กลับสู่มาตุภูมิ..


*คนสมัยนี้มีความสะดวกสบายมากขึ้น..มากกว่าสมัยผู้เขียนหรือผู้อ่านบางท่าน ตอนนั้นการไปชมเครื่องบินต่างๆมิใช่เรื่องง่าย เพราะเครื่องบินที่ตามกองทัพหรือหน่วยงานหลายแห่งซื้อมานั้น..ยังไม่เก่า หรือชำรุด พอที่จะนำมาตั้งโชว์..เพื่อผลาญงบประมาณ.

 

ต่อมาพอมีเครื่องบินเก่า หรือปลดระวางแล้ว นอกจากจะนำไปทิ้งให้เป็นที่อาศัยของปลา หรือปะการังแล้ว บางแห่งยังนำไปตั้งโชว์กันอีกต่างหาก..ดีครับไม่ต้องไปดูไกลถึงต่างประเทศ ส่วนใครที่ได้ไปมาแล้วถือว่าเป็นกำไรครับ..ใครที่มีโอกาสได้มาถึงที่นี่ก็ไม่ควรพลาดโอกาสดีดี เพราะท่านไม่ต้องไปถ่ายภาพไกล..ถึงฐานทัพอากาศลั๊คแลนด์.สหรัฐอเมริกา..เช่นที่ผมเคยไปถ่ายมา. นายโอถ่ายไว้หลายภาพก่อนเดินทางกลับบ้าน    เย็นนั้นพอส่งนายจ้างเสร็จเราก็แยกกันกลับบ้านเลย..กำลังพักผ่อนน้องสาวโทรมาถามว่าเห็นฝาครอบเล็นส์ของนายจ้างไหม ? พี่แกน่าจะทำหล่นแถวๆลานจอดรถตอนที่ลงไปถ่ายภาพเครื่องบินขับไล่ก็เป็นได้..เธอพูดทำนองอยากจะให้ผมกลับไปดูให้หน่อย.ไกลพอสมควร.ไป-กลับประมาณ๓๐กิโลเมตร. เราเตรียมนำรถออกเพราะรู้ดีว่าเขาคงจะเสียดาย..น้องโทรมาบอกว่าพบแล้วเพราะเธอแอบไปซ่อนอยู่ที่ใต้กล้องในกล่องนั่นเอง..เลยรอดตัวไปได้.ไม่ต้องไปแล้ว.เช้านี้เป็นวันสุดท้ายของนายโอแล้ว หลังจากที่ได้ตระเวนไปเที่ยวกันหลายหาด..ผมพาเขาไปซื้อเสื้อตามที่เขาได้ไปเล็งไว้เมื่อวันก่อน  จากนั้นเราเลยมาทานมื้อเที่ยงกันบนห้างดังกล่าว กลับมาถึงบ้านได้พบว่าเพื่อนชาติเดียวกันโผล่มาโดยมิได้นัดหมาย  พี่แกคุยกันและเถียงกันเสียงดังมาก..น่าเสียดายที่ผมฟังไม่รู้เพราะเถียงกันด้วยภาษานอ-เว. ต่อมานายโอเล่าให้ฟังว่า.. เขาต่อว่าไปวันก่อนพี่แกมาขอเงินไปสองพันโดยบอกว่าจะทำอาหารยุโรปมาให้ในมื้อเย็น  นายโอยังบ่นไม่หายว่า..ไม่ได้กินอะไรเลยแม้แต่คำเดียว.. นายจ้างยังไม่ลดละเพราะบอกว่า..เพื่อนนอร์เวย์มาขนของไปหลายรายการ สาเหตุเพราะเขามีกุญแจบ้าน ๑ ชุด. ยกเว้นโต๊ะวางของหน้าโซฟาร์ ทุกคนยืนคุยกันเพราะไม่มีโซฟาให้นั่งกันแล้ว ...     

โตนี่ฟางกับโฮมสะเตย์แบบไทย. ราคาถูกกว่ากันมาก.

ผมเห็นเมียคนไทยของเพื่อน..กำลังช่วยกันยกของขึ้นรถ ก่อนกลับบ้านเขายังรับปากว่าจะนำกุญแจบ้านมาคืน   แต่เอาเข้าจริงๆพี่แกมิได้ทำตามที่พูดไว้. นายจ้างบอกว่า..จะขอเช่าบ้านหลังนี้ต่ออีกสามเดือนเพราะคิดว่าจะ  กลับมาที่เมืองไทยอีก นายโอให้ผมไปซื้อกุญแจดอกใหม่มาคล้องเพื่อป้องกัน..มิให้เพื่อนขี้โกงแอบมาขนของ  ที่ทิ้งไว้ไปเป็นของส่วนตัว ผมทำตามโดยมิได้ออกความเห็นใดใด ? นายโอยอมจ่ายเงินมัดจำไปอีก ๕ พันบาท. ทีแรกนางเจ้าของบ้านบอกว่าจะไม่คิดค่ามัดจำ..ใครที่ยังต้องเช่าบ้านอยู่อ่านแล้วระวังให้ดีน๊ะครับ..นายทุนหน้าด้าน..เอ๊ยหน้าเลือดยังมีอยู่ทั่วไป อยู่ที่ใครโชคดีจะเจอก่อนเท่านั้นเอง.นายโอให้ผมเขียน     รายละเอียดให้เขา โดยรับปากว่า..จะส่งเงินมาให้เดือนละหมื่นบาท ค่าเช่าบ้าน ๘,๕๐๐บาท และที่เหลือเป็นค่าตัว๑,๕๐๐บาท ผมจดเบอร์บัญชีธนาคารกรุงเทพฯให้เป็นหลัก รองมาเป็นหมายเลขของธนาคารทหารไทย เขานำไปเก็บไว้ในกระเป๋าเอกสารเป็นอย่างดี..ประมาณสามโมงเย็นผมมารับนายโอเพื่อไปส่งเขาที่สนามบิน   สุวรรณภูมิ ปกติเขาจะต้องจ้างเพื่อนไปส่ง.. แต่หมอนั่นออกลายสิครับ รับเงินไปแล้วดันบอกว่าสายตาไม่ค่อยดี ขับรถกลางคืนไม่ถนัด.แปลกสิครับ..พี่แกโกงอย่างหน้าด้านๆเพราะไม่ยอมคืนเงินค่ารถให้น่ะสิ..นายโอก็ดีเกินไปครับ..ไม่บ่น..ไม่ว่าอะไรเลย แต่กลับมาใช้บริการของผม..ผมมิได้ดีใจหรอกครับเพราะห่วงสภาพรถตัวเองเกรงว่า..จะไปไม่ถึงบ้าง..หรือส่งเขาแล้วตัวเองจะกลับมาไม่ถึงสัตหีบบ้าง..คิดไปตามประสาคนที่มีรถเก่าจริงๆแล้วรถคันนี้แม้จะซื้อมาแบบมือสอง  พี่แกสร้างเงินให้ผมพอสมควรครับปีแรกที่ซื้อสดมา๒.๖แสน พี่แกออกหากินงานค๊อบบร้าโกลด์ ฟลุ๊คครับได้มากว่าแสนบาท..

 

คู่ชีพของผมเองครับ. ทั้งรถและคน.

ปีที่สองนั้นรับจริงน้อยลงอีกหน่อย. แค่๒หมื่นเศษๆ. ต่อมาพี่เขาก็พาผมไป-กลับ ทำงานบริษัทเกือบ ๔ ปี..เห็นไหมว่าซื่อสัตย์มาก.แม้จะอายุมากแล้ว.เดือนก.ค.ที่ผ่านมาจึงพาไปรีแพร์ใหม่ หมดไปสามหมื่นเศษๆ ตอนนี้อยู่ในช่วงรันอินครับ. Run in. คาดว่าคงพอหายใจคล่องไปได้อย่างน้อยสาม-สี่ปี.  นายโอจ่ายค่าตัวมาสามพันห้า โดยให้น้องสาวอีกต่างหาก พี่แกเหลือเงินไทยไว้เพียง๑,๕๐๐ บาทเท่านั้น.เราออกจากบ้าน       แล้วค่อยๆไปเพราะสภาพรถไม่พร้อมที่จะวิ่งเร็ว อีกอย่างเรามาล่วงหน้าก่อนเครื่องออกหลายชั่วโมง ผมจึงมิได้รีบร้อนนัก แม้จะเป็นครั้งแรกที่มาสนามบินนี้ผมทำการบ้านมาแล้วครับ    เพราะสอบถามเพื่อนที่อยู่ใน กทม. เรามาจอดเทียบที่อาคารผู้โดยสารขาออก ทุกคนนำของลงจากรถ ผมต้องนำรถไปจอดที่ลานจอดแล้วจึงเดินกลับมาพบกัน ผมพาไปที่อาคารตัวคิว มาจากชื่อสายการบินแควนตัส. มายืนรอคิวอยู่สักพักจึงสอบ     ถามผู้โดยสาร สาวไทย.ที่มารออยู่ก่อน เธอดีมากครับเพราะอธิบายให้ผมไปตรวจเที่ยวบินที่ป้ายบอกเวลา     ผมตรวจแล้วปรากฏว่าเวลาไม่ตรงกัน เธออธิบายใหม่ว่าให้ไปเชคอินอีกแห่งหนึ่ง เพราะเคาน์เตอร์ที่เธอรอคิวอยู่นี้สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการเปลี่ยนแปลงเวลาเดินทาง..หรือเปลี่ยนเที่ยวบิน..ขอบคุณสาวไทยท่านนั้น มา ณ ที่นี้ด้วยครับ  เพราะถ้าไม่ได้เธอ..นายจ้างผมอาจตกเครื่องก็เป็นได้..ว่าแล้ว เราก็ทยอยเข็นของมาเชคที่สายการบินแควนตัสทันที พนักงานต้อนรับยังเด็กครับ เอหรือเราแก่เอง.พูดจาไพเราะ บางคนแต่งตัวแบบมุสลิมเพราะโพกผ้าเสียด้วย..คงจะเป็นคนละคนที่เพิ่งกลับมาจากอียิปต์..ผมเดินเข้าไปสอบถามเด็กหนุ่มพร้อมนำกระเป๋าเดินทาง และของที่นำไปด้วยขึ้นชั่งน้ำหนักกันเลย..ปรากฎว่าน้ำหนักเกินสิครับ


ที่สโมสรของหาดนางรำ.  โนแอลกอฮอล์.

ผู้โดยสารทุกท่านมีสิทธินำของไปด้วย ๑๘ ก.ก. ถ้าใครน้ำหนักเกินแต่ยังอยากนำไปด้วย จะต้องเสียเงิน ๕๐๐ บาทต่อ ๑ก.ก. แต่ละสายการบินอาจจะอนุญาตให้นำไปได้ไม่เท่ากัน. สัมภาระของนายโอมีน้ำหนักเกินไปประ มาณ ๕ก.ก.หมายถึงจะต้องจ่ายเพิ่ม ๒,๕๐๐บาท.แต่เงินไม่พอครับ.ผมชวนคุยและต่อรองจึงพบว่า..เที่ยวบินนี้เขาเดินทาง ๒ คน อีกคนไม่มีสัมภาระ..ผมเลยชวนให้จนท.นำน้ำหนักที่เกินบวกไปกับผู้โดยสารอีกคนหนึ่ง..ได้ผลสิครับ. ไม่เห็นจะต้องทายเลยนี่นา !ความจำผมยังดีครับผมคิดถึงตอนเดินทางกลับจากสนาม    บินทราวิส ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในมลรัฐแคลิฟอร์เนียร์.ตอนที่ผมไปศึกษาและดูงานครั้งแรกที่สหรัฐฯ   เที่ยวกลับครั้งนั้นน้ำหนักของผมเกินไปหลายกิโล..กำลังคิดว่าจะนำอะไรออกทิ้งดีหว่า ? พลันก็ได้ยินเสียงผู้โดยสารที่ต่อคิวบอกจนท.ว่า กรุณานำน้ำหนักที่เกินมาใส่ในส่วนของเขา เพราะเขาไม่มีอะไรเลย..สวรรค์มีตาครับผมจึงรอดมาได้..จ่าคนนั้นกำลังจะมาราชการที่อุดร ส่วนเที่ยวนั้นผมมาลงที่ดอนเมือง. พอเราออกจากเคาน์เตอร์เชคอินแล้ว ก็พากันมานั่งรอเวลาใกล้ๆกับที่เชคอิน ซึ่งที่สนามบินสุวรรณภูมินี้ เขาจัดที่นั่งไว้เป็นโซน.โซน. ระหว่างที่นั่งคุยกันนายโอหยิบเงินมาให้ผม  ๑ พันบาทแถมยังกล่าวขอบอกขอบใจ..ที่ทำให้เขาไม่ต้องเสียเงินไปกับน้ำหนักของที่เกินไปหลายกิโลกรัม..แท๊งค์กิ้วเซ่อร์.


ผู้เขียนกับเพื่อนนอร์เวย์คนใหม่.  เขาพูดกันเสมอๆว่า..เก่าไปใหม่มา...

กล่าวจบปุ๊บรีบหยิบเงินปั๊บ แล้วนำมาเก็บไว้ในกระเป๋าทันที.ไม่ได้งกหรอกน๊ะถ้าจะตำหนิล่ะก็..ควรชมไม่ดี  หรือครับว่า..ตาคนนี้รอบคอบจริงๆ..ไม่ต้องกดไล๊ค์น๊ะเดี๋ยวจะผิดพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์..คิดกันไปได้น๊ะพวกนักวิชาเกินทั้งหลาย.  อาจมีใครรู้ว่าเราต้องเดินทางกลับสัตหีบไกล และเกรงว่าจะมืดเสียก่อน.. ฟ้าจึงส่งเพื่อนนอร์เวย์ที่เดินทางพร้อมเขามาเปลี่ยนเวรจากผม หลังจากคุยกับนายโอและเพื่อนเขาแล้วก็ถึงเวลาลาจาก..น้องสาวผมแยกกลับบ้านที่ปทุม..เราสองชีวิตรีบกลับสัตหีบ..เที่ยวกลับเราหายใจไม่ทั่วท้องเพราะเข็มน้ำมันโชว์ว่า..ต่ำมากแล้ว ทั้งที่ก่อนมาก็ได้เติมไว้แล้ว..เฮ้อใครมีรถเก่าก็คงจะเป็นแบบผู้เขียนเป็นแน่..วิ่งมาถึงจุดพักรถบนมอเตอร์เวย์จึงเติมเต็มเสียเลย เราวางแผนว่าจะแวะกินมื้อค่ำกันบนร้านอาหารของห้างช๊อปปิ้งมอลล์ที่พัทยาไม่ทันเสียแล้วเพราะครัวเปลี่ยนมาปิดในเวลาสามทุ่ม  เราต้องยาวมาจนถึงปากซอยแล้วซื้อกลับเข้าไปกินในบ้าน  เป็นอันจบภารกิจที่ไม่คิดว่าจะได้รับมาก่อน..น้องสาวรับไปแปดพันบาท ผู้เขียนได้มาประมาณหนึ่งหมื่นบาท..แต่เติมน้ำมันรถไปประมาณสามพัน..พอพอกันกับน้องสาวครับ เงินนั้นผมมิไม่ได้สนใจนักแต่..ประสบการต่างหากที่จบงานแล้วยังสามารถนำมาเล่าสู่กันในบล๊อกนี้ได้..แถมยังหาซื้อไม่ได้ด้วยน๊ะ.ถึงจะมีเงินก็เถอะ.คิดว่าน่าจะจบเรื่องเขียนตรงบรรทัดนี้แต่..ยังจบไม่ได้เพราะว่า..เช้าวันรุ่งขึ้นผมขับรถไปที่บ้านหลังเดิมจึงพบว่า..เพื่อนนอร์เวย์ของนายโอ..ได้นำกุญแจมาสวมทับกุญแจที่ผมนำมาใส่ไว้ โดยอ้างว่า..กลัวผมจะแอบมาขนของออกไป ที่จริงเป็นเพราะเขาโมโหที่ผมนำกุญแจมาคล้องไว้จนทำให้เขาไม่สามารถมาขนอะไรไปได้นั่นเอง..เขามีกุญแจอยู่ ๑ชุดตามที่ผมได้เขียนมาแล้ว..ผมเรียกนางเจ้าของบ้านมาถาม..เออนอกจากหล่อนจะปฎิเสธไม่ยอมรับรู้ใดใดแล้ว หล่อนยังทำท่าหวงก้าง..สมบัติของผู้เช่าที่ทิ้งไว้ในบ้านนั่นเอง ตอนนี้ผมมองออกว่ามีคนงกและอยากได้สมบัติของนายโอขึ้นมารวม ๒ เจ้าแล้วครับ..


ผู้เขียนได้รับเชิญมาร่วมดินเนอร์ที่บางเสร่.  เพื่อนกลับมาพักจากงานขุดเจาะน้ำมัน.

ผมน่ะเหรอ ? แม้เขาจะให้ผมทั้งหมดผมยังไม่มีที่เก็บเลยจริงๆครับ      แถมยังไม่มีความคิดที่จะเอาอะไร?ของเขามาเก็บไว้ในครอบครองด้วยซ้ำ..ผมกลับบ้านมาพักผ่อนสมองก่อนเพื่อจะได้ไม่ต้องปวดหมอง..หลายวันต่อมานางเจ้าของบ้านเช่า..โทรมาถามผมเรื่องเงินค่าเช่าของเดือนถัดมา ผมอธิบายกลับไปว่าไม่มีใครโอนเงินเข้าบัญชีผมเลยแม้แต่บาทเดียว..ถ้ายังไงควรจะรออีกสักหน่อยเพราะถือได้ว่าเงินที่มัดจำไว้นั้น๕พันบาทน่าจะประกันหรือคุ้มครองอยู่. หล่อนบอกให้ผมติดต่อกลับไปที่นายโอ  ผมไม่สามารถติดต่อได้เพราะเขามิได้ให้รายละเอียดอะไรไว้เลย..ในที่สุดเวลาเกินมาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว ผมไม่มีวิธีใดที่จะปกป้องตนเอง เพราะแอบคิดเอาเองว่า..วันไหนที่เขาเปิดเอาของไปหมดบ้านแล้ว ถ้าเผอิญนายโอกลับมาเมืองไทยได้อีกครั้งใครจะรู้ ? พวกตัวแสบพวกนั้นอาจจะโยนความผิดว่า..ผมเป็นผู้ขนของไปทั้งหมดก็เป็นได้..ถ้าเขาไม่สามารถกลับมาได้และใครจะเอาสมบัติไป..ผมก็ไม่ติดใจเพราะไม่มีเจ้าทุกข์แต่..ทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นได้เสมอ..ผมจึงจดรายการต่างๆแล้วเมลแจ้งไปที่กงสุลนอรเวย์ ที่พัทยาเพื่อทราบ  และเป็นการป้องกันตนเองไว้ก่อน..สิ้นเดือนถัดมาผมกลับไปที่บ้านเช่าหลังเดิมอีกครั้งและคืนกุญแจให้นางเจ้าของบ้านไปหมดเลย และบอกไปว่าคุณควรรับผิดชอบสมบัติของผู้เช่า จะเก็บรักษาไว้หรือทำอะไรก็ตามใจ..ผมไม่ขอเกี่ยวข้องด้วย..ส่งกุญแจบ้านให้หล่อนแล้วผมออกจากบ้านเช่าและจากเจ้าของบ้านจอมงกทันที..เออ..เดี๋ยวนี้มีแต่เรื่องแปลกๆน๊ะ  ใครอ่านแล้วถ้าบังเอิญจะต้องไปเช่าบ้านใครอยู่ ? ก็พึงสังวรไว้บ้าง อย่างน้อยจะได้ไม่ต้องปวดสมองเหมือนผู้เขียน..และรู้เท่าทันพวกมงกุฎหลายอัน..ผมเขียนเรื่องดูแลผู้สูงวัยจนจบบริบูรณ์แล้ว..นายโอยังไม่ส่งข่าวกลับมาอีกเลย..ไปไหนมาไหนก็ไม่ต้องกังวลใดใดว่าใครจะมาแอบนินทาว่า..นี่ไงตาโตนี่ฟางคนที่แอบไปฮุบสมบัติของผู้สูงอายุ..เปล่าครับ..ผมปกป้องเขาจนรู้นิสัยที่แท้จริงของเพื่อนนอร์เวย์คนที่เคยคบกันมา..เสียดายเวลาจริงๆ.  *ขอขอบคุณเน็ททุกเว๊ปไซ๊ด์ ที่ผู้เขียนนำมาลงในเรื่องนี้.เออตัวเองได้แต่ดูแลผู้อื่นพอถึงเวลาเราบ้าง..ใครจะมาคอยดูแลบ้างก็ยังไม่รู้เลย ? คู่ยากน่ะเหรอ ?..ไม่รู้จริงๆว่าใคร ? จะไปก่อนใคร ?

สวัสดีครับผู้สูงวัยทุกท่านที่ตามมาจนถึงบรรทัดสุดท้าย อย่างน้อยท่านก็หมดห่วงได้เลยเพราะผู้เขียนไม่ได้คิดที่จะมาขนของชิ้นใดของท่าน..อยากได้ครับแต่ไม่มีที่เก็บ..

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 546048เขียนเมื่อ 20 สิงหาคม 2013 06:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 สิงหาคม 2013 07:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

 

      ..... ขอบคุณ บันทึกดีดีนี้้ นะคะ .... 

แวะมาทักทาย...มีความสุขนะคะ...คุณโตนี่ฟาง...หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ยังเล่าเรื่องอ่านได้สนุกเหมือนเดิมนะคะ

อัสสะลามมาลัยอากุม..ผมมิได้หนีภัยมาจากอียปต์หรอกครับ ยังอยู่ในเมืองไทยนี่แหละครับ ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเหมือนเคย

ใช่แล้วครับ..ความสุขเป็นสิ่งที่ชีวิตต้องการ..แต่ต้องไม่เบียดเบียนใคร..

....สวัสดีครับ...เถอะน่า ๆ...มีน้อย ๆ ไว้น่ะดีแล้ว...มีมาก ๆ เขาว่ากันว่า ทุกข์มากนะครับ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท