งานเลี้ยงฉลองพิธีมงคลสมรส

          เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๖ ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงฉลองในพิธีมงคลสมรสของหลานชายที่กรุงเทพฯ  ที่จัดขึ้นที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งบริเวณติดถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา   คณะของเราเริ่มออกเดินทางจากจังหวัดขอนแก่นในเวลา ๙.๐๐ น. ด้วยรถตู้ เดินทางมาถึงนครราชสีมาในเวลาเกือบเที่ยง ซึ่งใช้เวลามากกว่าปกติเนื่องจากในวันนี้มีด่านตำรวจมากกว่าปกติ  หลังจากแวะรับเราทั้งสองที่บ้านชานเมืองแล้ว ก็เดินทางต่อไปยังอำเภอปักธงชัย เพื่อแวะพักรับประทานอาหารกลางวัน และรับญาติ ๆ ที่จะร่วมเดินทางไปร่วมงานอีกจำนวนหนึ่ง  ก่อนออกเดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ ๑๓.๓๐ น.  โดยคาดว่าน่าจะเดินทางไปถึงสถานที่จัดงานก่อนเวลา เพราะบางท่านจะต้องไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายจากชุดเดินทาง ให้เป็นชุดที่เรียบร้อยสวยงามและเหมาะสมกับงานเลี้ยงพิธีฉลองสมรส   การเดินทางจากโคราชเข้าสู่กรุงเทพฯ เป็นไปโดยปกติ ไม่มีรถติดหรือด่านตำรวจมากเหมือนที่เราคาดไว้  เราจึงเข้าสู่เขตกรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ ๑๖.๓๐ น. 

        เนื่องจากเราเป็นคณะจากภูธร จึงได้มีซักซ้อมกับผู้ทำหน้าที่เป็นผู้ขับรถ ถึงเส้นทางการเดินทางไปยังสถานที่จัดงาน  โดยการดูจากแผนที่ ที่แนบมากับบัตรเชิญของงาน  เราเดินทางเข้าสู่ถนนลาดพร้าวที่ห้าแยกลาดพร้าว  บริเวณที่มีห้างใหญ่คือเซ็นทัลลาดพร้าวตั้งอยู่ แล้วเดินทางไปตามถนนลาดพร้าว  ก็จะผ่านซอยต่าง ๆ ของถนนลาดพร้าวตั้งแต่ ลาดพร้าวซอย ๑ ๓ ๕ ๗ ๙....ไปเรื่อย ๆ  ระหว่างนั้นก็คุยกันไปว่าจะไปถึงสถานที่จัดงานอย่างไร ?   ผู้ทำหน้าที่ขับรถก็บอกว่านอกจากดูจากแผนที่แล้วก็ได้คุยกับลูกที่อยู่กรุงเทพฯไว้แล้ว  ลูกก็บอกว่าขับไปตามถนนลาดพร้าวไปเรื่อย ๆ จนถึงทางด่วนรามอินทรา ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนมาก....ให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนเลียบทางด่วน  ไม่นานก็จะเห็นศูนย์การค้าใหญ่ คริสตอลปาร์ค (Crytal Park) อยู่ด้านซ้ายมือ  สถานที่จัดงานคือ คริสตอลดีไซด์เซ็นเตอร์ (CDC) จะอยู่ฝั่งตรงกันข้าม  โดยจะต้องขับรถไปยูเทรินกลับมา.....ผมและอาม่าได้ยินแล้วก็สบายใจว่า เราคงไม่หลงแน่  อาม่าก็คุยว่าลูก ๆ ที่อยู่ที่บ้านกลางเมือง ลาดพร้าว ๗๑ เคยพาไปที่ศูนย์การค้าใหญ่นี้หลายครั้งแล้ว พอออกจาก ซอยลาดพร้าว ๗๑ มานิดเดียวก็ถึงทางด่วน.....เมื่อรถเดินทางมาถึง ซอยลาดพร้าว ๗๑  ผมก็ชี้บอกให้ญาติในรถทราบว่า ลูก ๆ ของเราอยู่ในซอยนี้แหละ.......ระหว่างนั้นก็ได้ยินญาติอีกท่านที่นั่งคู่คนขับ โทรศัพท์คุยกับญาติอีกคนที่ไปถึงสถานที่จัดงานแล้ว สอบถามเรื่องเส้นทางเดินทางไปสถานที่จัดงาน พร้อมประสานกับคนขับ....ได้ยินว่าตามแผนที่นั้น CDC อยู่ที่ซอยลาดพร้าว ๘๗ .......  ระหว่างที่เขากำลังคุยกันทางโทรศัพท์รถของเราก็วิ่งผ่านแยกทางด่วนรามอินทราไปโดยไม่ได้เลียวซ้ายตามที่คนขับพูดไว้ ก่อนหน้านั้น  ผมเห็นอย่างนั้นก็เลยทักท้วงว่า  อ้าวไหนว่าจะต้องเลี้ยวซ้ายที่ทางด่วน.....คนขับก็สะดุ้งและบอกว่ามัวคุยกันเพลินเลยผ่านแยกทางด่วนโดยไม่ทันรู้ตัว  ต้องเปลี่ยนแผนการเดินทาง.....

