วันที่ 31 ตุลาคม 2556 ทีม CADL ได้รับโอกาสจาก ผอ.ธีรเชษฐ์ ป้องจันมณีสกุล โรงเรียนอนุบาลประชารัฐสามัคคี ให้จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครูทั้งหมด แบบกึ่ง KM กึ่งจิตตปัญญาวิถีพุทธ ผมนำผลการจัดประเด็นของ Note Taker ของทีมเรา มาให้อ่านครับ แบบตรงไปตรงมาครับ
ก่อนอ่านบันทึกนี้ ควรจะอ่านวิถีและวิธีการขับเคลื่อน ปศพพ. ด้วยโมเดล "มือห้านิ้ว" ของโรงเรียนได้ที่นี่ครับ
กิจกรรมช่วงเช้า
ผอ.ธีรเชษฐ์ ป้องจันมณีสกุล ให้เกียรติกล่าวเปิดงานพร้อมกล่าวต้อนรับคณะทำงานจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยประเด็นที่ท่านกล่าวเปิดนั้นมีประเด็นสำคัญๆ คือ ธรรมชาติมนุษย์ ที่มีอุปสรรคที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประสบการณ์ สุขภาพกาย สุขภาพจิต พร้อมทั้งได้เสนอแนะแนวทางว่าควรจะรู้จักประมาณตน และเข้าใจตนเองว่า จะทำงานอย่างไร จะพัฒนางานได้อย่างไร
กระบวนกรเริ่มเล่าถึงความสามารถหนึ่งที่มนุษย์มีเหนือสัตว์อื่นๆ คือ การนึกย้อนหลัง ว่าแล้วก็โยน
คำถามไปที่ครูว่า เช้านี้ท่านมาโรงเรียน ท่านจำได้หรือไม่ว่า ก่อนมาโรงเรียนท่านนึกหรือคิดอะไร
- ครูสมหมายตอบว่า...มาแล้วจะเจอคนหน้าตาอย่างไรบ้าง? วิทยากรที่มาจะสวย หล่อมั้ย ได้ความรู้มั้ย
- ครูอีกคนหนึ่งตอบว่า คิดแต่ว่า...จะมาทันประชุมหรือไม่ เพราะบ้านไกลจึงต้องใช้เวลาเดินทางเกือบ 30 นาที
จากนั้นก็ได้เริ่มกิจกรรมแรกในช่วงเช้าคือ กิจกรรมจับมือ ตามด้วยกิจกรรมยืนตามลำดับ สองกิจกรรม
แรกนั้น เรียกเสียงหัวเราะจากครูที่เข้าร่วมกิจกรรมและทำให้ครูรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี เมื่อเสร็จกิจกรรมนี้กระบวนกรก็ได้ให้ครูทุกคนเริ่มแสกนบอดี้ ฝึกสมาธิ ฝึกจิต และอยู่กับตนเองก่อนจะเริ่มกิจกรรมสัตว์สี่ทิศ
กิจกรรมจับมือ
- ให้ครูจับมือกันเมื่อได้รับสัญญาณคือการจับมือ โดยเริ่มจากคนแรกแล้วเวียนทางซ้าย (ครูนั่งเป็นตัวยู) รอบแรกทุกคนมีสติรู้ตัว ทำให้จับมือกันจนครบทุกคน
- ขั้นที่สอง ให้ทุกคนหลับตา จะจับหรือแตะเมื่ออีกคน (คนที่มีสิทธิ์ได้ส่งสัญญาณคนแรก) ส่งสัญญาณเท่านั้น (เริ่มมีเสียงหัวเราะเพราะหลับตาแล้วคลำไม่เจอ)
รองผอ.วราภรณ์ ปัตตังทานัง เป็นคนแรกที่ส่งสัญญาณมือเป็นคนแรก
กระบวนกรถามว่า สัญญาณคืออะไร คำตอบไม่เหมือนกัน บ้างตอบสะกิดไหล่ สะกิดแขน สัมผัสหู-ไหล่ จับหู ลูบไล้แก้ม เฉลยสัญญาณคือ เขี่ยแก้ม 3 ครั้ง
สะท้อน
- คุณครูสมหมาย ตอบว่า จะพูดจะทำอะไรให้ตรงไปตรงมา นิ่ง แน่วแน่ มีสมาธิ
- ความซื่อสัตย์ ตอนหลับตา จะต้องทำตามกติกา กระบวนกรถามว่า ถ้าหากนำกิจกรรมนี้ไปใช้กับเด็กจะทำอย่างไร หากเด็กโกงหรือไม่เคารพกติกา
- วิธีแรกคือ การปรามด้วยเสียง (เป็นมาตรฐานเดิมที่คนส่วนใหญ่ใช้แต่ทางที่ดีคือ เสริมจิตวิทยาเชิงบวกจะได้ผล คือ เมื่อใช้การปรามแล้วครั้งหนึ่งยังไม่ได้ผลก็ควรจะแยกเด็กออกมาจากกลุ่มทันทีโดยที่ไม่ได้ร่วมกิจกรรมอีก)
- คุณครูเบญจวรรณ วิธีที่สองคือ ให้เริ่มกิจกรรมใหม่ทั้งหมดโดยเริ่มจากคนที่ทำผิดกติกาเป็นคนแรกที่เริ่ม (ถามว่าถ้าทำแบบนี้ยังไม่ดีเท่าไหร่ เพราะจะเกิดความไม่ยุติธรรมกับคนที่ไม่ได้เป็นคนทำผิด)
กระบวนกรสรุปว่า
- การสื่อสารนั้นยากมาก เพราะต้องใช้ใจฟัง
- การส่งสารจะต้องไม่แปลงสาร ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละบุคคล
- สมาธิ จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จำเป็นในการสื่อสารหรือทำกิจกรรมนี้
กิจกรรมยืนตามลำดับ
- กติกาข้อแรกให้ทุกคนยืนเรียงกันตามอายุโดยคนที่อายุมากกว่าให้ยืนอยู่ขวามือ (ในวงส่งเสียงชอบใจและรู้สึกผ่อนคลายกว่าเดิมมาก กิจกรรมใช้เวลาเพียง 3 นาที)
- กติกาข้อสองให้ทุกคนยืนเรียงกันตามระยะทางจากบ้านมาโรงเรียนโดยคนที่บ้านอยู่ไกลที่สุดยืนอยู่ขวามือ (มีการถกเถียงกัน พร้อมเสียงหัวเราะ ว่าเพื่อนยืนผิดตำแหน่ง กิจกรรมนี้ใช้เวลาเพียง 2 นาที)
- กระบวนกรเสริมว่า สาเหตุที่ทำให้เรียงกันได้รวดเร็วเพราะทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ระยะทางที่ไกลที่สุดคือ 49 กิโลเมตร และใกล้ที่สุดคือ 300 เมตร
49 km
45 km
40 km
.
.
.
300 m
อ่านต่อที่นี่ครับ