คนเราเริ่มชีวิตการทำงาน เร็วเท่าไรก็ยิ่งดี..บีแมนจำได้ว่าเริ่มทำงานหาสตางค์เองตอนเรียนอยู่ชั้นม.ศ.๓ (เท่ากับ ม.๔ ในสมัยปัจจุบัน) ประมาณอายุ ๑๖ ปี..ถ้าเป็นเมืองจีนสมัยโบราณคนเก่งๆ ก็อาจสอบได้จอหงวนตอนอายุ ๑๖ ปี..
วัยทำงาน..คนที่เรียนน้อยก็จะเริ่มชีวิตการทำงานเร็ว..คนที่เรียนมากก็จะเริ่มชีวิตการทำงานช้าหน่อย จบปริญญาตรีตอนอายุ ๒๐ กว่าๆ ก็เริ่มไปหางานทำ (สมัครงาน) นี่กล่าวถึงคนส่วนใหญ่น๊ะครับ
สิ่งที่ควรคำนึง..สำหรับคนที่เริ่มต้นงานก็คือ
และที่สำคัญสำหรับตัวเองคือ "อย่าหยุดนิ่งที่จะเรียนรู้"...
สิ่งควรคำนึงทั้ง ๖ ข้อ สามารถหาอ่านได้ในคู่มือสมัครงานทั่วไป..เราจะไม่กล่าวถึงในที่นี้..
บีแมนมีข้อคิดสำหรับ "งานในฝัน" ดังต่อไปนี้ (เป็น Keyword)
ในการ "รู้หา" ต้องทราบ "หลักการ" ของ "แหล่งที่มาของรายได้"
แหล่งที่มาของรายได้
บีแมนก็ขอแชร์ประสบการณ์หน่อยหนึ่ง...คือตอน เรียนหนังสือ..ได้ไปเรียนเรื่องราวเกี่ยวกับ "ชีววิทยาของผึ้งและการเลี้ยงผึ้ง" พอมาทำงาน...มีอาชีพรับราชการในตำแหน่งอาจารย์ (หากมีโอกาส ในบทหลังๆ จะได้กล่าวถึงข้อดีของการทำงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนทางการเงิน)....มีอาชีพคือสอนนิสิต นักศึกษา เป็นงานอาชีพ ขณะเดียวกันก็เลี้ยงผึ้งเป็นงานอดิเรกด้วย..
บีแมนมีรายได้จาก
Keyword ของการรู้หาคือ หาเงินเพิ่ม เสริมรายได้
จากบทที่แล้ว ได้กล่าวถึงว่า..พอเริ่มชีวิตทำงาน ต้องวางแผนเก็บเงินเอาไว้สัก ๕ ปีก่อนแล้วค่อยคิดว่าจะเอาเงินนั้นไปทำอะไร...
เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน....เราจะเริ่มชีวิตการทำงาน ด้วยการสมมุติให้มีรายได้จากงานประจำ เดือนละ ๑๕,๐๐๐ บาท (พร้อมๆ กับ ค่าทำงานล่วงเวลาหรือรายได้อื่นๆ อีกสัก เดือนละ ๒,๐๐๐ บาท)
โปรดติดตามตอนต่อไป..
ครับขะติดตาทอ่านไปเรื่อยๆครับ