         ผู้ที่นั่งคู่คนขับรีบโทรประสานไปยังญาติที่อยู่ที่งานแล้วเพื่อแนะนำการเดินทางไปยังสถานที่จัดงาน.....โชคยังดีที่การเดินทางไปยัง CDC สามารถเข้ามาทางซอยลาดพร้าว ๘๗ ได้ แต่จะเป็นซอยที่ค่อนข้างแคบ เมื่อเทียบกับถนนเลียบทางด่วน  เมื่อคณะเราเดินทางมาถึง ซอยลาดพร้าว ๘๗ และเลี้ยวเข้าไปตามที่ได้รับการแนะนำ กว่าคณะเราจะเดินทางไปถึง CDC และ สถานที่จัดงาน ก็ต้องใช้การโทรศัพท์ ประสานกันหลานคนที่อยู่ที่กรุงเทพฯ ที่คุ้นเคยกับสถานที่หลายครั้งด้วยกัน.....แม้แต่เมื่อเข้าสู่บริเวณของ CDC แล้ว กว่าจะไปยังตึกที่จัดงานก็ยังต้องใช้การโทรฯประสานบอกทางกันตลอด....ก็อาจจะเรียกได้ว่า กว่าจะถึงสถานที่จัดงานได้ก็ต้องอาศัยการติดต่อสื่อสารโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วย.....ถ้าเป็นสมัยก่อน ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าจะหาทางไปยังสถานที่จัดงานได้ถูกต้อง....อย่างไรก็ตามคณะของเราก็เดินทางมาถึงก่อนเวลาพอสมควร  ทำให้ท่านที่ต้องเปลี่ยนจากชุดเดินทางมาเป็นชุดเข้าร่วมงานได้มีเวลาเปลี่ยนชุดอย่างสบาย ๆ  โดยใช้ห้องสำหรับการแต่งตัว ที่ทางสถานที่มีเตรียมไว้ให้ถึง ๒ ห้อง บริเวณด้านข้างของห้องจัดงาน (Crytal Ballroom)  .... เป็นประสบการณ์การเดินทางที่มีรสชาติสำหรับชาวภูธรเข้ากรุง.......

       หลังจากคณะของเราได้พบกับคณะของเจ้าภาพและญาติ ๆ อีกหลายท่านที่มาถึงแล้วเช่นกัน  บางกลุ่มก็นั่งคุยกันเนื่องจากนาน ๆ จะได้มีโอกาสพบกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมเช่นนี้  บางกลุ่มก็ถือโอกาสไปเดินชมสถานที่รอบ ๆ บริเวณที่จัดงาน ที่ยังมีบรรกาศการประดับตกแต่งไฟสวยงานพร้อมไฟต้นคริสต์มาส ที่ยังคงมีอยู่ เนื่องจากเพิ่งผ่านมาเพียง ๑ วันเท่านั้น  ก่อนที่จะกลับมายังห้องจัดงาน เมื่อใกล้ถึงกำหนดเวลางานตามในบัตรเชิญ คือ ๑๘.๐๐ น. มีแขกต่าง ๆ เริ่มทะยอยกันมาเรื่อย ๆ  เวลาผ่านในบรรยากาศห้องที่มีการอาบด้วยแสงสีน้ำเงิน และ การขับกล่อมด้วยเสียงเพลงประกอบดนตรี จนกระทั่งเวลาประมาณ ๑๙.๔๕ น.  สังเกตได้ว่าแขกมาได้ประมาณ ๕๐ เปอร์เซ็นต์ หรือ ประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนที่นั่งและโต๊ะที่เจ้าภาพเตรียมไว้  การเสริฟอาหารจีนจึงเริ่มขึ้น.....ทราบในภายหลังว่า หลายท่านเกิดปัญหาล่าช้าในการเดินทางมายังสถานที่จัดงาน เนื่องจากปัญหาจราจรติดขัด  จากปัญหาทางการเมืองของบ้านเมืองที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้  พบญาติบางท่านเล่าให้ฟังว่า ปกติจะเดินทางจากที่บ้านมาถึงที่จัดงานได้ในเวลาไม่เกิน ๑ ชั่วโมง วันนี้ต้องเสียเวลาไปถึง ๓ ชั่วโมงกว่าจะเดินทางมาถึงได้.....

