กิจกรรมที่ต้องดำเนินการ ปี ๒๕๕๗
๑.วัดผลสถานการณ์ดำเนินงานในระดับหมู่บ้าน/ชุมชนว่า ผลจากการดำเนินงานในปี ๒๕๕๖ อยู่ในระดับใด (พื้นที่ใดสามารถแก้ไขปัญหาได้แล้ว/พื้นที่ใดกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขปัญหา/พื้นที่ใดยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา) แล้วจัดแบ่งประเภทหมู่บ้าน/ชุมชน ออกเป็น ๔ ระดับ
ระดับที่ ๑ หมู่บ้าน/ชุมชนที่ไม่มีสภาพปัญหายาเสพติด ไม่ว่าจากข้อมูลใดๆ ก็ไม่ปรากฏว่ามีปัญหายาเสพติด
ระดับที่ ๒ หมู่บ้าน/ชุมชนที่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วยโครงการ/กิจกรรมต่างๆอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีสภาพปัญหายาเสพติดดำรงอยู่ และกำลังอยู่ในระหว่างการแก้ไขปัญหานี้ต่อเนื่องต่อไป ในปี ๒๕๕๗ เช่น กองทุนแม่ของแผ่นดิน หมู่บ้านตามโครงการชายแดนของ กอ.รมน.หมู่บ้านที่ ศพส.จ.หรือหน่วยงานต่างๆ ดำเนินการ หมู่บ้านในโครงการชุมชนอุ่นใจฯ เป็นต้น
ระดับที่ ๓ หมู่บ้าน/ชุมชนที่เข้มแข็ง แก้ไขปัญหาได้แล้ว และบางแห่งพัฒนา เป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชนด้านยาเสพติด ฯลฯ ซึ่งเป็นหมู่บ้าน/ชุมชน ที่ ศพส.จ.มีรายชื่อ และรับรองสถานะของหมู่บ้านอยู่แล้วว่าเป็นหมู่บ้าน/ชุมชนเข้มแข็ง หรือ เป็นหมู่บ้านตัวอย่าง และเป็นศูนย์เรียนรู้ ฯ
ระดับที่ ๔ หมู่บ้าน/ชุมชน ที่ยังมีปัญหารุนแรงหรือรุนแรงมาก ซึ่งยังมีผู้ค้า/ผู้เสพมากกว่าเกณฑ์ปกติ และที่ผ่านมาหน่วยงานในพื้นที่ ยังแก้ปัญหาได้ไม่มากนัก ซึ่งจะต้องเร่งรัดให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังต่อไป ในปี ๒๕๕๗
๒.จัดระบบพี่เลี้ยงให้กับหมู่บ้าน/ชุมชน หรือเรียกว่า ผู้ประสานงานชุมชน
๓.จัดอบรม ชี้แจง บทบาทหน้าที่ผู้ประสานงานชุมชน ให้เข้าใจ ภารกิจ
๔. ให้ทุก ศพส.อ. จัดลำดับความรุนแรงของปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน ๑๐ อันดับแรก เพื่อจัดลำดับเป็นความเร่งด่วนของการแก้ไขปัญหา โดยให้รายงานผลการประเมิน มายัง ศพส.จ. ภายในวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๖( รายงาน ศพส./ศพส.มท. ภายในวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖)
๕.ขยายโครงการกองทุนแม่อย่างมีคุณภาพ (จำนวน ๑๘ ศูนย์เรียนรู้เดิม)
๖. ประชาสัมพันธ์ จากเดิม” ผู้เสพเป็นผู้ป่วย” เพิ่มเป็น “ผู้เสพเป็นโรคสมองติดยา ที่ต้องบำบัดรักษาและฟื้นฟูฯอย่างเหมาะสม”
๗.ทบทวนสถานะของค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมระดับอำเภอตามแนวคิด ๑ อำเภอ ๑ ค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ว่าควรมีการดำรงอยู่หรือไม่ อย่างไร ที่ใดควรยกเลิก ที่ใดควรดำเนินการต่อ (แจ้งผลให้ส่วนกลางทราบภายในเดือน ตุลาคม ๒๕๕๖)
๘.ส่งเสริมและจัดตั้งกลุ่มชุมชนเป็นสายตรวจอุ่นใจ ได้ลูกหลานกลับคืน(กลุ่มเยาวชนอาสารักษาดินแดน TO BE NUMBER ONE)
๙.จัดชุดรณรงค์ป้องกันยาเสพติดแบบเคลื่อนที่ระดับจังหวัด/ชายแดน/อำเภอและจัดทำแผนปฏิบัติการให้ชัดเจน เน้นหนักหมู่บ้าน/ชุมชนเป้าหมาย (ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้/จัดระเบียบสังคม/ติดตามผู้ผ่านการบำบัด/ค้นหาผู้เสพ/ผู้ติด) จัดให้มีการอบรมชุดปฏิบัติการฯ
๑๐. สำรวจข้อมูลเยาวชนนอกสถานศึกษา (เน้นประชากรกลุ่มอายุ ๑๓-๒๐ ปี) ภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนเยาวชนให้เป็นพลัง สร้างสรรค์สังคม” โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจข้อมูลในเยาวชนแต่ละกลุ่ม ดังนี้
(๑) ให้ พมจ.มอบ อ.พม. ดำเนินการสำรวจเยาวชนนอกสถานศึกษาที่มีความเสี่ยงต่อปัญหายาเสพติด
(๒) ให้ฝ่ายปกครอง ร่วมกับ กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน/ผู้นำชุมชน สำรวจคัดกรองเยาวชนนอกสถานศึกษาที่มีความเสี่ยงต่อปัญหายาเสพติด
(๓) ให้ กศน.สำรวจคัดกรองเยาวชนที่เข้าเรียนในระบบการศึกษานอกโรงเรียนที่มีความเสี่ยงต่อปัญหายาเสพติด
(๔) ให้คระจัดระเบียบสังคมระดับจังหวัด/อำเภอรวบรวมข้อมูลเยาวชนนอกสถานศึกษาที่มีความเสี่ยงต่อปัญหายาเสพติดที่พบจากการปฏิบัติงานจัดระเบียบสังคม
(๕) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สำรวจหรือรวบรวมข้อมูลเยาวชนนอกสถานศึกษาที่มีความเสี่ยงจากข้อมูลการปฏิบัติงาน/ข้อร้องเรียน/การจับกุมในคดีในแต่ละพื้นที่ให้ชัดเจนเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนดำเนินงานและติดตามประเมินผลความสำเร็จ
๑๑. จัดกิจกรรมเพื่อแก้ไขพฤติกรรมเสี่ยงของเยาวชนนอกสถานศึกษา
พื้นที่เป้าหมายเน้นหนัก
ของชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดอุตรดิตถ์
ปีงบประมาณ ๒๕๕๗(ระหว่างวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖- ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗)
ระดับหมู่บ้าน
๑. บ้านน้ำท่วม หมู่ที่ ๒ ตำบลฝายหลวง อำเภอลับแล
๒. บ้านขุนฝาง หมู่ที่ ๕ ตำบลขุนฝาง อำเภอเมือง
ระดับชุมชน
๒.ชุมชนในพื้นที่เทศบาลตำบลศรีพนมมาศ อำเภอลับแล
ระดับเครือข่าย/องค์กร
๑.กลุ่มเยาวชนอาสาตำบลน้ำอ่าง อำเภอตรอน
ไม่มีความเห็น