เปิดบ้านรับน้อง(๒)


การรับน้องปีที่จะถึงต่อมา จำต้องคิดอีกต่อไป...

..เปิดบ้านรับน้อง ปี ๒๕๕๖..

        เมื่อวันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนเเปรไป รุ่นสูงสุดของโรงเรียน เเละรุ่นกลางๆของโรงเรียนได้ ออกไปสู่บ้านหลังใหญ่ คือ สังคม ที่มีหลายบริบทด้วยกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับทรรศนะของเเต่ละบุคคลคน รุ่นพี่ได้ออกไปเเล้ว รุ่นใหม่นี้ก็มาถึง รุ่นใหม่ที่เข้ามานั้น การปรับตัวเข้ากับสีงคมเเห่งดงทองเเห่งนี้ย่อมเป็นการดีที่จะทำให้น้องๆทุกคนมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เป็นผลทำให้โรงเรียนของเราเองน่าอยู่ น่าเรียน  การรับน้องในรุ่นใหม่นี้เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องกระทำกิจกรรมให้เกิดขึ้น รับน้องในปีนี้กระผมเองก็อยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งก็ถือว่าเป็นพี่ของน้องเขาทั้งหมด รับน้องในคราวนี้มีการประชุมที่กว่าจะลงตัวนั้นยากนัก เพราะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ลงตัวเกิดขึ้น รุ่นพี่ที่เป็นคณะกรรมการนักเรียนอยู่เเล้ว มีมติบอกว่าต้องการเอาเด็กม.4ให้เอามาห้องละ 5 คนเพื่อมาเป็นพี่เลี้ยงในการรับน้อง เเต่ห้องเราส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นเป็นเช่นนั้นล่ะสิ "เอาเเล้วสิงานนี้ เกิดปัญหาขึ้นเเล้ว" คนในห้องส่วนใหญ่กลับมองว่าถ้าจะยก 5 คนไป ก็สงสารคนที่อาสาที่จะตามงานไม่ทัน ก็เลยต้องยกห้องมาเลย ทั้งๆที่ห้องื่นๆก็มาห้องละ 5 คนเช่นเดิม ถ้ามองในอีกมุมหนึ่งก็อาจเกิดความเลื่อมล้ำกันสังคม ถ้ามองในอีกมุมหนึ่ง คือ เพื่อนกันต้องช่วยกัน ถ้ามองในอีกมุมหนึ่ง คือ โอกาสของทุกคนทำไมไม่มีเท่ากัน ถ้ามองในอีกมุมหนึ่ง คือ การมีส่วนร่วมนั้นมีกันทุกห้องเเต่ทำไมห้องนี้ได้ยกห้องไปเเล้วทำไมห้องเราไม่ได้ยกห้องไปล่ะ หลายเหตุหลายผลที่เกิดขึ้นทำให้ช่วงเเรกๆในการประชุมเกิดการสับสนงุนงง เเละยากพอสมควรที่จะจูนเข้าหากันได้ในระดับเบาบางลง  จากนั้นการประชุมในครั้งเเรกก็เกิดขึ้นเพียงไม่นาน ในการประชุมครั้งเเรกนั้น จำต้องกำหนดวัตถุประสงค์ชัดเจน ซึ่งในครั้งนั้นได้ข้อสรุปที่ว่า จำต้องเอาอาเซียน เเละหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเข้าร่วมด้วยในกิจกรรม เเล้วยังมีเจตนารมณ์ของเสียงหนึ่งอีก คือ อยากให้มีพี่ระหัสน้องระหัส เผื่อว่ามีอะไรน้องเเละพี่จะได้ช่วยเหลือกันในโรงเรียน

        โจทย์ที่ยากขึ้นสำหรับกิจกรรมในวันเดียวที่ต้องเเทรกหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง  อาเซียน เเละพี่ระหัสน้องระหัสเข้าร่วมด้วย จึงนำมาซึ่งการประชุมในครั้งที่ 2 เเละครั้งที่ 3ตามมา ทำให้ได้ข้อสรุป ที่กว่าจะลงตัว ว่าต้องมีกิจกรรมค่าย ที่มีฐาน ในช่วงเช้าก้เล่นสัญทนาการ ร้องเล่น เต้นระบำไปก่อน ส่วนพอสายๆก็เริ่มเข้ามาที่กิจกรรมฐานความรู้คู่ไปกับการละเล่น เเล้วพอตกบ่ายมาก็เข้าสู่หอประชุมใหญ่เพื่อทำกิจกรรมกลุ่มร่วมกันที่เน้นพัฒนาการคิด จากทั้งหมดทั้งมวลเป็นอันสรุปได้ชัดเจน  กิจกรรมรับน้องในปีนี้ก็เหมือนกับปีที่เเล้ว ที่ช่วงม.1 เเละม.4 อยู่คนละวันกันเพราะการดูเเลจะได้ดูง่ายขึ้น...

