โอกาสจากธรรมชาติ...ในหนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียวกับการออกดอกติดผลของผักหวานป่าในแต่ละปี"การรอคอย"ได้สอนอะไรมากมายให้กับหัวใจ(ที่มันดิ้นรนมากกว่าหยุดนิ่ง) การทดลองหาคำตอบกับผักหวานป่าในวันนี้และปีนี้เวลานั้นหมดลงพร้อมๆกับคำตอบบางอย่างที่ได้มา..รวมถึงคำถามที่ค้างคาที่ยังไม่ได้ทำ แต่ก็ทำไม่ได้(เวลาหมด)ต้องรอเวลาเดียวกันนี้ในปีหน้า
คำตอบที่ได้มา..จากการพ่นฮอร์โมน(หวานใจ)
...ดอกผดในต้นที่พ่นฮอร์โมนเมื่อดอกเริ่มบานจะมองเห็นตุ่มเล็กๆอยู่ตรงกลางดอกซึ่งเป็นลักษณะของดอกที่จะพัฒนาเพื่อเป็นผลของผักหวานป่า..จากปีก่อนๆที่ยังไม่ได้พ่นฮอร์โมนดอกเหล่านี้จะมีเพียงเกษรผงเหลืองๆอยู่ข้างในดอกเมื่อบานเท่านั้น(เป็นลักษณะเช่นเดียวกันนี้ทุกต้นที่ทำการพ่น)..เมื่อเปรียบเทียบกับต้นดอกผดที่ไม่ได้พ่นฮอร์โมนทุกต้นจะไม่มีตุ่มผลตรงกลางดอกเลยแต่จะเป็นผงเกษรเหลืองๆเท่านั้น
...ต้นผักหวานอายุประมาฯ13-15ปีที่ไม่เคยออกดอกเกิน3ช่อในแต่ละปี หลังจากพ่นฮอร์โมนตอนนี้กำลังทยอยออกดอกมาแล้ว30-40ช่อ
...การให้น้ำในระดับพื้นดินแบบต่อเนื่องรวมถึงการสร้างร่มเงาลดความร้อนแรงของแสงแดดในฤดูร้อน(เรื่องที่ดูเหมือนไม่ยากแต่มันไม่ง่ายเลยที่เวลาลงมือทำทุกครั้งกลับต้องพบอุปสรรคขวางกั้นตลอด)
...ต้นผักหวานที่ถูกพ่นฮอร์โมนในต้นที่ยังไม่ออกดอกมีการแตกยอดอกมาได้ดี ซึ่งใบมีความสดชื่นอยู่ได้นานท่ามกลางแดดแผดเผา..เมื่อเทียบกับต้นที่ไม่ได้พ่นอยู่ในโซนพื้นที่เดียวกันที่ใบมีการเหี่ยวเฉามาก
สิ่งที่ค้างคาแต่ต้องรอเวลาและโอกาสในปีหน้า พ.ศ.2558
...ช่วงเวลาการพ่นฮอร์โมน ระยะเวลาในการพ่น
...การทดสอบการมห้น้ำแบบสปริงเกอร์แบบแปลงกับการให้น้ำหยด(ไหล)ที่โคนต้น
***ลักษณะและดอกผักหวานตัวเมีย(2557)***
...ปีนี้ได้ต้นตัวเมียเพิ่มอีก3-4ต้นแม้จะออกดอกไม่กี่ช่อแต่ก็ดีใจที่เป็นผู้หญิง
***ลักษณะชนิดของดอกผักหวานป่าที่เรียก"ดอกผด"...(ตัวผู้)***
...ดอกเป็นช่อมีก้่านไข่ แบบเดียวกันทั้งต้น...
...ดอกเป็นไข่ช่อยาวไม่มีก้าน แบบเดียวกันทั้งต้น...
...ดอกเป็นช่อก้านและไม่มีก้าน อยู่ในต้นเดียวกัน...
...ดอกผดทั้ง3แบบติดผลทุกแบบแต่ยังติดน้อย ปีนี้รอลุ้นผลพ่นฮอร์โมน...
...ลักษณะผงสีเหลืองละเอียดเหมือนแป้งที่อยู่ในช่อดอกผดเมื่อดอกบาน แต่ไม่มีในดอกชนิดตัวเมีย...
ถึงแม้ดอกผดที่กำลังแบ่งบานกำลังจะพัฒนามาเป็นผลของผักหวานป่าจะถูกแสงแดดแผดเผาในเวลาเพียง5-7วันของต้นเดือนมีนาคมปีนี้ที่ร้อนแล้ง(รอมานานนับปีดับในเวลา5วัน) ก็ไม่เป็นไร...เพราะอย่างน้อยๆหัวใจก็ได้รับคำตอบกับ"ฮอร์โมน(หวานใจ)" ที่ช่วยดับความค้างคาใจความสงสัยในชีวิตได้อย่างมากมาย(หากยังไม่ตายปีหน้าคงได้เริ่มใหม่..จัดเต็มกว่าเดิม)
***จากการทดลองฮอร์โมน(หวานใจ)ในปีนี้...กลับทำให้มองเห็นคำว่า ผลิตภัณฑ์,สิทธิบัตร,ทรัพย์สินทางปัญญา,(รูปแบบภาคปฎิบัติโครงการ) ผักหวานพอเพียง โมเดล,โอภาสโมเดล***
*** ขอบพระคุณ สวัสดีค่ะ ***
...เป็นบทสรุปการศึกษา ปลูกผักหวานที่เห็นผลการเจริญเติบโต และความแตกต่างของเพศผักหวานได้ชัดเจนนะคะ...ว่าแต่งูในภาพชื่องูอะไรค่ะ...
สวัสดีค่ะคุณเพชรน้ำหนึ่ง...ขอบคุณที่กรุณาแวะมาเยี่ยมชมค่ะ ใบชะพลูมันแวววาวน่าทานจังค่ะดอกแคในภาพแถวๆบ้านเรียกดอกแคฝอยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะคุณครูมะเดื่อ...ขอบคุณสำหรับดอกกุหลาบสีหวานๆค่ะ
ผักหวานป่าแถวๆอีสานก็นับวันลดลงเช่นกันค่ะด้วยเหตุนี้จึงพยายามเผยแพร่ให้คนหันมาปลูกอนุรักษณ์ไว้ให้คงอยู่ถึงรุ่นลูกหลาน
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะท่านอาจารย์พจนา...สำหรับผักหวานป่ากับการเรียนรู้ก็สรุปข้อมูลเก็บไว้ไเรื่อยๆค่ะ(วันนึงคงได้ใช้ประโยชน์บ้าง) ส่วนงูบนต้นผักหวานเรียกว่า"งูเขียว"ค่ะ งูเขียวจะมี2ชนิดคือ"งูเขียวหางไหม้"(หางด้วน)ชนิดนี้มีพิษเทียบเท่ากับงูเห่าทำให้ถึงตาย..ส่นอีกชนิดคือ"งูเขียวหางยาว" ชนิดนี้ไม่มีพิาร้ายแรงค่ะ งูเขียวจะอาศัยอยู่ตามต้นไม้มากกว่าอยู่ตามพื้นดินเหมือนงูทั่วๆไปค่ะ..ที่สวนส่วนมากจะเป็นงูเขียวหางยาวค่ะ งูเขียวหางไหม้น้อยมากจะพบเจอ(ที่จริงแล้วงูเค้าก็มนุษย์เรามากกว่าค่ะอาจารย์)
ขอบพระคุณค่ะ