ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันทึ่ง


ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันทึ่ง                      ฉันจึงมาหาความหมาย

ฉันหวังเก็บอะไรไปมากมาย                แต่สุดท้ายให้กระดาษฉันแผ่นเดียว

ฉันเองก็ไม่รู้หรอกว่า กระดาษแผ่นนั้นมีความหมายมากแค่ไหน แน่นอนมันนำความภาคภูมิใจมาสู่ครอบครัวญาติมิตร มันอาจเป็นใบเบิกทางลำดับแรกๆที่นำงานที่ดี งานใช้กำลังสมองเป็นหลักมาสู่ฉันในการประกอบอาชีพ แต่ที่แน่ๆ ฉันค้นพบว่าแม้จะได้มันมาอย่างเต็มภาคภูมิ ด้วยกำลังสติปัญญาลำพังตน มิได้พึ่งพาสถาบันติว ไม่ว่าสถาบันไหน

แน่นอนฉันต้องค้นคว้าหาเพิ่มเติม ทั้งจากห้องสมุดในมหาวิทยาลัยและร้านขายหนังสือที่มีโต๊ะให้แอบนั่งอ่านเพราะไม่มีเงินซื้อหา ด้วยตำรากฎหมายนั้นราคาไม่เบา แต่อาจทำให้กระเป๋าเบา

เมื่อเริ่มต้นประกอบอาชีพตามสาขาที่ตนศึกษา สิ่งแรกๆที่ค้นพบและเคว้งคว้างสับสนอยู่นานว่าฉันจะนำวิชาความรู้ที่ติดตัวออกมานั้น มาใช้ในการประกอบอาชีพอย่างไร สิ่งที่พบเจอในชีวิตการทำงาน ไม่ง่ายอย่างตุ๊กตาในข้อสอบเลย ที่สำคัญเมื่อลงมือทำและตัดสินใจดำเนินการไปในทิศทางใดทางหนึ่ง มันไม่มีคำตอบถูกผิด ไม่มีผู้เฉลยข้อสอบ ที่แน่ๆ มีผลเกิดขึ้นกับตัวผู้เกี่ยวข้องโดยตรงที่เราดำเนินการให้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอย่างแน่นอน

นักกฎหมายใหม่ในครั้งกระนั้นเครียด อย่างยิ่ง กลัวข้อผิดพราดต่างๆนาๆ จนเป็นปัจจัยบังคับให้ต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากตำราบ้าง แนวทางการตีความจากคำพิพากษาศาลฏีกาบ้าง ปรึกษาผู้อาวุโสกว่าบ้าง สุดแต่จะแสวงหาได้อยู่นานปี จนเกิดความชำนาญ ร่องรอย แห่งความวิตกกังวลจึงค่อยๆคลี่คลาย แล้วความพริ้วไหว พริกแพรงในการหยิบฉวยวิชาความรู้มาใช้จึงค่อยๆก่อเกิด เป็นรูปเป็นร่าง ขึ้นในเวลาอีกหลายปีต่อๆมา

ทั้งที่ขณะอยู่ในระบบการศึกษา ฉันก็ศึกษาในสถาบันที่สอนให้วิเคราะห์ปัญหาข้อเท็จจริงกับการนำความรู้ไปปรับใช้มาตลอดเวลาที่ศึกษานะ

เอาเข้าจริงๆ เลยไม่แน่ใจว่า จริงแท้แล้ว การศึกษาที่จะนำไปสู่ความสัมฤทธิ์ ในการการประกอบอาชีพ ของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เช่นที่ฉันศึกษามานั้น การศึกษาเชิงทฤษฎีให้เข้าใจหลักการโดยรวมก่อนจบ แล้วค่อยทดลองปฏิบัติ หรือต้องศึกษาไปทดลองปฏิบัติไป โดยมีผู้รู้กว่าคอยชี้แนะแนวทาง ผ่านการกระตุ้นให้วิเคราะห์ด้วยตนเอง แล้วจึงค่อยทดลองปฏิบัติ แต่สำหรับฉันแล้วประสบการณ์ที่ผ่านมาพบว่า

การที่ต้องศึกษาทฤษฎีก่อน จบจึงค่อยทดลองปฏิบัติ โดยขาดผู้ชี้แนะแนวทางมันช่างยากเย็นเข็ญใจอย่างยิ่ง หากไม่อดทน ไม่เพียรศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม อ่าน อ่าน อ่าน และอ่าน คิด คิด คิด คิดและคิด แล้วคงยากที่จะก้าวเดินบนเส้นทางสายนี้อย่างแน่นอน

ขณะเดียวกัน เมื่อต้องปฏิบัติงานร่วมกับเพื่อนซึ่งไม่มีโอกาสผ่านการศึกษาอย่างเป็นระบบ หรือในระบบมาก่อน ก็ได้พบปัญหาอย่าใหม่ให้ต้องนำมาขบคิดอีกเช่นกัน และมองเห็นความต่างประการสำคัญคือ การถูกฝึกให้คิดอย่างเป็นระบบ นำมาซึ่งความง่ายที่จะเข้าใจต่อยอดสิ่งต่างๆ ที่เป็นอุปสรรค ในชีวิตจริง และมองอุปสรรคต่างๆอย่างเชื่อมโยงไม่แยกส่วนกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ฉันยังค้นไม่พบจากตัวเพื่อนร่วมงานหลายๆคนที่ไม่เคยผ่านระบบการศึกษาที่ขอเรียกว่าเป็นระบบมาก่อน

สรุปแล้วเลยยังไม่รู้ว่าตกลงที่ต้องปฏิรูประบบการศึกษานั้นต้องปฏิรูปอย่างไร แต่น่าจะต้องมีระบบของการศึกษาอยู่นะ อย่างน้อยๆต้องสร้างให้ผู้ศึกษามีความคิดที่เป็นระบบ เห็นความเชื่อมโยงของสิ่งต่างๆ แยกแยะ รวบรวม และกำหนดทิศทางของสิ่งต่างๆที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิต ทั้งที่เป็นชีวิตส่วนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัว และพื้นที่สาธารณะได้ อย่างไม่แยกส่วน เพราะทุกสิ่งล้วน สัมพันธ์กัน มิเช่นนั้นคงไม่มีคำกล่าวเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวเป็นแน่แท้

คำสำคัญ (Tags): #การศึกษา#ครู
หมายเลขบันทึก: 560270เขียนเมื่อ 27 มกราคม 2014 17:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 มกราคม 2014 17:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ชอบครับ

เพราะทุกสิ่งล้วน สัมพันธ์กัน มิเช่นนั้นคงไม่มีคำกล่าวเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวเป็นแน่แท้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท