เสริมพฤติกรรมลูกรักด้วยพลังจิตใต้สำนึก


เช้านี้ได้มีโอกาสฟังรายการดี ๆ "รายการพ่อแม่พันธุ์ใหม่หัวใจเกินร้อย" FM 105 เวลา 8.00 น. - 9.00 น. บอกละเอียดเผื่อใครสนใจติดตามฟังบ้างฮ่าๆๆ

พี่โนผู้จัดรายการได้นำประเด็นเรื่อง"เสริมพฤติกรรมลูกรักด้วยพลังจิตใต้สำนึก" ฟังชื่อเรื่องแล้วก็น่าสนใจ เร้าใจให้ติดตามฟังมากมาย ฟังแล้วก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีน่าจะนำมาส่งต่อเนอะ

พลังจิตใต้สำนึกนั้นมีความมหัศจรรย์มากมาย สามารถทำให้เราประสบความสำเร็จได้ หรือล้มเหลวได้ เป็นคนที่ดีได้ เป็นคนเลวก็ได้ ฯลฯ เหล่านี้หากใครเคยอ่าน หรือได้ดู คุณฐิตินาถ ณ พัทลุง ได้เขียนไว้หนังสือเข็มทิศชีวิต มีหลายเล่มอยู่เนอะ หรืออ่านหนังสือ หรือได้ฟังจากคุณหนูดี วนิษา เรซ ก็มีเรื่องนี้พูดถึงอยู่เสมอ แต่ในที่นี้ที่ทางรายการนำมาพูดคุยนั้นเป็นเรื่องการทำอย่างไรถึงจะให้พลัง+++ของจิตใต้สำนึกเกิดขึ้น รับรองได้ว่าอ่านแล้วคิดว่าพ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนทำได้โดยไม่ต้องไปอาศัยผู้เชี่ยวชาญอะไรที่ไหน อิอิ

1. แค่เริ่มจากที่เรา "ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี" ให้ลูกเห็น เรื่องนี้พูดกันบ่อยเนอะ แต่มันจริง เป็นการสอนที่ไม่ต้องใช้คำพูดอะไรสั่งสอนมากมาย ทำให้เห็น เป็นให้ดู

2. การมอบความรักให้กับลูก ข้อนี้อ่านแล้วคิดบ่นในใจไหม ใคร ๆ ก็มอบความรักให้แก่ลูกกันทั้งนั้น แต่....สำคัญที่วิธีการมอบความรักของเราส่งไปถึงใจเขาหรือเปล่า ถ้าความรักที่เราส่งไป ส่งไม่ถึงผู้รับ แล้วแถมตีกลับความรักเป็นว่าเราทำร้าย ใจร้ายล่ะ หึๆๆ อันนี้ต้องคิดทบทวนกันนะคะ รักแล้ว ส่งความรักไปถึงไหม ท่อส่งผ่านความรักเรากับลูกอุดตันหรือไม่ แล้วจะทำอย่างไรให้ความรักที่เรามีทั้งหมดนี้ส่งไปถึงใจเขาได้ เหล่านี้ต้องคิดแล้วเนอะ

3. มอบแต่สิ่งดี ๆ คำพูดดี ๆ คำพูดเชิงบวก และควรผนวกปัญญาไปด้วยเนอะ หลายครั้งมีคนก็บอกว่า ฉันก็พูดดี ๆ แสนดีกับลูกแล้วนะ กูมึง นี่ไม่เคยมี สุภาพไพเราะเสนาะโสตหูเป็นที่สุด แต่มาหลุดต้องที่ขาดปัญญาในการพูดนี่แหละ ตัวเองก็เคยเป็น อิอิ การพูดสิ่งดีๆ เช่นการชมเชย ก็ต้องชมในเรื่องที่สมควรชม ชมให้ถูกเวลา ชมให้เหมาะกับวัยเป็นต้น การพูดให้กำลังใจ บางทีเราตั้งใจให้กำลังใจ แต่กลายเป็นไปกดดันเขาไป เขาตีความไปแบบนั้น สำคัญจริง ๆ นะคะเรื่องการพูดดี ๆ แบบมีปัญญาเนี้ย

4. ทำแต่สิ่งดี ๆ เช่น พาไปกันทำบุญ ทำทาน สวดมนต์ก่อนนอน แผ่เมตตา ช่วยเหลืองานบุญ งานกุศล อะไรที่เป็นกุศลก็ทำกันไป

5. มอบหมายงานให้รับผิดชอบ โดยควรพิจารณาว่าเขาสามารถทำได้ และเหมาะสมกับวัยเขาด้วยเนอะ 

6. สอนเรื่องระเบียบวินัย 

7. สร้างนิสัยสนใจใฝ่รู้ กระตุ้นให้เขาเกิดการอยากเรียนรู้ เช่นอาจพาไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ หรืออาจว่าหากเรามี่คำถามสงสัย เราอาจไม่ตอบเขาทันที ลองให้เขาคิดว่าเราจะหาคำตอบได้อย่างไร แล้วช่วยกันคิด กันหาคำตอบไปพร้อม ๆ กับเขา โดยเขาเป็นเพียงที่ปรึกษาประมาณนี้

8. ฝึกมารยาทสังคม เช่นเจอผู้ใหญ่ควรทักทายยกมือไหว้ ขอบคุณเมื่อใครให้ของ การพูดจา ฯลฯ 

9. รักษาสมบัติของชาติ สมบัติส่วนรวม เช่นให้ลูกช่วยกันทำความสะอาดบริเวณหน้าบ้านที่แบบนอกเขตรั้วบ้านตัวเอง เพราะเป็นพื้นที่ส่วนรวมที่ใช้ร่วมกัน เห็นขยะถึงไม่ใช่เราทิ้ง ก็เก็บทิ้ง เวลาไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ก็ให้ช่วยกันดูแล ไม่ทำลายเพิ่ม ไม่ใช่แค่แลดู

10. สอนเรื่องความกตัญูรู้คุณ

11. เลือกรับสื่อที่ดีให้ลูก ไม่ว่าจะเป็นทีวี หนังสือ เกมส์ 

เหล่านี้อ่านแล้ว ก็เหมือนจะเป็นเรื่องพื้นฐาน บ้าน ๆ มาก ประมาณว่ารู้ ๆ กันอยู่แล้ว ที่เหลือคือ รู้แล้วคุณพยายายามลงมือทำมากน้อยแค่ไหน หลายอย่างอาจยังมีอะไรที่ยังไม่พร้อมจะทำ ยังทำไม่ได้ อาจดูเป็นเรื่องยากสำหรับตัวเอง แม่ดาวเชื่อว่าไม่ว่าจะยากแค่ไหน ถ้าเราตั้งใจทำก็ต้องทำได้บ้างแหละเนอะ ไม่ต้องถึงกับสมบูรณ์แบบ แค่ทำแบบพยายามทำให้ดีที่สุด ส่วนผลที่จะเกิดจะดีไหม ได้ไหม อันนั้นคงต้องปล่อยแบบมีปัญญา อิอิ 

***ทิ้งท้ายจากรายการว่า เลี้ยงลูกให้เหมือนเลี้ยงหมา เลี้ยงให้ดีที่สุดแล้วไม่คาดหวัง แค่มีความสุขกับการที่ได้เลี้ยง ได้เห็นการเจริญเติบโตความสุข ความน่ารัก ของมันไปแต่ละวัน ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับการได้เล่น ได้หยอกล้อ ประมาณนั้นอะนะ เลี้ยงลูกเรามักตั้งความคาดหวังไปต่าง ๆ นาๆ สารพัดจริงไหม ความสุขก็เลยถดถอย กลายเป็นท้อ ๆ หมดแรง หรือใครคิดว่าอย่างไรคะ

การทำกิจกรรมดี ๆ ก่อนนอน การพูดคุยเรื่องดี ๆ ก่อนนอน เคยอ่านและฟังมาว่าดีมาก ๆ ในการฝังจิตใต้สำนึกดี ๆ ไว้ให้ลูก เพราะเป็นช่วงที่คลื่นสมองต่ำ เป็นช่วงเวลาผ่อนคลาย เป็นความโชคดีของแม่ดาวที่ทำเรื่องพวกนี้มาก่อนที่จะได้รู้เรื่องนี้ แม่ดาวมักชวนลูกคุย เล่านิทาน อาจมีสวดมนต์ แผ่เมตตาบ้างบางวัน คืออยากทำทุกวัน แต่บางวันเขาไม่อยากทำก็ไม่บังคับ เพราะคิดเองว่าคนเราจะทำต้องให้ใจพร้อม หากให้สวดมนต์ แผ่เมตตาแบบจิตเป็นลบ คือทำเพราะแม่บังคับ แบบนั้นคิดว่าคงไม่ดี แค่เป็นการท่องบ่นให้จบ ๆ จึงไม่เลือกที่จะบังคับว่าต้องทำ จากผลที่ทำมา หลาย ๆ ครั้งกับพฤติกรรมที่น่าปวดหัว แม่ดาวก็สามารถใช้การพูดคุยก่อนนอน เล่านิทานเกี่ยวโยงกับพฤติกรรมนั้น ๆ ก่อนนอน แม่ดาวเห็นว่าช่วยปรับพฤติกรรมเขาได้มากเลยทีเดียวนะคะ ไม่ว่าจะเรื่องสอบก่อนก่อนจะนอนก็มักจะคุยกับลูกว่า พรุ่งนี้สอบลูกรู้สึกอย่างไร ชวนคุยและเสริมพลังบวกให้เขาก่อนจะไปสอบ ตอนเช้าก็อีกรอบฮ่าๆๆ ไม่รู้นะ แต่ตัวเองเห็นผลว่าดี จึงบอกต่อจ้า อันนี้ต้องลองทำกันดูเนอะ

หมายเลขบันทึก: 547308เขียนเมื่อ 3 กันยายน 2013 14:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 กันยายน 2013 14:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สวัสดีค่ะ

- เข้ามาอ่าน  และ ชื่นชม  ที่กรุณา  ถ่ายทอด  สิ่งดีดี  ให้ คุณพ่อ คุณแม่  ในยุคปัจจุบัน  ถือปฏิบัติ

- อ่านรายละเอียด แล้ว นึกถึงตัวเอง สมัยที่ ลูกเล็ก ๆ จวยบจน ปัจจุบัน  ...ก้อ  เอ้อ...!!!

.เราก็ทำ เช่นนั้น ทั้ง 11 ข้อ  เลยนะ...

ขอ Confirm  ปัจจุบัน  ลูกสาว เรียน สัตวแพทย์ จุฬาฯ  ชั้นปีที่ 3  แล้ว    .... 

ลี้ยงลูกให้เหมือนเลี้ยงหมา เลี้ยงให้ดีที่สุดแล้วไม่คาดหวัง แค่มีความสุขกับการที่ได้เลี้ยง ได้เห็นการเจริญเติบโตความสุข ความน่ารัก ของมันไปแต่ละวัน   /// 

ขอบคุณมากมากค่ะ

ชื่นชมคุณจอย แล้วพลอยสุขใจแทนทั้งคุณจอยและลูกค่ะ ลูกโชคดีที่มีแม่อย่างคุณ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท