ผมเริ่มศึกษาพระเครื่องอย่างจริงจังก็พระชินราชกรุบ้านกร่าง เป็นกรุแรก
เริ่มตั้งแต่ไปเยี่ยมสถานที่ ศึกษาประวัติศาสตร์ พงศาวดาร พุทธศิลป์ เนื้อ และ มวลสาร
ทำให้ทราบลักษณะของพระดินดิบ ดินดิบผสมว่าน การงอกของน้ำว่าน การกร่อนมนของทราย ร่องทราย และชั้นของเนื้อดินที่พัฒนาการมาหลายร้อยปี
และหลังจากนั้นก็มาติดตามพระชินราชเคลือบของวัดใหญ่ชัยมงคล ที่ศิลปะพัฒนามาจากบ้านกร่าง พิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่
ที่พบว่าน่าสนใจมาก ถึงวิธีการเคลือบโดยไม่มีการเผา ย่างมากก็อบความร้อนให้เนื้อแห้ง เนื้อดินยังดิบอยู่เลย
ที่สันลายนิ้วมือจะมีคราบน้ำว่านไหลออกมาจนฉ่ำทุกเส้น เป็นจุดที่ทำเก๊เลียนแบบได้ยากและดูง่ายที่สุด
นอกจากนั้นที่ผิวรอบองค์ยังมีการปิดทองมานาน จนทองงออกสนิมน้ำหมาก ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
มีคราบกรุสีเทาๆ เกาะแน่นบนผิวเคลือบอีกทีหนึ่ง
ทุกจุดจะมีสนิมน้ำหมากคลุม ทำให้น่าศึกษามาก
จากลักษณะดังกล่าว น่าจะอนุมานได้ว่า
เมื่อเวลาผ่านไปหลายร้อยปี แผ่นทองก็ออกสนิมน้ำหมาก แทรกปนอยู่กับคราบกรุ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ที่ทำให้ดูง่ายมากๆ ในหลักการดูพระดินดิบ เนื้อ 8 ชั้น ภายใต้หลักการ 1234+8
ท่านที่สนใจพระกลุ่มนี้ก็ลองศึกษาดูครับ
ไม่มีความเห็น