่หากมีงานก็จะออกขายตามงาน เช่นงานเกษตรมอ. ก็ขายดีวันหนึ่งไม่ต่ำจากกระสอบ และช่วง 2-3 วันสุดท้ายจะขายได้ดี เพราะเขาจะซื้อไปทุนเอา เพราะเมื่อหมดงานแล้วก็ไม่รู้ว่าจะหาซื้อได้ที่ไหน มันเป็นของกินที่หายาก บ้างคนซื้อไปเก็บไว้แล้วก็อุ่นรับประทาน

บ้างคนซื้อแล้วลืมไว้ในรถ ผ่านไป 2 วันก็ยังรับประทานได้อยู่

สำหรับคนที่สนใจอยากจะเรียนการทำข้าวเหนียวสองดัง นายพิสิฐศักดิ์ บอกว่าหากไปให้สอนที่บ้านก็จะไม่มีค่าใช้จ่าย ก็ลองติดต่อกันไปดู089 2980726 0815414645