จรรยาบรรณนักวิจัยที่ผมค้างไว้ว่าจะเขียนถึง เพื่อให้ทีมงานฯ ไตรภาคีฯ ได้ตระหนักตั้งแต่ต้น ๆ เพื่อการเริ่มดำเนินงานได้อย่างที่ควรจะเป็น ก่อนที่ผมจะได้เขียนถึงก็ไปพบจาก รายงานการประชุมโต๊ะกลมเรื่องจรรยาบรรณของนักวิจัย ฝ่ายวิจัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เห็นว่ามีประโยชน์มาก และทันการณ์ในขณะนี้ จึงขออนุญาตนำมาลงไว้ด้วย ดังนี้ (หากเมื่อได้เขียนขึ้นโดยได้ปรับให้เข้ากับสิ่งที่ทีมงานไตรภาคีฯ จะต้องไปพบ ไปเจอแล้ว ก็จะขอ Update ไว้ที่หน้านี้ครับ)
จรรยาบรรณนักวิจัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
1. นักวิจัยพึงมีความซื่อสัตย์ โดย
-
ไม่แอบอ้างความคิดของผู้อื่นมาเป็นของตน
มีการอ้างอิงทุกครั้งที่กล่าวถึงผลงาน หรือความคิดของผู้อื่น
-
การขอรับทุนวิจัย ไม่ขอทุนซ้ำซ้อน แจ้งความจริง
ไม่ปิดบังวัตถุระสงค์
-
ซื่อสัตย์ต่อสิ่งที่ตนศึกษา ยึดมั่นในวัตถุประสงค์
2. นักวิจัยพึงมีความรับผิดชอบ โดย
-
ทำงานได้สำเร็จตามแผน ตามกำหนดเวลา ตรงตามเป้าหมาย
-
เก็บรักษาความลับของข้อมูลที่ไม่ควรเปิดเผย
-
คำนึงถึงผลเสียต่อผู้อื่น ต่อสังคมและต่อประเทศชาติ
ทั้งด้านจิตใจและวัฒนธรรม เคารพในสิทธิส่วนบุคคล
-
ไม่เป็นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์ของผู้อื่น
-
คำนึงถึงผลกระทบต่อกลุ่มทดลอง
3. นักวิจัยพึงใจกว้าง
-
รับฟังความคิดเห็นและคำติชมของผู้อื่น
-
ให้ความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์
โดยสุจริตและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
4. นักวิจัยพึงมีความยุติธรรม
-
ในการแบ่งค่าใช้จ่าย
-
ในการแบ่งค่าตอบแทน
-
ในการให้เครดิตหน่วยงาน หรือผู้ร่วมงาน
5.
นักวิจัยพึงมีความรับผิดชอบต่อการเผยแพร่ผลงานของตน
-
คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม
ตัวอย่างพฤติกรรมการผิดจรรยาบรรณทางวิชาการ
1. การแก้ไข ดัดแปลง หรือบิดเบือนข้อมูล
ผลงานวิจัย หรือหลักวิชาการ เพื่อประโยชน์หรือโทษทางการเมือง
หรือการบริหารในทุกระดับ
2.
การเสนอแอบอ้างผลงานที่ตนเองไม่ได้เป็นผู้ทำ เพื่อขอตำแหน่งทางวิชาการ
ไม่ว่าผู้ทำงานจะยินยอมพร้อมใจด้วยฉันทาคติ
หรือโดยอามิสสินจ้างก็ตาม
3.
การที่ผู้มีหน้าที่รวบรวมข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ในโครงการของหน่วยงาน
ลักลอบทำสำเนาใส่เทป หรือดิสเกตต์เก็บไว้ส่วนตัว เพื่อใช้ในเชิงธุรกิจ
ไม่ว่าจะได้ลบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานด้วยหรือไม่ก็ตาม
4.
การใช้ผลงานวิจัยชิ้นเดียวส่งเป็นรายงานให้เจ้าของทุนมากกว่า 1 แหล่ง
โดยเปลี่ยนชื่องานให้ดูแตกต่างกัน
และปิดบังไม่ให้เจ้าของทุนทราบความจริง
5.
การลอกเลียนข้อเสนอรับทุนวิจัยของผู้อื่น
6.
การนำเสนอโดยแอบอ้างเป็นผู้สร้างหลักการหรือหลักเกณฑ์นั้น
ทั้งที่ได้ความคิดหลักจากวารสารต่างประเทศ
โดยปิดบังที่มาของความคิดนั้น
7.
การลอกเลียนความคิดของผู้อื่นไปเขียนขึ้นใหม่
8.
การใส่ชื่อตนเองแต่ผู้เดียวในผลงานที่ทำร่วมกันหลายคน
9.
การทำรายงานวิจัยเสนอผู้ว่าจ้างหรือแหล่งทุน ในฐานะหัวหน้าโครงการ
โดยไม่ผ่านการรับรู้หรือเห็นชอบของผู้ร่วมงานวิจัย
10.
การลอบนำผลงานของผู้อื่นหรือผู้ร่วมงานที่กำลังทำอยู่แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ไปเสนอก่อน
11.
การนำข้อมูลของผลงานที่ทำร่วมกันหลายคนไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับความเห็นชอบของผู้ที่ร่วมทำ
12.
การที่ผู้สอนใหม่นำเอกสารประกอบการสอนชุดเดิมที่ผู้อื่นจัดทำไว้
หรือชุดที่ดัดแปลงหรือแปลไปเป็นเอกสารประกอบการสอนในการขอตำแหน่งวิชาการ
เมื่อมีการเปลี่ยนตัวผู้สอนในวิชาเดียวกัน
13.
การที่นิสิตนำผลงานของอาจารย์ไปเขียนเป็นวิทยานิพนธ์โดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้จะระบุอ้างอิงไว้ในบรรณานุกรมหรือไม่ก็ตาม
14.
การที่นิสิตนำเอกสารประกอบการสอนอันเป็นผลงานของอาจารย์ไปเขียนเป็นตำรา
ทั้งในระหว่างที่เป็นนิสิตหรือเมื่อสำเร็จการศึกษาไปแล้ว
ที่มา:
ส่วนส่งเสริมและพัฒนาวิจัย สำนักบริหารวิชาการ
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เรื่องทั้งหมดที่เขียนเป็นตอน
ๆ คือ [บทนำ
ขั้นตอนการทำวิจัย] [การเลือกเรื่อง
เลือกปัญหา และการกำหนดปัญหาการวิจัย] [การทบทวนเอกสาร วรรณกรรม
และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง] [การกำหนดกรอบแนวคิดหรือทฤษฎี]
[การตั้งสมมติฐาน] [การกำหนดตัวแปรและการวัด]
[การกำหนดหรือวางรูปแบบการวิจัย]
[การเตรียมและพัฒนาเครื่องมือในการวิจัย] [การกำหนดกลุ่มประชากร
และการเลือกกลุ่มตัวอย่าง] [การเก็บรวบรวมข้อมูล]
[การเตรียมข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์] [การวิเคราะห์ข้อมูล]
[การแปลผลจากการวิเคราะห์ข้อมูล] [การเขียนรายงานวิจัย]
[ความคลาดเคลื่อนหรือผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้จากการวิจัย] [จรรยาบรรณนักวิจัย] [คุณสมบัติของนักวิจัยที่ดี]
หมายเหตุ: หากยังไม่ link
หมายถึงยังไม่ตีพิมพ์ไว้ครับ
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย ชายขอบ ใน ไตรภาคีร่วมพัฒนาสุขภาพชุมชน
คำสำคัญ (Tags)#research#สถิติ#วิจัยและพัฒนา#ระเบียบวิธีวิจัย#ความรู้ทั่วไป#เกร็ดน่ารู้
หมายเลขบันทึก: 5563, เขียน: 18 Oct 2005 @ 18:41 (), แก้ไข: 19 Mar 2015 @ 08:31 (), สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการ, ความเห็น: 1, อ่าน: คลิก
การเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการจริยธรรมเพื่อลด/ ไม่ให้เกิด ผลกระทบ ในจรรยาบรรณของนักวิจัย โดยเฉพาะข้อ 2 แต่ว่าไม่ใช่ว่าจะใช่ทั้งหมด อันนี้ก็ขึ้นกับ ethical mind ของคณะกรรมการจริยธรรมด้วย (คณะกรรมการนี้เขาประกอบด้วย บุคคลจาก สหสาขา) ว่าจะเบี่ยงเบนไปทางไหน อย่างไร
อันนี้บางครั้งยัง controversy ยังถกเถียง ยังขัดขวาง ในบางกรณี เช่น กรณีการทำงานวิจัยย่อยๆ ของนักศึกษา ที่มีเวลาการทำวิจัย ไม่นานนัก เช่น 1-2 เดือน (ทำตั้งแต่ขั้นตอนแรก จนสุดท้ายของการวิจัย) ทำให้เวลา เป็นเครื่องจำกัด เนื่องจาก คณะกรรมการจริยธรรม จะประชุมกัน ไม่ค่อยบ่อยนัก หรือเป็นวาระๆ ไป เช่น 1 เดือนครั้ง เป็นต้น ทำให้งานวิจัยของนักศึกษาบางเรื่อง ไม่สารมารถ ดำเนินการต่อ (โดยนักศึกษา) ในเรื่องการ publication ได้ เพราะติดขัดในเรื่องนี้
หรือแม้กระทั่งเรื่องงานวิจัยที่เป็นวิทยานิพนธ์ของนักศึกษา ที่อาจารย์ที่ปรึกษา (มักจะมีสิทธิ์/ อ้างสิทธิ์/ ความชอบธรรม) ที่จะนำไป public ต่อ เนื่องด้วยเหตุผลของการเป็นผู้ควบคุม การวิจัยทั้งหมด นี้ก็เป็นกรณีที่น่าจะ นำมาพิจารณา ในเรื่องของจรรยาบรรณ หรือ ethical issue เหมือนกัน อันนี้ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผล ( เข้าข้าง) ของตนเองเสมอ
ผมมีความเห็นเรื่องจรรยาบรรณ เพิ่มเติมแค่นี้ครับ เอ ... แล้วผมเข้าทางไหนบ้างนี่
8-)>