วันอังคาร ที่ 24 ธันวาคม 2556
วันนี้ตื่นมาแต่เช้า อาการปวดฟันยังตุ๊บ ๆ หน่วง ๆ ออกมาเดินจงกรม กราบพระ ทำวัตรแล้วก็ออกมาทำกับข้าวที่ครัว ตั้งใจว่า ทำสักอย่างสองอย่างแล้วก็เข้าไปเตรียมตัวไปทำงานกับครู บรรกาศตอนตีห้า กับอากาศเย็น ๆ 16 องศา
ใช้ได้ทีเดียวค่ะ ครัวสงบเงียบ ทำผัดมาม่า กับผัดผัก หุงข้าวกล้องไว้ จัดผัดมาม่าและผักสำหรับตนเองประมาณหกโมงเช้า
นั่งลงทบทวนตรวจสอบ ไสลด์ที่ต้องใช้เพิ่มเติม ถามตนเองว่ามั่นใจไหม
ก็ไม่ขนาดนั้นค่ะ “ยอมรับ”
แต่ก็มีเสียงข้างในใจว่า “กลัวอะไร พลาดตรงไหน ครูก็อยู่ข้าง ๆ ท่านก็จะช่วยเสริม”
ดีเท่าไหร่ที่มีครูคอยให้โอกาสได้ทำ
ตั้งสติ จำคำที่หลวงพี่ย้ำว่า
“เอาตัวจริงออกมา มันสู้ มันตอแหล มันหน้ามึน มันอึด
เอาออกมาให้ใจเห็น มันเก่งจะตายปากดี พูดดี ชอบสอน”
เอาออกมาให้ใจเห็นแล้วก็ใช้สติ เลือกเอาว่าจะเอาอันไหนมาใช้ประโยชน์ นั่นแหละ คือ ภาวนา
หนูพยายามตั้งสติกับตนเอง มองดูตนเอง แบบถามว่า “จริงไหมที่ครูชี้”
พอมันเห็น อันที่กำลังก่อตัวแข็ง ๆ ในใจมันยุบลง แสดงว่า นั่นหน่ะจริง
พอตอนครูเมตตาให้บรรยายก็พยายาม ครูชี้ว่าให้หาเลี่งการ เรียกตนเองว่า “หนู”
แต่แล้วเอาเข้าจริง ๆ ก็ หนู เกลื่อนไปหมด จิตนี้มันยังไง
ตอนทำงานบางขณะก็มีอาการเผลอแล้ว ร่างกายเกร็งขึ้นมาก็มีบ้าง
จะหยุดแล้วถามตนเอง “ฮึ อะไรหน่ะ”
พอมองเข้าไป ข้างในมันหดตัวลง แล้วก็ทำงานต่อ แต่บางทีเผลอยาว ต้องใช้ลมหายใจดึงยาว ๆ แล้วท่องพุทโธ
ก็ทำให้อาการเกร็งข้างในเงียบไป
งานวันนี้ถือว่า “เจอตอเรื่องโปรแกรม ถ้าไม่ตั้งสติ คงจะร้อนรนเหมือนกัน”
แต่ก็ผ่านไปแบบใจไม่กระด้างนัก เสร็จเท่าที่เสร็จ และครูเมตตา
การทำงานวันนี้ ได้ฝึกทั้ง ศีล สมาธิ ปัญญา แบบมีสติควบคู่กับการทำงาน
ไม่ใช่เก่งขึ้น แต่นี่คือ จังหวะที่สติ กู้สถานการณ์ได้ทัน
เพราะเผลอเมื่อไหร่ ใจตนเองนี่แหละที่จะทำร้ายตนเองอยู่ร่ำไป
ถึงต้องมีสติคอย ควบคุมให้เห็น ให้ทันข้างในตนเอง
กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ สาธุ
เห็นเด็กๆๆแล้วน่ารักมากๆเลยครับ
มาให้กำลังใจ สาธุๆๆ