คราวนี้มาเล่าเรื่องที่เที่ยวต่างๆในเมืองเพิร์ธกันต่อ
ที่ฮิตมากที่สุดที่ใครๆที่ไปเพิร์ธก็ต้องขึ้นไป ใช้คำว่าขึ้นไป เพราะมันอยู่บนเขาจริงๆคือ King’s Park เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่กว่า 2,500 ไร่ (4.06 ตารางกิโลเมตร) อยู่บนเขากลางใจเมือง เขาจะมีทางขึ้นรอบด้านเลย บริเวณทางขึ้นทุกทาง จะมีต้นไม้เรียงรายขึ้นไป โดยมีป้ายสลักบอกไว้ว่าปลูกเพื่อเป็นที่ระลึกถึงทหารที่ไปเสียชีวิตในสงครามโลกทั้งครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ว่ากันว่ามีอยู่มากกว่า 1100 ต้น สมัยที่ไปใหม่ๆก็ได้มีโอกาสเดินขึ้นไปกับพี่ดุ่ย (พี่ชายที่แสนดีที่ได้มีโอกาสพบกันที่เมืองนี้) เขาจะมีทางสำหรับคนเดิน (เหมือนเดินป่าโดยมีไกด์อาสาสมัครนำทางด้วย) และทางที่รถขับขึ้นไปได้สบายๆ และเมื่อขึ้นไปอยู่บนนั้นก็จะมองลงมาเห็นเมืองเพิร์ธในทิศทางต่างๆได้ทั่ว ภาพวิวที่เราเห็นกันบ่อยๆ สำหรับเมืองเพิร์ธก็มักจะมาจากมุมกล้องที่ถ่ายจากบน King’s Park นี่แหละ เรียกว่าวิวทุกมุมสวยไปหมด ทุกเวลาด้วย ถ่ายออกมายังไงก็สวย
สถานที่สำคัญๆที่ทุกคนที่ไปเพิร์ธได้ไปเยี่ยมชมแน่นอนบน King’s Park ก็คือ War Memorial กับ Botanic Garden แต่มีอีกที่ซึ่งเรามักจะไม่ค่อยได้เห็นนักท่องเที่ยวไปแวะ (เขาอาจจะไปตอนที่พวกเราไม่เห็นก็ได้ แต่ไม่ค่อยเคยเห็นใครถ่ายรูปมาให้ดูเลย) ก็คือหอสูงที่เขาสร้างเป็นบันไดเวียน 2 ทางที่เหมือน DNA และเขาก็เรียกกันว่า DNA tower จากบนนั้นเขาจะมีแผนที่ชี้บอกว่าทิศไหนคืออะไร จะมองเห็นเพิร์ธได้รอบทุกๆด้าน ใครมีโอกาสไปเพิร์ธแล้วขึ้นไปบน King’s Park อย่าลืมถามถึงนะคะ
เทศกาลดอกไม้ป่า
ในช่วงเทศกาลดอกไม้ป่า เดือนตุลาคม-พฤศจิกายนของทุกปี บน King’s Park จะมีการทำดอกไม้ป่ามาจัดแสดงอย่างใหญ่โต และมีคนมาเที่ยวมากมายเสมอ โดยจะมีการกันพื้นที่ส่วนหนึ่งเพื่อการนี้โดยเฉพาะ แต่พวกเราโชคดีที่ปีแรกที่พวกเราไป ได้ขึ้นไปบน King’s Park กัน 2-3 วันหลังจากที่งานเสร็จสิ้นลง ได้เห็นว่าต้นไม้ ดอกไม้ที่เขามีนั้นมากมายเหมือนป่าจริงๆแต่เราได้เข้าชม ถ่ายรูปกันอย่างสบายใจโดยไม่ต้องหลบหลีกกับผู้คนและไม่ต้องเสียค่าเข้าอีกด้วย มีหลายๆรูปที่ถ่ายออกมาได้เหมือนเราไปเที่ยวชมดอกไม้ในป่ากันจริงๆ เลยได้บทเรียนว่าทุกๆปีเราจะขึ้นไปถ่ายรูปดอกไม้ป่าที่เขาจัดแสดงกันหลังจากที่งานเสร็จสิ้นดีกว่า
เรียกได้ว่าแค่ King's Park ที่เดียวก็คุ้มแล้วกับการมาอยู่เมืองเพิร์ธค่ะ เหมือนสวรรค์บนดิน มีธรรมชาติที่สวยงามและรัฐเองก็พยายามรักษาดูแลสร้างคุณค่าให้กับสิ่งที่เขามี มีกิจกรรมดีๆ มีเรื่องให้ทำอยู่ตลอดเวลา ใครได้ไปก็คงไม่มีวันลืม พวกเราขึ้นไปกันนับครั้งไม่ถ้วน น่าจะไม่มีหย่อมไหนที่เรายังไม่เคยเหยียบย่าง (แม้แต่ในดงๆที่เป็นทางเดินเท่านั้น ตัวเองก็ได้ไปเดินมาแล้ว) แทบจะหลับตาเดินได้เลย ก็ยังไม่เคยเบื่อค่ะ
ต่อมาจาก series นี้ค่ะย้อนรอย PhD
ขอบคุณค่ะ
ชอบการเขียนบันทึกแบบนี้นะคะ
มีเส้นทางการเดินทางไปสู่ความรู้ได้ง่าย และมากขึ้น
เช้านี้ดีใจมากค่ะ เพราะได้เข้าไปชมสวนพฤษศาสตร์ที่King's Park
มีกิจกรรมอาสาปลูกต้นไม้ด้วยสุดยอดจริงๆ มีคำเชิญชวนด้วยนะคะ
เขียนว่าLet yourself grow ! เห็นเขามีการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
มีกิจกรรมเชิงอนุรักษ์แบบนี้แล้วอยากให้บ้านเมืองเราทำบ้างทำเยอะๆ
เพื่อให้เกิดจิตสำนึกรักธรรมชาติ ไม่ตัดไม้ทำลายป่าจนมนุษย์ชาติเสียหายไปด้วย
และสงสัยจังเลยว่าต้นหญ้าชนิดหนึ่งของเขามีลักษณะคล้ายต้นไม้น้ำเค็มบ้านเราคือ"ชะคราม"
ไม้กอนั้นเขาเรียกอะไร ใช่ต้นไม้ในเพลงที่เพื่อนอาสาจากออสเตรเลียเคยสอนให้พี่ร้องหรือไม่หนอ??
พรรณไม้ต่างๆส่วนมากจะเป็นพรรณไม้ทางแถบตะวันตกของออสเตรเลียใช่ไหมคะ
พี่krutoiting เก่งจังค่ะ ขอบคุณมากๆเลยที่ทำให้รู้ว่าสิ่งที่ลิงค์ไว้ให้มีคนเข้าไปใช้ดูเป็นข้อมูล เป็นความตั้งใจจริงๆค่ะ เพราะเรื่องดีๆมีมาก เล่าได้ไม่หมด สำหรับพรรณไม้และสัตว์ของออสเตรเลียเขาจะเป็นของที่ประจำถิ่นค่ะ มีตำราเยอะเลย น่าทึ่งไปหมดค่ะ ทำเอาอยากเรียนมาด้านนั้นเลย รับรองที่นั่นคือแหล่งเรียนรู้สาขาพืชสัตว์ที่น่าสนุกมากมายค่ะ