“เอสพริ้น”ขยายไลน์ธุรกิจทุ่ม30ล.ผุดโรงงานผลิตแก้วกระดาษ เจาะตลาดกาแฟและเครื่องดื่มมั่นใจตลาดสดใสเหตุไร้คู่แข่ง


กิตติยาณีย์/ศูนย์ข่าวหาดใหญ่“เอสพริ้น”ขยายไลน์ธุรกิจทุ่ม30ล.ผุดโรงงานผลิตแก้วกระดาษเจาะตลาดกาแฟและเครื่องดื่มมั่นใจตลาดสดใสเหตุไร้คู่แข่งหาดใหญ่-บริษัทเอสพริ้นท์ (2004)จำกัดทุ่ม30ล้านผุดโรงงานผลิตแก้วกระดาษใหญ่ที่สุดในภาคใต้ หลังซุ่มเงียบศึกษาตลาดแก้วกระดาษทั้งในและต่างประเทศจนมั่นใจ ลุยหวังเจาะตลาดกาแฟและเครื่องดื่ม มั่นใจคุณภาพ วัตถุดิบผลิตเหนือกว่าสินค้านำเข้าจากจีน ปลอดภัยผู้บริโภค พร้อมลุยตลาดอาเซียนนายสมคิด ธรรมฤกษ์ฤทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอสพริ้นท์ (2004)จำกัด เปิดเผยว่า จากการศึกษาและดูงานทั้งในและต่างประเทศร่วม2ปี พบว่าธุรกิจกาแฟและเครื่องดื่ม ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตที่สูงมาก ส่งผลให้การนำเข้าบรรจุภัณฑ์โดยเฉพาะแก้วกระดาษประเทศไทยนำเข้าจากประเทศจีนมากถึง95 %ในตลาดแมส (Mass Product)โดยมีบริษัทที่ผลิตแก้วกระดาษในประเทศไทยเพียง2-3รายหลักๆเท่านั้น รายใหญ่นั้นตั้งอยู่กรุงเทพมหานครผลิตให้ลูกค้ารายหลักอย่าง7-11แฟมิลี่มาร์ทจากการศึกษาวิจัยเช็คต้นทุนทุกอย่างแล้วมั่นใจว่าเราสามารถสู้ราคาบรรจุภัณฑ์แก้วกระดาษที่มาจากเมืองจีนได้ และจากการสำรวจตลาดพบว่า ลูกค้าที่ใช้แก้วกระดาษจากจีนมีปัญหาเรื่องสินค้าไม่มีคุณภาพ สีเลอะ รั่ว และมีกลิ่น บริษัทจึงได้ตัดสินใจแตกไลน์ธุรกิจโดยลงทุนเพิ่มอีก30ล้านบาท ตั้งโรงงานผลิตแก้วกระดาษ โดยโรงงานใหม่ได้เดินเครื่องผลิตมาตั้งแต่เดือนมีนาคม2014ที่ผ่านมานายสมคิด กล่าวอีกว่าสำหรับตลาดในเบื้องต้นนั้นเจาะตลาดทั่วไป ซึ่งมองไว้ทั้งภาคใต้และส่วนกลาง รวมทั้งภูมิภาคอื่นๆ หลักๆจะเป็นร้านโชว์ห่วย ร้านขายส่ง และร้านเบเกอรี่ ต้นทุนเรา ถูกกว่าจีนประมาณ5-10 %คุณภาพดีกว่า ปัจจุบันกำลังผลิตอยู่ที่30-40ตัน/เดือน เครื่องเดินปกติ8ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งอนาคตหากตลาดมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น ขยายตลาดได้มากขึ้น โรงงานสามารถผลิตได้ตามความต้องการ คือเราสามารถเดินเครื่องได้24ชั่วโมง และพร้อมซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติมรองรับความต้องการของตลาดเพื่อทดแทนการนำเข้าจากประเทศจีนผู้บริหารบริษัทเอสพริ้นท์ (2004)จำกัด กล่าวอีกว่า มั่นใจว่าสินค้าตัวนี้จะมีอนาคตที่สดใส เนื่องจากประเทศไทยนำเข้าจากประเทศจีนประมาณ20ตู้คอนเทนเนอร์ที่กระจายไปทั่วประเทศและปัจจุบันคู่แข่งมีน้อย ภาคใต้ไม่มีคู่แข่ง เอสพริ้นท์เน้นคุณภาพ แก้วที่ผลิตออกมาทุก100ใบ จะผ่านการเทสคุณภาพ (QC) 1ใบ และที่ลูกค้ามั่นใจคือแก้วกระดาษที่ผลิตออกมาเราเน้นคุณภาพสะอาดทุกขั้นตอน ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ หมึกพิมพ์ที่ใช้ก็เป็นหมึกฟูดส์เกรด (Food Grade)สำหรับอาหารโดยเฉพาะ แตกต่างจากสินค้านำเข้าจากประเทศจีนที่ใช้หมึกพิมพ์ออฟเซ็ทที่มีอันตรายนายสมคิดกล่าวอีกว่าในปัจจุบันไลฟ์สไตล์ของคนเปลี่ยนไป งานแต่งงาน งานบวช งานศพ หรืองานเลี้ยงต่างๆ เจ้าภาพหันมาใช้แก้วน้ำที่ใช้แล้วทิ้ง ซึ่งอนาคตธุรกิจนี้ยังมีช่องทางในการเติบโตสูง และข้อสำคัญมีความละเอียดในการผลิตทุกขั้นตอนที่ทำให้เข้าสู่อุตสาหกรรมนี้ยาก ต่อให้มีเงินก็ยาก เพราะทุกกระบวนการการผลิตมีข้อจำกัดเยอะมากสำหรับทิศทางในอนาคต นายสมคิดกล่าวว่า บริษัทเอสพริ้นฯจะเน้นไปในการผลิตบรรจุ-ภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับอาหาร และนอกจากตลาดในภาคใต้ เอสพริ้นก็มีแผนในระยะกลางที่จะเจาะตลาดในเอเชีย โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบานทั้งลาว เขมร พม่า รวมทั้งมาเลเซียในอนาคต ในส่วนของสื่อสิ่งพิมพ์และสมุดโรงเรียน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทเอสพริ้นฯ ตลอด18ปีที่ผ่านมาบริษัทเอสพริ้นท์พัฒนาจนกลายเป็นโรงงานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ แต่สถานการณ์การเมืองที่กระทบภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้งการแข่งขันที่สูงขึ้น ก็ทำให้กำไรของบริษัทลดน้อยลง โดยปีที่ผ่านมาเอสพริ้นท์มียอดขายที่90ล้านบาท ในปี2557ตั้งเป้าว่า จะสามารถโต120ล้านบาท เนื่องจากเอสพริ้นฯยังเป็นผู้ผลิตรายหลักสมุดโรงเรียนในภาคใต้และ มีแก้วกระดาษช่วยเพิ่มยอดขาย

หมายเลขบันทึก: 568999เขียนเมื่อ 23 พฤษภาคม 2014 10:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม 2014 10:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท