รองศาสตราจารย์ ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ (ชื่อเล่น: ทริป) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอดีตผู้ช่วยอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ชัชชาติ เป็นบุตรของ พลตำรวจเอก เสน่ห์ สิทธิพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กับนางจิตต์จรุง สิทธิพันธุ์[1] มีพี่น้องร่วมบิดา-มารดา คือ
ดร.ชัชชาติสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา[2] ระดับปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมโยธา (เกียรตินิยมอันดับ 1) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระดับปริญญาโท สาขาวิศวกรรมโครงสร้าง จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ และระดับปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ ด้วยทุนอานันทมหิดล ประจำปี พ.ศ. 2530[3]
ชัชชาติ สมรสกับนางปิยดา สิทธิพันธุ์ (สกุลเดิม อัศวฤทธิภูมิ) พนักงานบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) มีบุตรชาย 1 คน[1]
ดร.ชัชชาติ เคยทำงานเป็นวิศวกรโครงสร้างในบริษัทเอกชน ต่อมาในปี พ.ศ. 2538 ได้เข้ารับราชการเป็นอาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับแต่งตั้งตำแหน่งทางวิชาการเป็น รองศาสตราจารย์ และได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยอธิการบดี ฝ่ายจัดการทรัพย์สิน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 นอกจากนั้นยังเคยดำรงตำแหน่งกรรมการในรัฐวิสาหกิจหลายแหล่ง อาทิ บริษัท ขนส่ง จำกัด การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด[4]
ดร.ชัชชาติในฐานะนักวิชาการ ได้มีโอกาสเข้ามาช่วยงานและให้คำปรึกษาแก่กระทรวงคมนาคม ในสมัยรัฐบาลทักษิณ 2 และ รัฐบาลสมัคร โดยที่ไม่ได้มีตำแหน่งใดๆ จนกระทั่ง พ.ศ. 2555 เขาได้รับการทาบทามทางโทรศัพท์[5] จากนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม แม้ทางมารดาจะไม่เห็นด้วย[5] แต่เขาก็ตกลงเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมในเดือนมกราคม พ.ศ. 2555[6] จาการที่เขาเข้ามารับงานทางการเมืองเป็นครั้งแรก ทำให้ในช่วงแรกในตำแหน่งรัฐมนตรี เขากลายเป็นรัฐมนตรีที่ประชาชนไม่รู้จักมากที่สุด [7] และจากการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งต่อมา เขาก็ได้รับแต่งตั้งขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2555[8]
ดร.ชัชชาติ ในฐานะรัฐมนตรีคมนาคม ถือเป็นบุคคลระดับหัวกะทิของรัฐบาลในด้านการวางยุทธศาสตร์ของประเทศ เขาได้รับการกล่าวถึงในฐานะรัฐมนตรี "ดูโอเศรษฐกิจ" ของรัฐบาล คู่กับ กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ นโยบายของ ดร. ชัชชาติให้ความสำคัญกับการขนส่งระบบรางเป็นพิเศษ ซึ่งโครงการในระบบรางสำคัญที่เดินหน้าอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาการเป็นรัฐมนตรีของเขา อาทิ รถไฟความเร็วสูงในประเทศไทย,โครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง)
คลิ๊กอ่านเพิ่มเติ่ม
จาก
http://www.oknation.net/blog/darknews/2013/06/28/entry-1
“ที่มานั่งรอรถเมล์ตามนโยบายของตัวเอง เพื่ออยากจะรับรู้ปัญหาของชาวบ้านจริงๆ ว่าระบบขนส่งของ ขสมก. มีปัญหายังไง เพื่อจะได้รู้ว่าถ้าซื้อรถเมล์มาแล้วจะให้บริการประชาชนยังไงให้คุ้มค่าที่สุด ตอนนี้ผมมีรถประจำตำแหน่งจึงไม่รู้ว่าปัญหาจริงๆเป็นอย่างไร”
ชัชชาติ สิทธิพันธ์
ครับ...ปัญหาใด ๆ ในส่วนลึกแล้วก็คือ ความไม่รู้ หรือ อวิชชา ตามภาษาของท่านพุทธทาส ปัญหาลึก ๆ ทั้งหลายมักมองไม่เห็นด้วยขนตา มาบัง นี่คือปัญหาของคนทั่วไป
แต่สำหรับนักการเมืองแล้ว ที่ใหญ่กว่าขนตามาก ๆ จะเป็น รถประจำตำแหน่ง ตามที่ ฯพณฯ ท่านพูด เครื่องบินนั่งฟรี โรงแรมชั้นดีห้าดาว ก็น่าจะมาช่วยบังตาอีก
อาจเห็นปัญหาตอนที่ยังไม่เข้าสภา พอได้สิ่งของ เงินทองช่วยแก้ปัญหาของตัวเอง จึงถูกบังไปทันที
ปัญหารถไฟ ส.ส. ต่างจังหวัดน่าจะรู้ดี นับตั้งแต่สถานีหัวลำโพง หาดใหญ่ มีการบุกรุกที่ดินรถไฟมาเนิ่นนาน แต่ก็ไม่มีรัฐบาลไหน ๆ ให้ความสนใจ สงสัยกลัวคะแนนเสียงหาย หรือไม่ก็มีผลประโยชน์อะไรแอบแฝง
ผ่านไปสายใต้แถว ๆ ราชบุรี เห็นมีการขุดดินไปขายใกล้ ๆ ที่ดินรถไฟ สักวันที่ดินทรุด รถไฟจะจมหายลงไปอยู่ใต้ดิน
“ถ้าถามว่าผมนั่งรถเมล์ครั้งสุดท้ายเมื่อไรก็คงเป็นสมัยที่ยังเรียนหนังสือเมื่อ20ปี ที่แล้ว ซึ่งผมก็พบว่ารถเมล์สาย 47 ที่ผมเคยนั่งเรียนพิเศษสมัยที่เรียนเตรียมอุดมฯก็ยังอยู่ ตอนนั้นรถเมล์เป็นสภาพไหนตอนนี้ก็ยังสภาพนั้น"
ชัชชาติ สิทธิพันธ์
ครับ...ท่านอาจจะยังไม่เคยยนั่งรถไฟแลกคะแนนเสียงที่นิยมทำกันมาทุกพรรค ชั้น 3 นี่ ขึ้นไปนั่งทุกที นาน ๆ ครั้ง ตัวรถสกปรก ในรถแออัด ในส้วม ไม่มีน้ำ บางโบกี้ไม่มีประตู ใช้เชื้อกมัดเอา พออ้้นไม่ไหวต้องกลั้นใจ รีบเข้ารีบออก หลายสิบปีก่อนเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น
รถไฟชั้ัน 2 เดินทางไกลดีัขึ้นมาหน่อย แต่เสียเวลาตลอดกาล อย่างน้อย ก็สามขั่วโมงขึ้นไป สายที่สภาพรถไฟดีที่สุด คือสายเหนือ ด่วนนครพิงค์ แต่ก็เสียเวลาเช่นกัน