        เเละเเล้วก็มาถึงวันที่รอคอย กิจกรรมเริ่มต้นขึ้นด้วยการเตรียมพร้อม ในครั้งนี้พี่เลี้ยงมากมาย ในช่วงเช้าลุุย ร้องเล่นเต้นระบำ เพื่อหวังละลายพฤ๖ิกรรมเข้าหากัน ต่อมาเป็นกิจกรรมฐานที่มีฐานพอเพียง  ฐานอาเซียน  ฐานการศึกษา  ฐานสิ่งศักดิ์สิทธ์  ฯ เเละอื่นๆ ซึ่งในครั้งนี้ที่เป็นยฐานกระผมเองก็อยู่ฐานอาเซียน ซึ่งฐานนีเสอดเเทรกหลักอาเซียนที่เป็นความรู้เล็กๆน้อยๆลงไปด้วย เเล้วต่อมาจากกิจกรรมฐานเป็นไปที่เรียบร้อยเเล้ว ช่วงบ่ายเป็นกิจกรรมของกระบวนการกลุ่มที่คิดช่วยกัน ที่เรีกว่า "ต่อเรือ" ซึ่งมีอุปกรณ์ให้โดยเเบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่มๆ เเล้วพิธีกรให้โจทย์ว่า จะทำอย่างไรก็ได้ให้ประดิษฐิ์สิ่งของเหล่านี้ให้รวมกันออกมาเป็นเรือ โดยที่เน้นให้มีความสูงที่สุดเเล้วมีความมั่นคงที่สุด ซึ่งจะตรวจเช็คด้วยการโยนเล็กๆ ว่ามันจะมั่นคง หรือไม่ กลุ่มที่ต่อได้เเข็งเเรง เเละสูงที่สุด จะได้รับชัยชนะ... เเล้วเมื่อกิจกรรมนี้ผ่านพ้นไป กิจกรรมใหม่ก็เข้ามาโดยกิจกรรมนี้เป็นการผูกแขนน้อง ให้พี่รหัสผูกแขนน้อง พี่ม.ต้น เเละพี่ๆม.ปลายเข้ามาผูกแขนน้องอย่างที่ไม่รู้ว่าจะได้น้องรหัสของตนคนใด เมื่อเดินลงเเล้วก็นั่งลงเเล้วนั้นจะได้น้องของตนอัตโนมัติ หลังจากได้น้องเเล้ว น้องเห็นพี่ของตนเอง พี่ก็เห็นน้องของตนเอง เเล้วฝ้ายที่พี่นำมาก็มาผูกแขนน้องเเล้วพี่น้องก็คุยกัน พี่ก็เเสดงความต้อนรับที่เข้ามาในโรงเรียนเเห่งนี้ ช่วงนี้เป็นช่วงใช้เวลานานพอสมควร เเละเเล้วก็มาถึงช่วงเวลาเเห่งการลาค่าย พี่ๆมีการตั้งเเถวยาวเเล้วให้น้องเดินผ่านมา พี่ๆก็ทาเเป้งให้น่ารักๆ กว่าจะเดินสิ้นสุดเเถว เเป้งคงเต็มตัวไปหมดเเล้ว "หอมดี ขาวเเบบหม่นๆ" ซึ่งเป็นอันเสร็จกิจกรรม

        กิจกรรมของม.1ผ่านพ้นไป กิจกรรมน้องม.4 ก็มาถึงซึ่งก็ปฏิบัติเหมือนๆกัน รับน้องปีนี้ นับเป็นก้าวที่สองของประสบการณ์ที่กระผมเองได้สั่งสม ความประทับใจในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือของพี่ๆทุกคน เเล้วน้องๆมีความน่ารัก "อิน" ไปกับกิจกรรมของเราด้วย เด็กน้อยม.1 ถึงกับร้องให้ที่พี่น้องเพลง รักน้องขึ้น มาพร้อมกับการปะเเป้งตน 3 สิ่งที่ได้สอกเเทรก คือ พอเพียง  อาเซียน เเละพี่รหัส เกิดขึ้นในวันเดียวกัน การรับน้องครั้งนี้เป็นเเรงบันดาลให้ให้ตัวของกระผมเองคิดที่ว่า จะทำอย่างไรต่อไปให้น้องๆที่จะขึ้นมาเป็นประธานทั้งหมดทุกห้องนั้นมีส่วนร่วมมากที่สุด เเล้วจำต้องเล่นกับพี่ๆเสียก่อนให้พี่ๆรุ้ก่อนทั้งหมดเเล้วค่อยเล่นกับน้อง... รับน้องไม่ได้มีรูปแบบที่ตายตัว เเต่รับอย่างไรเพื่อความเหมาะสมเเล้วเกิดประโยชน์มากที่สุด อาจใช้รูปเเบบ จิตปัญญา  เเบบทหาร  เเบบพระ  เเบบดนตรีศิลปะ  เเบบกิจกรรมกลุ่มเน้นพลังกลุ่ม หรือ เเบบผสมผสานที่เราจับมาใส่เองในรูปเเบบของเราเอง...การรับน้องปีที่จะถึงต่อมา จำต้องคิดอีกต่อไป... 

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 562294เขียนเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2014 19:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2014 19:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เป็นบันทึกที่ช่วนให้นึกถึงความหลังเมื่อครั้งเรียนมหาวิทยาลัยนะคะ

การรับน้องที่ดี สร้างความผุกพันธ์ ความอบอุ่นให้เกิดขึ้น เป็นสายสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นในสถาบันค่ะ

สุดยอดมากเลยนะคะ เป็นกำลังใจค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท