เคลียร์ประเด็นให้ชัดๆ เคลียร์คัท กันก่อน
เปิดประเด็นวิจัย โดยท่านผู้อำนวยการให้คุณเดี่ยว เล่าที่มาที่ไปและคอนเซปท์
ของงานวิจัย ที่รับเรื่องมาจากส่วนกลาง และปรึกษาผู้ใหญ่มา
ได้แนวทางตามชื่อเรื่อง แต่ยังมีบางประเด็นที่ยังสงสัย เกี่ยวกับชื่อเรื่อง และ
PICO ที่ต้องถกกันว่า ต้องมี C หรือไม่
P = Pt โรคร่วมจิตเวชสารเสพติด
I = ปัจจัยเสี่ยงของการกลับมาเสพซ้ำ - ครอบครัว - ทักษะการจัดการกับปัญหา - โรคทางจิตเวชสารเสพติดที่ไม่สัมพันธ์กับปัจจัยเสี่ยง
C = Pt โรคร่วมจิตเวชสารเสพติด ที่ไม่สัมผัสกับปัจจัยเสี่ยง
O = การกลับมาเสพซ้ำ การมี หรือ ไม่มี
ส่งผลกระทบถึง รูปแบบการวิจัย
ชื่อเรื่องการศึกษาปัจจัยเสี่ยงการกลับมาเสพซ้ำของผู้ป่วยโรคร่วมจิตเวชสารเสพติด
ถ้าไม่มี อ.กะปุ๋ม แนะนำให้ทำ Path analysis
จากเดิมที่เหมือนจะงงๆ แต่พอ อ.กะปุ๋มอธิบายว่า
ก็เหมือนกับ การเสพซ้ำมีผลมาจากหลายปัจจัย
ปัจจัย ก ส่งผลให้เสพซ้ำโดยตรง ปัยจัย ง ส่งผลให้เกิดปัจจัย ก
แล้วปัจจัย ก ค่อยส่งผลให้เกิดการเสพ ปัจจัย ง เป็นผลโดยอ้อมที่จะทำให้เกิดการเสพซ้ำ
ปัจจัย ข เป็นปัจจัยโดยตรง ถ้าจะลงมือแก้ ก็จะแก้ที่ปัจจัย ก ก่อนแล้วค่อยเป็น ข
พอแต่ละคนคิดตาม โมเดลที่ อ.กะปุ๋ม ชี้ ก็เหมือนกระจ่างในใจ
เห็นหนทางที่จะเกิดโมเดลในการทำวิจัย แต่ก็ติดอยู่ที่ว่า เรื่องวิจัยที่ถูกกำหนดมา ผู้ให้ทุน/ผู้ที่กำหนดเรื่องวิจัยมาให้
สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบที่แตกต่างไปได้หรือไม่เพราะคุณเดี่ยวให้ข้อมูลว่า
ปรึกษาอาจารย์แล้วท่านบอกว่า ให้ทำวิจัยแบบเปรียบเทียบ เหมือนได้ระดมสมองช่วยกันมองว่า ถ้าจะวิจัยเชิงเปรียบเทียบ จะศึกษาปัจจัยอะไร
อ.กะปุ๋มยกตัวอย่าง คนสองคนเดินเข้ามา
คนหนึ่งเสพซ้ำเพราะปัจจัย ก ข ค ง อีกคน เสพซ้ำแต่ไม่ใช่ปัจจัย ก ข ค ง
แต่เหมือนยังขาดอะไรไป
หมอยิ้มเสนอว่า เราต้อง review. ปัจจัย
แล้วมีไหม คนที่เสพโดยไม่มีปัจจัย อ.กะปุ๋มโยนคำถาม
หลายคนครุ่นคิด
หมอยิ้มตอบว่า การเสพต้องครบ 3 ปัจจัย บุคคล สาร และสิ่งแวดล้อม
นั่นแสดงว่าต้องมีปัจจัย อ.กะปุ๋มย้ำ มันมีเหตุ จึงจะมีผล ไม่มีเหตุ ก็ไม่มีผล
คนจะเสพจำต้องมีปัจจัย ขับเคี่ยว
ช่วยคิด ช่วยกันหาหนทาง ทั้งโทรประสาน คุณแป๋มเพื่อขอความชัดเจน แบบร่วมด้วยช่วยกัน
บรรยากาศแบบนี้ เข้มข้นแบบช่วยกันคิด แม้ยังไม่ปิ๊ง แต่นี่คิด ร่วมแรงร่วมใจ
ไม่มีความเห็น