เดือนมิถุนายนตามจริงก็จัดว่าเป็นห้วงช่วงฤดูฝนเป็นปรกติอยู่แล้ว ถึงแม้ว่ากรมอุตุนิยมวิทยาจะพยากรณ์ว่ามีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดพาดผ่านเอาความชื้นในทะเลอันดามันไปปะทะกับชายฝั่งทางทิศตะวันตกของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นภาคใต้ ภาคกลาง และภาคเหนือจะมีฝนตกในพื้นที่ด้านทิศตะวันตกเป็นส่วนมาก พี่น้องเกษตรกรที่เพาะปลูกพืชไร่ไม้ผลด้านนี้ก็จะมีปัญหาได้รับความชื้นแฉะจากน้ำฝน ซึ่งอาจจะนำพาเอาละอองสปอร์ของเชื้อราที่เล็กเพียง 2-4 ส่วนพันมิลลิเมตร หรือไมครอน ลงมาสู่รากและกิ่งก้านใบ อุณหภูมิที่ชื้นแฉะก็จะเอื้อต่อการเจริญเติบโตบองเชื้อรา โดยเฉพาะเชื้อราโรคพืชที่ก่อให้เกิดโรคใบไหม้ ใบจุด ใบด่าง ใบดำหรือโรครากเน่าโคนเน่าที่อาจจะสร้างความเสียหายให้แก่สวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน พริก มะเขือ ถัวฝักยาว หรือมันสำปะหลัง ตามแต่เกษตรกรในแต่ละพื้นที่จะเพาะปลูกตามความเชี่ยวชาญหรือความพึงพอใจก็สุดแท้แต่
หย่อมความกดอากาศต่ำซึ่งถือเป็นลมที่มีอุณภูมิสูงจะกระจายขยายมวลให้บางเบาและจะลอยตัวสูงขึ้นและนำพาไอน้ำลอยขึ้นไปด้วยหากพัดพาดผ่านทะเลหรือมหาสมุทร และหย่อมความกดอากาศสูงที่มีอุณหภูมิต่ำควบแน่นมวลอากาศจะลอยเข้ามาแทนที่ทำให้เกิดการถ่ายเทอากาศที่เราเรียกว่าลมนั่นเอง ถ้ามีความแตกต่างกันมาก (ลมเย็นมากกับลมที่ร้อนมากๆ) ก็จะทำให้เกิดลมที่รุนแรงขึ้นจนเรียกว่าพายุ ความเร็วไม่เกิด 63 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็จะเรียกว่าพายุดีเปรสชั่น และถ้ามีความเร็วระหว่าง 63 และไม่เกิน 118 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเราก็จะเรียกว่าพายุโซนร้อน และถ้าความเร็วลมมากกว่า 118กิโลเมตรต่อชั่วโมนขึ้นไปเราก็จะเรียกวีาพายุใต้ฝุ่น ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายให้แก่ชาวเรือและกิ่งก้านของพืชไร่ไม้ผลให้ฉีดขากแตกหัก อาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดบาดแผลง่ายต่อการเข้าทำลายของเชื้อราได้เช่นกัน
การใช้ชีวินทรีย์ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อเชื้อราโรคพืชอย่างไตรโคเดอร์ม่าและบีเอสพลายแก้วฉีดพ่นเพื่อป้องกันรักษาในระยะนี้ ถือได้ว่ามีความสำคัญและจำเป็นอยู่มากพอควร เพราะช่วยให้พืชของเราอยู่รอดปลอดภัยจากโรคพืชชนิดต่างๆที่จะทำให้ผลผลิตหรือส่วนต่างๆไม่ว่าจะเป็นกิ่งก้านใบนั้นถูกทำลายได้ เนื่องด้วยจุลินทรีย์ชนิดดีนี้จะทำหน้าที่ปกป้องและกำจัดเชื้อราโรคพืชต่างๆได้เกือบทุกชนิด ไตรโคเดอม่าร์ก็ปราบเชื้อราทางดินขึ้นมา ส่วนบีเอสพลายแก้วก็เก่งที่จะทำลายเชื้อราและแบคทีเรียจากทางอากาศลงมาสู่ทางดินหรือโคนต้น ยิ่งทางดินมีการใส่หินแร่ภูเขาไฟภูมิชซัลเฟอร์ด้วยแล้วยิ่งทำให้พืชมีภูมิต้านทานต่อโรคพืชมากยิ่งขึ้น ช่วยทำให้พืชเจริญเติบโตและแข็งแรงได้อย่างยั่งยืน
มนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
ไม่มีความเห็น