      พิธีการเริ่มในเวลาประมาณ ๒๐.๓๐ น. ด้วยการฉายวีดิทัศน์ เกี่ยวกับเรื่องราวของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ไปถ่ายทำกันมาว่ากว่าจะถึงวันนี้เป็นมาอย่างไร ? ....ที่ได้ยินคนรุ่นนี้เขาพูดกันว่า Pre-Wedding VDO ... ได้รับทราบแว่ว ๆ มาในภายหลังว่า เจ้าสาวและเพื่อน ๆ ลงมือจัดทำด้วยตัวเอง โดยไม่ได้ว่าจ้างทีมงานมืออาชีพแต่อย่างใด  ตามมาด้วยการ เดินเข้าสู่ห้องจัดงานของเจ้าบ่าวเจ้าสาว ขึ้นสู่เวที   การเชิญประธานในพิธี ขึ้นคล้องพวงมาลัยให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาว และ กล่าวขอบพระคุณแขกที่ให้เกียรติมาร่วมงาน กล่าวแสดงความยินดีกับครอบครัวทั้งสอง ให้ข้อคิดเตือนใจแก่การใช้ชีวิตคู่แก่คู่บ่าวสาว และ เชิญดื่มอวยพรให้แก่คู่บ่าวสาว.... ต่อจากนั้น ก็เป็นการตัดเค็ก ๗ ชั้นโดยคู่บ่าวสาว และนำมาให้ประธานในพิธี พ่อแม่ของฝ่ายเจ้าบ่าว และ พ่อแม่ของฝ่ายเจ้าสาว   ต่อด้วยพิธีโยนช่อดอกไม้ของเจ้าสาว.....ก่อนที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะขึ้นเวทีไปอีกครั้ง เพื่อการสัมภาษณ์โดยพิธีกร และ กล่าวแสดงความรู้สึก....สำหรับอากงอาม่าและผู้ใหญ่หรือ สว. ทั้งหลาย หลายคนก็ต่างงง ๆ  ว่าพิธีการเหล่านี้มันเป็นมาได้อย่างไร ? เพราะมันไม่ใช่เป็นพิธีของทั้งของไทยหรือของจีน ที่เป็นเชื้อสายของทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว....

       อย่างไรก็ตาม ก็ขอชื่นชมญาติพี่น้องและเพื่อน ๆ ของทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ที่ได้ทราบว่า งานนี้เกิดจากการร่วมมือร่วมใจจัดทำกันเอง โดยที่ไม่ได้จ้างเหมาออแกนไนเซอร์มาจัดทำให้ เหมือนกับคู่บ่าวสาวหลาย ๆ คู่ ที่ต้องจ่ายเงินเพื่องานเช่นนี้ในราคาค่อนข้างแพงทีเดียว....แถมมี วีดิทัศน์ เบื้องหลังการจัดงาน ให้ชมในตอนท้ายก่อนปิดงานอีกด้วย.....เป็นการจัดงานที่ไม่แพ้มืออาชีพทีเดียว ต้องขอชื่นชมจริง ๆ

       งานจบลงในเวลาประมาณ  ๒๑.๓๐  น. กว่าจะร่ำลากันเรียบร้อยและได้ออกเดินทางกลับก็เป็นเวลาเกือบ ๒๒ น.....โดยรถตู้คันเดิมและมีสมาชิกกลับมาด้วยเพิ่มอีก ๒ ท่าน เต็มอัตราที่นั่งพอดี.....เราเดินทางกลับด้วยความกังวลว่าจะมีรถติดมากหรือไม่  ปรากฏว่ามีติดขัดเพียงเล็กน้อยช่วงขึ้นเขาเท่านั้น  เราเดินทางถึงปักธงชัยในเวลา ประมาณ ๒.๓๐ น. และ ถึงบ้านชานเมืองโคราช ประมาณ ๓.๐๐ น. ก่อนที่คณะที่เหลือจะเดินทางต่อไปยังจังหวัดขอนแก่น คาดว่าคงถึงประมาณ ๕.๓๐ น. เป็นการเดินทางไปร่วมงานที่ทรหดพอสมควร สำหรับสมาชิกที่เป็น สว. หรือ ใกล้จะเป็นกันแล้ว....