สุดยอดเมนูฮิต “แอ๊บรังผึ้ง”


สุดยอดเมนูฮิต “แอ๊บรังผึ้ง”


         สุดยอดเมนูฮิต แอ๊บรังผึ้ง” เผยรังผึ้งหลวงย่างกำลังได้รับความนิยม จากชาวบ้านแห่ซื้อรับประทาน ด้วยรสชาติอร่อยหวานมัน ระบุหลายคนเชื่อว่ามีคุณค่าทางอาหารมากมาย  16 พ.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่ทางองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) เผยที่สำนักงานใหญ่ในกรุงโรมของอิตาลี โดยระบุ พบ “อาวุธลับ” ที่สามารถช่วยให้ประชากรโลก หลุดพ้นจากภาวะอดอยากขาดอาหาร ระบุการบริโภคแมลง คือ ทางออกของมนุษยชาติ พร้อมยกตัวอย่าง “ยำไข่มดแดง” สุดยอดเมนูจากไทย เป็นหนึ่งในรายการอาหารทรงคุณค่า โปรตีนสูง ไขมันต่ำ เป็นอาหารชั้นเยี่ยมที่อาจช่วยประชากรโลกพ้นจากการอดตาย ทั้งนี้ หลังจากมีข่าวเรื่องนี้ออกมา ก็มีความตื่นตัวการบริโภคแมลงเกิดขึ้น โดยเฉพาะที่ จ.พิษณุโลก นอกจากไข่มดแดงแล้ว แมลงทอดต่างๆ รังผึ้งย่าง หรือแอ๊บรังผึ้ง กลายเป็นอาหารป่าอีกชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมในขณะนี้ ทำให้มีประชาชนมาหาซื้อไปรับประทานจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่บอกว่ารสชาติหวาน มัน อร่อย จึงมาซื้อไปรับประทาน

           นางลำยง เพ็ญวิจิตร อายุ 53 ปี แม่ค้าขายรังผึ้งย่าง หรือแอ๊บรังผึ้ง ตลาดเทศบาล 1 หรือ ตลาดใต้ กล่าวว่า ขายรังผึ้งย่างมาแล้วกว่า 10 ปี แล้ว โดยจะมีชาวบ้านจาก จ.พิจิตร ตีรังผึ้งหลวง รังมิ้ม มาขายให้ กิโลกรัมละ 200 บาท จากนั้นก็นำมาแบ่งขายในราคากิโลกรัมละ 300 บาท รวมทั้งนำมาแบ่งย่างขายห่อละ 60 บาท ซึ่งได้รับความนิยมมาก เนื่องจากประชาชนที่มาซื้อบอกว่ารสชาติ อร่อย หวาน มัน อีกทั้งยังมีคุณค่าทางอาหารสูง บางรายบอกว่ามีโปรตีนสูง แต่ในช่วงหน้าฝนจะหาทานยาก เนื่องจากคนตีรังผึ้งจะไม่ออกตีต้องรอจนหน้าหนาว

             อย่างไรก็ตาม ใน “รังผึ้ง” ยังมีสรรพคุณในการช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เริ่มศึกษาวิจัยหาคุณประโยชน์จากสาร “พรอพโพลิส” (Propolis) สารสกัดจากรังผึ้ง ที่มีลักษณะเหนียวข้นเป็นยาง (Resinous) ซึ่งได้มาจากยางของเปลือกไม้ที่ “ผึ้งงาน” รวบรวมไว้ และนำมาผสมกับไขผึ้งเพื่อซ่อมแซมรัง อุดรอยรั่ว ตลอดจนรักษาความสะอาดและป้องกันการระบาดของเชื้อโรคในรังของผึ้ง การสกัดสารพรอพโพลิสนั้นจะอยู่บริเวณทางเข้าของผึ้ง และวิเคราะห์ส่วนผสมพบว่า พรอพโพลิสประกอบด้วย ส่วนผสมของยางไม้และขี้ผึ้งประมาณร้อยละ 50-55 ขี้ผึ้งเหลืองร้อยละ 30 น้ำมันหอมร้อยละ 10-15 และละอองเกสรร้อยละ5 เมื่อศึกษาลึกๆลงไปพบสาระสำคัญที่ทำให้พรอพโพลิสเป็นสารปฏิชีวนะที่ดีที่สุด ตามธรรมชาติ คือ สารประกอบฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) จากพืชที่มีคุณสมบัติต่อต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันต่อต้านเชื้อ แบคทีเรีย เชื้อไวรัส เชื้อรา และมีคุณสมบัติยับยั้งการอักเสบได้ดี ในต่างประเทศยังนำพรอพโพลิสมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ ต่างๆ เช่น สบู่, ยาสีฟัน เพื่อช่วยป้องกันและยับยั้งแบคทีเรีย ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก</p>

หมายเลขบันทึก: 567501เขียนเมื่อ 6 พฤษภาคม 2014 16:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 พฤษภาคม 2014 13:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อืมม พึ่งรู้จักครับ ;)...

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท