Les Miserables โดยบังเอิญ


Les Miserables คงมีอะไรสักอย่างดลใจให้ผมเปิดดูหนังจากช่อง HBO ในคืนนี้

หรือเป็นเพราะว่า น้องจ้าบอกผม "เขาจะมีละครเวทีเรื่อง สี่แผ่นดิน อีกแล้วนะพ่อ" เธอบอกด้วยแววตาที่ผมสามารถเดาใจได้โดยไม่ปิดบังว่า "อยากดูอีก" เธอยังบอกอีกว่าจะมีในช่วงเดือนกรกฎาคม ตอนนี้ยังหานักแสดงเป็นแม่พลอยตอนเด็กกันอยู่ ผมเลยเสริมความฝันลูกไปว่า "เราจะไปดูกัน และดูสักคนละ ๒ รอบนะลูกนะ" ผมอยากดูละครเวที ผมและน้องจ้าชอบดูละครเวที

จิ๋มมักจะบ่นเสมอ ว่าอุตส่าห์เสียตังค์จ่ายให้ True ทุกเดือน แต่ผมมักจะดูทีวีเพียงไม่กี่ช่อง ไม่คุ้มค่าเงินที่จ่ายไป ผมติด Discovery Science, National Geographic, Animal planet และ X-ZYT

มีคนเคยบอกว่า Les Miserables น่าดู ลูกศิษย์คนหนึ่งบอกว่า "มันอ่านว่า ลา มิสเซอราพ ครับอาจารย์"

มีคนบอกว่าหนังมันยาวมาก มีคนบอกว่าเพลงมันเพราะมาก และตอนนั้นผมยังอินกับคำบอกเล่า ไปหาซื้อซีดีเพลงมาฟัง ฟังได้ไม่กี่ครั้งก็เบื่อ มีเพียงเพลงรักอยู่เพลงเดียว I dreamed a dream

มีคนเอาหนังเรื่องนี้มาแปะใน youtube ซึ่งผมได้ดูเพียงไม่กี่นาทีก็มีภารกิจอื่นต้องทำ กลับมาดูอีกครั้ง มันก็ดูไม่ได้เสียแล้ว

ผมลืมมันไปนานแล้ว จนกระทั่งวันนี้ คืนนี้

ค่ำคืนนี้ผมง่วงแทบเป็นแทบตาย ไม่รู้ไปอดหลับอดนอนมาจากไหน ไปกอดน้องจ้าก่อนนอนก็แทบหลับคาเตียงลูก กลับมาอาบน้ำเตรียมตัวนอนก็เปิดทีวีดูสักนิดพลางนึกในใจ "ทำไมอยากดูหนังจัง" ว่าแล้วก็กดเลื่อนช่องไปเรื่อยๆ ต้องกดไปเรื่อยๆเพราะจำไม่ได้เลยว่าช่องหนังอยู่ช่องไหนบ้าง กดไปราวร้อยครั้งก็เจอช่อง HBO หนังเรื่องหนึ่งจบพอดี แอบเหลือบตามองลงไปด้านล่าง เขาบอกว่าเรื่องต่อไปคือ Les Miserables ผมจึงไม่เลื่อนไปช่องไหนอีก

กว่า ๒ ชั่วโมงที่นอนดูจนไปเยี่ยวไม่ได้นั้น บอกได้เลยว่า "มันเยี่ยมมาก" ผมย้อนนึกไปว่า "นี่ผมกำลังดูละครเวทีอยู่หรือ" เพราะตลอดทั้งเรื่องเขาดำเนินไปด้วยเพลง เพลง และเพลง ฟองทีนในเรื่อง ร้องเพลง I dreamed a dream ได้เพราะลึกสุดใจ นักแสดงก็แสนสวย สวยทั้งแม่และลูกสาว "โกแซตต์"

Les Miserables เป็นเรื่องของคนที่เคยเกลียดคน คนที่เคยถูกจับเข้าคุก ๑๙ ปี ด้วยข้อหาขโมยขนมปังเพียงเพื่อการยังชีพของหลาน (อันที่จริง โทษเขาเพียง ๕ ปีเท่านั้น แต่ที่เหลือคือโทษพยายามหนี) โทษของเขา สังคมไม่เคยลืมและไม่ให้อภัย แต่การถูกอภัยจากบาทหลวงในโบสถ์แห่งหนึ่ง ทำให้เขาเปลี่ยนไปและรักความเป็นคนของทุกคน

ชายคนนี้ต้องมาเลี้ยงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกของหญิงคนงานในโรงงานเขาซึ่งถูกกลั่นแกล้งจนโดนไล่ออกอย่างไม่เป็นธรรมและต้องออกมาเป็นโสเภณีหาลี้ยงชีพ และลูกสาวที่อยู่ไกลกัน เมื่อเขารู้ว่าตนเองเป็นสาเหตุ จึงสัญญาว่าจะเลี้ยงดูลูกสาวของเธออย่างดีที่สุด และเรื่องก็เริ่มดำเนินไป

เนื้อเรื่องในยุคปฏิวัติฝรั่งเศสดูแล้วสะท้อนใจ คนกลุ่มหนึ่งพยายามปลดแอกประเทศ (ไม่รู้ว่าจะเหมือนกับคำว่าปฏิรูปประเทศไหม) คนส่วนใหญ่หรือประชาชนแอบอยู่ในบ้านเพราะกลัวอันตราย (มันอาจจะถูกเรียกว่า ฝรั่งเศสเฉย ก็ได้ในยุคนี้) เด็กตัวเล็กถูกทหารยิงตายอย่างโหดร้าย (แต่ยุคนี้ไม่ได้ถูกทหารยิง...แล้วใครยิงวะ)

หนังจบดีครับ แม้ว่าพระเอกของเรื่องต้องตายเพราะแก่ แต่ผมรู้สึกประทับใจมากกว่าเศร้าใจ นั่นมันอาจจะเป็นเพราะว่า เขาตายอย่างสมเกียรติดีเหลือเกิน เขาตายโดยได้ให้อภัยใครต่อใครมามากมาย และเขาตายเมื่อหน้าที่ทุกอย่างได้ถูกปฏิบัติอย่างดีที่สุด

การแสดงออกถึงการตายจากหนังเรื่องนี้ ชวนให้ผมนึกไปถึงละครเวทีเรื่องสี่แผ่นดินที่เคยดูมา เขาใช้คนที่ตายไปแล้วมารับคนใกล้ตาย เฉกเช่น คุณเปรมหาแม่พลอย ตาอ๊อด แม่ และเสด็จ ต่างก็มารับแม่พลอยเมื่อสิ้นเสียงปืนจากการลอบปลงพระชนม์ในหลวงรัชกาลที่ ๘

 

แม่เจ้า ค่ำคืนนี้ช่างดีจริงๆ ว่าแต่ว่า ใครนะ ที่แอบมาล่วงรู้ว่าผมอยากดูหนัง อยากดูละครเวที อยากฟังเพลงเพราะ อยากดู Les Miserables

แต่จะใครก็ตาม ขอให้รู้ว่า ผมขอบคุณท่านอย่างจริงใจ

ธนพันธ์ ๑ มีนาคม ๒๕๕๗

๒.๑๕ น.

ตาค้าง

คำสำคัญ (Tags): #les miserables#ละครเวที
หมายเลขบันทึก: 563032เขียนเมื่อ 2 มีนาคม 2014 07:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 มีนาคม 2014 07:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท