Knowledge Translation in occupational therapy of pediatric field. ถอดบทเรียนกิจกรรมบำบัดฝ่ายเด็ก

Seminar in occupational therapy of pediatric field by Dr.Kannika Permpoonpattana has a perspective on what the occupational therapist should develop themselves and work with service mind. According to the article below.
มาพบกับสัมมนากิจกรรมบำบัดฝ่ายเด็กโดยอาจารย์ ดร.กันนิกา เพิ่มพูนพัฒนา ซึ่งได้ให้มุมมองในสิ่งที่นักกิจกรรมบำบัดฝ่ายเด็กควรพัฒนาตนเองและทำงานกับเด็กด้วยใจ ตามบทความข้างล่างนี้เลยคะ

1. What is the key mission of the occupational therapist in pediatric clients?
   อะไรคือภารกิจที่สำคัญของนักกิจกรรมบำบัดฝ่ายเด็ก?
   
   >> Now occupational therapist in pediatric field works with the children in developmentally disability a lot. In the future, we should work with all kind of children both normal and abnormal. In normal child should be a promotion. For the abnormal child should be a rehabilitation to get them going to like nearly the normal development.
        In current we have just a small number of occupational therapist.The pubic hospital can treatment the children only 1 time/month.  If children get the treatment of occupational therapy very frequently such as 1 time/week or 3 times/week. The parent can go back to their home and they can do whatever we advice. Thus the children can get more improvement.
   >>  ปัจจุบันนักกิจกรรมบำบัดฝ่ายเด็กทำงานกับเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการจำนวนมาก ในอนาคตนักกิจกรรมบำบัดควรทำงานกับเด็กทุกประเภททั้งเด็กปกติและเด็กที่มีความบกพร่อง สำหรับเด็กปกติควรได้รับการส่งเสริมเรื่องพัฒนาการขั้นต่อไปและความสามารถด้านอื่นๆ ส่วนเด็กที่มีความบกพร่องควรได้รับการฟื้นฟูให้ใกล้เคียงพัฒนาการตามช่วงวัยมากที่สุด
        นอกจากนี้นักกิจกรรมบำบัดมีจำนวนน้อยและเป็นที่ขาดแคลน ในโรงพยาบาลรัฐเด็กแต่ละคนสามารถเข้ารับบริการทางกิจกรรมบำบัดเพียงเดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น หากเด็กได้รับการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง เช่น 1 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และผู้ปกครองนำคำแนะนำและโปรแกรมการฝึกไปฝึกที่บ้านอย่างสม่ำเสมอ เด็กก็จะมีพัฒนาการที่ดีขึ้น
   
   
2. How does the occupational therapist ensure quality of intervention for pediatric clients?
   นักกิจกรรมบำบัดมีความมั่นใจอย่างไรว่าการบำบัดฟื้นฟูสำหรับผู้รับบริการฝ่ายเด็กมีคุณภาพ?
   
   >>In the first time I meet children. I evaluate, make the problem list, and set the goal everytime. After that I create the activity for improvement. Normaly we check the improvement of the child by their performance. For example, they can go to the school, learn, or living independently in their home. After finished the class, the smile of children is the achievement of my treatment. The outcome not just only the performance but also smiling, happiness, and well-being are the outcome quality of intervention.
   >> เมื่อเจอเด็กครั้งแรกนักกิจกรรมบำบัดมีการประเมินปัญหาและตั้งเป้าประสงค์ก่อนการฟื้นฟูทุกครั้ง หลังจากนั้นจึงจัดกิจกรรมการรักษาให้เหมาะสมกับการส่งเสริมพัฒนาการของเด็กและประเมินซ้ำเกี่ยวกับความสามารถหลังการฟื้นฟู เช่นเด็กสามารถไปโรงเรียนได้หรือไม่ สามารถเรียนได้หรือไม่ สามารถใช้ชีวิตเองที่บ้านได้หรือไม่ หลังจากจบการฟื้นฟูในแต่ละครั้ง รอยยิ้มของเด็กคือความสำเร็จในการรักษา อย่างที่ได้กล่าวไปผลลัพธ์ของการรักษาไม่ใช่เพียงความสามารถของเด็กที่เพิ่มขึ้น แต่รอยยิ้ม ความสุขและความเป็นอยู่ที่ดีคือสิ่งที่บ่งชี้ได้ว่าการบำบัดฟื้นฟูมีคุณภาพ
   
   
3. What are the Thai pediatric occupational therapist’s strengths, weaknesses, threats, and opportunuties?
   สิ่งที่เป็นจุดแข็ง จุดอ่อน ภัยคุกคามและโอกาสของนักกิจกรรมบำบัดฝ่ายเด็กในไทยมีอะไรบ้าง?
   
   >> The weakness is a small number of occupational therapist that can help the child. We have 1 occupational therapist, but we have 10 childs/day. In 1 day occupational therapist can treat around 6 childrens. In addition, the problem is the parent can’t bring our program because of their time and their work.
        In the part of opportunities. From the weakness that 1 occupational therapist can treat 6 childs/day.
   Therefore, we have to product more occupational therapist to treat children. Occupational therapist should change the idea of the parent. For example, it shouldn’t depend on occupational therapist to make their children to get the improvement.
   >> จุดอ่อนคือนักกิจกรรมบำบัดมีจำนวนน้อย ใน1วันจะมีเด็กเข้ารับบริการทางกิจกรรมบำบัดถึง 10 คนต่อวัน โดยปกติควรมีประมาณ 6 คนต่อวัน นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ปกครองไม่นำโปรแกรมไปฝึกที่บ้าน เนื่องจากไม่มีเวลาและต้องทำงานนอกบ้าน ทำให้ผู้ปกครองพึ่งพานักกิจกรรมบำบัดอย่างมากในการฟื้นฟูเด็ก
        ในส่วนของโอกาสคือการเพิ่มจำนวนนักกิจกรรมบำบัดให้มีจำนวนเพียงพอและการปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้ปกครอง โดยดูแลและนำโปรแกรมการฝึกไปฝึกกับเด็กที่บ้านอย่างสม่ำเสมอเพื่อพัฒนาการของเด็กที่ดีขึ้น
   
   
4. What strategies are being used of occupational therapist in pediatric clients? How have these succeded?
   นักกิจกรรมบำบัดใช้กลยุทธ์อะไรในผู้รับบริการฝ่ายเด็กและมีวิธีอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ?
   
   >> We learned already about the frame of reference and model. You can combine and adapt to the individualize programe that appropriate to the client. Moreover, occupational therapist needs to learn from experince.
   >> กลยุทธ์คือการประยุกต์ความรู้จากสิ่งที่เรียนมาใช้กับผู้รับบริการเพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับผู้รับบริการแต่ละบุคคล นอกจากนี้นักกิจกรรมบำบัดควรนำความรู้ที่ได้จากประสบการณ์การทำงานมาพัฒนาให้คนไข้ได้รับการฟื้นฟูที่เหมาะสมเช่นกัน

 

5. What have you learned about CMU-OT leading to build/create MU-OT?
   คุณจะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรมบำบัด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ไปสู่การสร้างกิจกรรมบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดลได้อย่างไร?
   
   >> Occupational therapy is art and science. You can apply anatomy and neuroscience to occupational therapy knowledge. Our brain has the property to adapt and apply. For example, we study occupational therapy that learns “How to adapt? How to apply? How to grade activity? How to solve the problem?”. You can get this knowledge to build or create.
   >> กิจกรรมบำบัดเป็นวิชาชีพที่มีทั้งศาสตร์และศิลป์ คุณสามารถนำความรู้จากสิ่งที่เรียนในด้านอื่นๆ มาประยุกต์ใช้กับความรู้ทางกิจกรรมบำบัดได้ เนื่องจากสมองของเรามีความยืดหยุ่น มีคุณสมบัติในการปรับและประยุกต์ตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่นความรู้จากการเรียนกิจกรรมบำบัดในการปรับ ประยุกต์กิจกรรมและแก้ไขปัญหา คุณสามารถนำความรู้เหล่านี้มาสร้างสรรค์สิ่งต่างๆได้

 

6. What do you see in the future as occupational therapist in pediatric clients and how is this lead to success?
   สิ่งที่คุณเห็นในอนาคตในฐานะนักกิจกรรมบำบัดฝ่ายเด็กและวิธีการที่นำไปสู่ความสำเร็จ?
   
   >> I want to see occupational therapist in every hospital, school, and community. Occupational therapist should work like go to client’s home and school to advice. Not like in the present day that we work in the hospital.
   >> ต้องการเห็นนักกิจกรรมบำบัดทำงานทั้งในส่วนของโรงพยาบาล โรงเรียนและชุมชน รวมถึงการไปเยี่ยมบ้านและการให้คำแนะนำที่โรงเรียน
   
   
7. On the issue of Thai community/ society/ culture that can use your occupational therapy professional skills are particularly interesting to you?
   จากวัฒนธรรมและประเพณีของสังคมไทยสามารถนำมาประยุกต์ในทางกิจกรรมบำบัดได้อย่างไร?
   
   >> We can’t separate person from the culture. We have to apply what we have to do with the children and think that appropriate for the culture or not? For example, autistic spectrum disorder has a symptom about the hypersensitivity for many senses. The Thai culture such as the New Year’s Day or Loy Krathong Day, it has a lot of the sensory stimulation. While we have to concern about that to make the child can participate with culture activity.
   >> นักกิจกรรมบำบัดไม่สามารถแยกคนออกจากวัฒนธรรมได้ ดังนั้นเราต้องตระหนักว่าเราจะนำวัฒนธรรมมาประยุกต์กับเด็กอย่างไรให้เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่นเด็กออทิสติกซึ่งมีความบกพร่องด้านการประมวลผลการรับความรู้สึก หากผู้ปกครองอยากให้เด็กเข้าร่วมกิจกรรมวันปีใหม่และวันลอยกระทงซึ่งมีการรับรู้ความรู้สึกที่หลากหลาย  เช่นแสงและเสียงจากพุ นักกิจกรรมบำบัดจะมีวิธีการอย่างไรเพื่อให้เด็กเข้าร่วมกิจกรรมในเทศกาลดังกล่าวได้โดยไม่แตกแยกจากสังคม
   
   
8. What do you see Thai occupational therapist in pediatric clients five/ten years from now?
   สิ่งที่คุณเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมบำบัดฝ่ายเด็กใน 5 หรือ 10 ปีข้างหน้า?
   
   >> I hope the rate of children with disability should be decrease. I would like to do the research that related with the prevention of the autistic. For occupational therapy I want to see occupational therapist work with prevention and promotion. One factor can make the children get the abnormal of genetic is stress. We should work with the health prevention and promotion. How to decrease the stress? How to solve the problem? May be we can go to work in the factory or the industry company to work in that. I think may be able to prevent the development of abnormal child.
        Moreover, you can set up family planer. This planer has 3 phase to preventable (prevent before get married, prevent before get pregnant, and prevent at 6 month of the period of child born). You have managed the stress or fatique level.
   >> อยากเห็นจำนวนเด็กที่มีความบกพร่องลดลงและต้องการเห็นนักกิจกรรมบำบัดทำงานด้านการป้องกันและส่งเสริมสุขภาพ ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความผิดปกติของพันธุกรรมซึ่งส่งผลให้เด็กมีความบกพร่องคือความเครียดของพ่อแม่ ดังนั้นนักกิจกรรมบำบัดอาจเข้าไปส่งเสริมสุขภาพและป้องกันการเกิดโรค เช่นการจัดการความเครียดให้กับพ่อแม่ที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมหรือบริษัทต่างๆ
        นอกจากนี้คุณสามารถควบคุมได้โดยการวางแผนครอบครัว ซึ่งมี 3 ระยะในการป้องกัน คือป้องกันก่อนแต่งงาน ป้องกันก่อนตั้งครรภ์ และป้องกันหลังเด็กคลอด 6 เดือน นักกิจกรรมบำบัดต้องให้ความรู้ในการจัดการความเครียดและความเหนื่อยล้าแก่พ่อแม่
   
   
9. What are your aspirations beyond Thai occupational therapist?
   สิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจนอกจากการเป็นนักกิจกรรมบำบัด?
   
   >> I want to be a good occupational therapist. Work with the service mind, morally, and good thinking all time while the children can get good health or well-being.
   >> ฉันต้องการเป็นนักกิจกรรมบำบัดที่ดี ทำงานด้วยใจ มีศีลธรรมและคิดบวกตลอดเวลา ในขณะที่เด็กมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
   
   
10. In 2015, Thailand as a member of Asean community, what do you think that AEC is positive or negative impacts for Thai occupational therapist in pediatric clients?
    ในปี 2015 ประเทศไทยเป็นหนึ่งในสมาชิกของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน คุณคิดว่าเป็นผลดีหรือผลเสียต่อนักกิจกรรมบำบัดไทย?
    
    >> I think this positive for Thai occupational therapist. If you very good in English, you can work anywhere such as Laos, Cambodia, or Myanmar. Negative is also the occupational therapist from another country can go to work here.
    >> หากคุณเก่งภาษาอังกฤษจะมีผลดีมาก เนื่องจากคุณสามารถไปทำงานในประเทศอื่นได้ เช่นลาว กัมพูชา พม่า เป็นต้น แต่ผลเสียคือนักกิจกรรมบำบัดจากประเทศอื่นในกลุ่มอาเซียนสามารถเข้ามาทำงานในประเทศไทยได้เช่นกัน
    
    -------------------------------------------------------------------------------------------
    
    Thank you Dr.Kannika Permpoonpattana for the knowledge and good idea to work as occupational therapist . Occupational therapist should work with the mind for the benefit of the people rather than money.
    ขอบคุณอาจารย์ ดร.กันนิกา เพิ่มพูนพัฒนาที่ได้ให้ความรู้และแง่คิดที่ดีในการทำงานในวิชาชีพกิจกรรมบำบัด นักกิจกรรมบำบัดควรทำงานด้วยใจ เพื่อประโยชน์สุขของเพื่อนมนุษย์มากกว่าผลประโยชน์ที่ได้รับจากเงินในการบำบัดฟื้นฟู
    
    
    

Follow seminar in mental health field. คุณสามารถติดตามสัมมนาฝ่ายจิตได้ที่ลิงค์นี้http://www.gotoknow.org/posts/562968
Follow seminar in physical health field. คุณสามารถติดตามสัมมนาฝ่ายกายได้ที่ลิงค์นี้http://www.gotoknow.org/posts/562972