ผมไม่ได้เข้ามาบันทึกงานเสียนาน วันนี้เป็นฤกษ์ดีที่ได้มาบันทึก และควรที่จะบันทึกเอาไว้ เพื่อพิจารณาว่าผ่านไปแล้ว มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
เพิ่งเปิดภาคการศึกษาใหม่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาคการศึกษานี้ แนวคิดบางอย่างบังคับให้ผมต้องบังคับตัวเอง เพื่อทดลองในสิ่งที่หลายคนบอกว่า ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ผมมองว่า ไม่ว่าวิธีแบบไหนก็ล้วนแต่ "ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้" พระเยซูสอนสาวก ก็สาวกคือศูนย์กลางที่จะเรียนรู้
ในแบบประเมินนั้น มีอยู่ข้อหนึ่งที่ระบุว่า ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการวางแผนการเรียนหรือไม่ เข้าใจว่าที่ผ่านมาน่าจะมีส่วนร่วมอยู่ไม่มากก็น้อย แต่สิ่งที่ผู้รับผิดชอบวิชาได้ทำคือ การทำแผนการสอนในวิชานั้นๆ แล้วนำไปแจกนักศึกษา ว่าเราจะเรียนเรื่องอะไรบ้าง เรียนอย่างไร คะแนนที่ได้มาจะได้มาแบบไหน เท่าไร ฯลฯ ผู้รับผิดชอบวิชาที่ไม่อยากเลยผ่านหัวข้อประเมินดังกล่าว จะถามผู้เรียนว่า มีส่วนไหนที่เราต้องปรับปรุง ตัดทิ้ง เพิ่มเติมบ้างหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการวางแผน แต่น่าเสียดายที่นักศึกษาโดยเฉพาะ มรภ.บางแห่ง มีชีวิตแบบเมื่อเขาหย่อนเหยื่อมาอย่างไร ก็ทำตามไปอย่างนั้น โดยไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ ไม่แย้งใดๆ อันเป็นการยอมตามเสมอมา อาจารย์บางคนหรือก็ค่อนข้างจะ "ถ้าฉันว่ามาอย่างไร เธอก็ต้องทำอย่างที่ฉันว่า" ดังนั้น นักศึกษาแบบยอมตามหรือจะกล้าแกว่งเท้าหาเสี้ยน
เกริ่นมาพอสมควร ภาคการศึกษานี้ ผมเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยไม่เขียนแผนการสอนไปแจกผู้เรียน จะมีเฉพาะคำอธิบายรายวิชา และเนื้อหาหลักๆ ๗ ประเด็นเท่านั้น เพื่อหวังว่า จะให้นักศึกษาทำแผนการเรียนที่สอดคล้องกับศักยภาพของตัวเอง และบอกนักศึกษาว่า ไม่ใช่แผนการสอน แต่ทำแผนการเรียนของตัวนักศึกษาเองว่า เราจะเรียนอะไร เรียนอย่างไร มีกิจกรรมอะไรบ้าง อยากเก็บคะแนนเรื่องอะไร จำนวนเท่าไร แล้วแต่จะตกลงกันเองในชั้นเรียน การทำนี้ไม่ใช่การทำเพื่อให้ถูกใจผม แต่ต้องทำเพื่อให้สอดคล้องกับตัวนักศึกษาเอง ผมหวั่นอยู่ในใจว่า การทำแบบนี้จะไปรอดหรือไม่ ภาคการศึกษานี้ต้องลองกันอีกที กิจกรรมการทำแผนการเรียน (ไม่ใช่แผนการสอนของผม) ของนักศึกษา เริ่มจาก
ก. ประชุมกลุ่ม พูดคุยระหว่างกัน แล้วเขียนแสดงความเห็นเกี่ยวกับเนื้อหาวิชาจำนวน ๖ ข้อ ประกอบด้วย
๑) ในสังคมปัจจุบัน เราดำรงชีวิตกันอย่างไร
๒) เมื่อทราบว่าโลกและชีวิตต้องเปลี่ยนแปลง เราจะดำรงชีวิตอย่างไรกับการเปลี่ยนแปลงนั้น
๓) ผู้อื่นและเรามีพฤติกรรมที่เหมือนและ/หรือแตกต่างกันอย่างไร
๔) จะทำอย่างไรให้ชีวิตดีขึ้น
๕) คุณธรรมจริยธรรมที่สำคัญอะไรบ้าง ที่เรากำลังนำมาใช้กับการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน
๖) จะทำอย่างไรให้ตัวเราและสังคมเกิดสันติสุข
ข. แบ่งกลุ่มผู้เรียนออกเป็น ๓ กลุ่ม กลุ่มละประมาณ ๗-๑๐ คน แล้วแต่อยากจะอยู่กลุ่มไหน จากนั้นให้ระดมความคิด วางแผนการเรียน จัดทำออกมาเป็นเอกสาร ประกอบด้วย เนื้อหาที่จะเรียน กิจกรรมการเรียน การสะสมคะแนน ผลของการเรียนที่อยากจะได้/ที่ทำ (นักศึกษาหลายคนมาขอคำปรึกษาใหม่ระหว่างกำลังระดมความคิด เพื่อหาความชัดเจนในเรื่องนี้ คนหนึ่งเปรยขึ้นว่า ตั้งแต่เรียนมาไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อนเลย ผมก็บอกนักศึกษาว่า ใช่ เพราะผมก็ไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อนเลย แต่ผมคิดว่านี้คือสิ่งที่น่าจะควรสำหรับตัวเราเองและอนาคต)
ค. ตัวแทนของแต่ละกลุ่ม (หลังจากได้เอกสารแล้ว) ๑-๒ คน มานั่งโต๊ะกลม เพื่อหาข้อยุติว่า "เราจะเรียนในวิชานี้กันอย่างไร โดยวิธีใด ทำอย่างไร" หลังจากคุยกันเรียบร้อย จัดทำเป็นเอกสาร สรุปรวมจาก ๓ ฉบับ รวมเป็น ๑ ฉบับ แล้วให้ ๑ ตัวแทนของกลุ่มใหม่นี้ เสนอต่อที่ประชุมในชั้นเรียน เพื่อฟังว่า มีใครเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกันอย่างไร (บรรยากาศคือ มีนักศึกษาขอเปลี่ยนแปลงบางอย่าง) เมื่อที่ประชุมเห็นด้วย จึงถือว่า แผนการเรียนดังกล่าวเป็นแผนที่เราจะเรียนร่วมกัน
ง. ผมทำหน้าที่นำแผนที่นักศึกษาได้ข้อสรุปนั้น ไปพิมพ์เพื่อนำมาให้ในสัปดาห์นี้
สิ่งที่ทำในภาคการศึกษานี้คือ "แผนการเรียน" ไม่ใช่ "แผนการสอน" ผมรู้สึกหวั่นๆ ว่าจะไปได้แค่ไหน และเกรงว่า การทำอย่างนี้จะถูกครหาว่า ทำแปลกประหลาด ไม่มีใครเขาทำกัน เสียเวลาเปล่าๆ ฯลฯ แต่ผมก็ได้ทำไปแล้ว ผมหวังว่า สักวันหนึ่ง นักศึกษาจะเรียนหนังสือโดยไม่ได้หวังจะมาพึ่งพาอาจารย์ประจำวิชา เพราะนักศึกษากับผมและอาจารย์อื่นๆ ล้วนแต่ดู "ลำยอง" เหมือนกัน ในเวลาเดียวกัน ช่องเดียวกัน
.............................................
บันทึกนี้เขียนไว้เพื่อจดจำสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป พอดีว่า เห็นประกาศจาก GTK ก็เลยร่วมด้วยก็แล้วกัน
กำลังทำแผนวิชาอะไร ของหลักสูตรสาขาอะไรคะ
เอาใจช่วยครับ...
วิชามนุษย์กับการดำเนินชีวิต (ปรัชญา+ศาสนา+จิตวิทยา) ครับผม อยู่ในกลุ่มวิชาศึกษาทั่วไป