ต้นทุนชีวิตที่ต่าง การดูแลต้องต่าง
จากที่โรงเรียนบ้านหนองกุงเป็นแนวร่วมการจัดการเรียนรู้รายกรณี จาก สสค.ซึ่งเป็นหนึ่งใน 12 โรงเรียน ของจังหวัดมหาสารคาม ในการพัฒนาหน่วยการจัดการเรียนรู้รายกรณีของเด็กกลุ่มเสี่ยงนั้น จึงทำให้ผมได้สัมผัสกับตัวเด็กที่มีปัญหาและภาวะความเสี่ยงของการดำเนินชีวิตของแต่ละคน แต่ละด้านมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญทำให้มองเห็นต้นทุนของชีวิตที่แตกต่างกันของเด็ก จึงทำให้ได้รู้และเข้าใจว่า “ในเมื่อมีต้นทุนชีวิตที่แตกต่างกัน ปัญหาและความเสี่ยงของชีวิตที่ดูเหมือนคล้ายกัน แต่สาเหตุของปัญหานั้นกลับต่างกัน แล้วเราจะแก้ปัญหาด้วยวิธีการเดียวกันได้อย่างไร” ตอนนี้โรงเรียนของเรามีทั้งหมด 6 Case ครับ ผมขอยกตัวอย่าง Case เด็กชายศุภเชษฐ์ โพคาเทศ นะครับ
ความเป็นมาและสภาพปัญหาโดยย่อ
“ ทางโรงเรียนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทางเทศบาลตำบลหนองกุงว่ามีเด็กตกสำรวจไม่ได้รับการศึกษาหลังจากที่จบการศึกษาชั้น ป.6 มาแล้ว 1 ปี เนื่องจากครอบครัว บิดา – มารดา แยกทางกัน และทอดทิ้งให้อยู่กับยายที่ตาบอด อายุ 62 ปี ตามลำพัง ส่วนบิดาและมารดาไม่มีการติดต่อมาเป็นเวลา 10 กว่าปีแล้ว ซึ่งในช่วงปีการศึกษา 2555 เด็กจำเป็นต้องหยุดการเรียนเพื่อคอยดูแลยาย และหลังจากโรงเรียนได้รับแจ้งข้อมูลจึงได้ติดตามและให้เด็กได้เข้ารับการศึกษาในชั้น ม.1 ในปีการศึกษานี้ หลังจากที่เด็กได้เข้ามาเรียนทางโรงเรียนจึงได้จัดทีมเพื่อประเมินสภาวะความเป็นอยู่ของนักเรียนโดยการออกเยี่ยมบ้าน พบว่า สภาพแวดล้อมของบ้านเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว โดยเด็กอาศัยอยู่กับยายซึ่งตาบอดมาแล้ว 2 ปี และเด็กยังต้องคอยปรนนิบัติยายที่เลี้ยงดูกันมาตั้งแต่เด็ก จึงเป็นสาเหตุให้เด็กต้องหยุดเรียนเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งตัวเด็กและยายมีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก ยังขาดแคลนปัจจัยในการดำรงชีวิต เนื่องจากไม่มีรายได้ใดๆ เลยมาจุนเจือในการเลี้ยงชีพนอกจากเบี้ยผู้สูงอายุ สภาพสภาพจิตใจของยายและหลานห่อเหี่ยว หมดกำลังใจ ต้องพึงพาบ้านไกลเรือนเคียง จากการสังเกตและสอบถามจากเพื่อนบ้าน เด็กจะมีนิสัยชอบเก็บตัว ไม่ค่อยพูดจา พูดกับผู้ใหญ่มักจะก้มหน้า
โรงเรียนจะต้องทำอะไร
- ดูแลทางด้านงบประมาณเพื่อจุนเจือครอบครัว
- ดูแลชีวิตความเป็นอยู่
- ดูแลเรื่องสุขภาพและอนามัย
- ดูแลปัจจัยในการดำรงชีวิต ส่งเสริมทางด้านอาชีพให้มีรายได้ระหว่างเรียนเพื่อเลี้ยงตัวเองและยาย
โรงเรียนจะทำอย่างไร
- ประสานกับทางเทศบาลตำบลหนองกุงในเรื่องการดูแลทางด้านงบประมานเสริมเพื่อจุนเจือครอบครัวในเบื้องต้น
- ประสานทางผู้ใหญ่บ้านผู้นำชุมชนให้ช่วยสอดส่องดูแลชีวิตความเป็นอยู่
- ประสานทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดูแลเรื่องสุขภาพและอนามัย
- โรงเรียนให้การปรึกษา ช่วยหาปัจจัยในการดำรงชีวิต ดูแลให้การส่งเสริมอาชีพให้มีรายได้ระหว่างเรียน(เด็กอยากเลี้ยงปลาดุก ซึ่งอยู่ระหว่างการรองบประมาณในการลงทุน)
- โรงเรียนประสานไปทางหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ)เพื่อจดทะเบียนคนพิการ
- ประสานกับทางเทศบาลตำบลหนองกุงเพื่อดำเนินงานขอเบี้ยยังชีพคนพิการ
นี่เป็นตัวอย่างของปัญหาสังคมที่พบเจอได้แทบทุกที่ และมีอีกมากมายที่ต้องรอให้ทุกฝ่ายช่วยกันดูแลและแก้ไข โดยเฉพาะเมื่อเป็นเด็กนักเรียน ผู้ที่จะปฏิเสธไม่ได้เลยคือ ครู ผู้ที่จะคอยดูแล และอบรมสั่งสอนให้เขาเข้าใจในตัวเขาเองให้มากที่สุด และสามารถอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างเข้าใจ ยอมรับ และยอมเปลี่ยนแปลง เพื่อความอยู่รอด และพัฒนาตัวเองให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขต่อไป
คำถามที่อยากรู้ที่สุดสำหรับผมในตอนนี้คือ “เด็กคิดอะไรอยู่”
หรือท่านมีความคิดเห็นอย่างไร และมีข้อเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาอย่างไร……. จักขอบพระคุณยิ่ง
ในความคิดเห็นส่วนตัวขอแนะนำว่า...หากมีการช่วยเหลือส่งเสริมให้เด็กมีอาชีพเลี้ยงปลาดุกที่บ้าน เด็กจะสามารถดูแลยายที่ตาบอดได้...และสามารถเรียนนอกระบบในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ได้ น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งนะคะ
ขอบคุณมาก ครับ ^______^
อยากให้ดอกไม้สักพันดอกครับ ปัญหาที่ผมเจอ คิดว่าหนักแล้ว เทียบกับสถานการณ์ของท่านอาจารย์ไม่ติดเลยครับ อย่างไรก็แล้วแต่ ขอเสนอแนวทางดังนี้ครับ
ได้แต่คิดครับ .... คงทำแบบนี้ไม่ได้.... แต่ท่านอาจารย์อาจทำได้ เขียนบันทึกให้อ่านด้วยนะครับ
ขอบคุณท่านอาจารย์มากเลยครับสำหรับคำแนะนำ และเป็นประโยชน์อย่างมากเลยที่เดียวครับ......ผมไปเจอสภาพแล้วจนทำให้ผมนึกว่าโทรทัศน์ mp3 ไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับเขา....แต่หลังจากที่ได้อ่านข้อเสนอแนะอาจารย์ ก็เข้าใจว่า มันเป็นสื่อที่ใช้ในปัจจุบันที่อาจจะมีอะไรช่วยกระตุ้นให้เขาเกิดแรงบันดาลใจและแปลเปลี่ยนเป็นพลังในการดำเนินชีวิตได้...ขอบคุณมากเลยครับ ^_____^
- ตอนนี้ได้ประสานไปทางเทศบาลแล้วเห็นว่าจะมีงบมาพัฒนาที่อยู่อาศัยให้ยายกับหลานด้วยครับ
- และอีกอย่างที่ไม่ได้นำเสนอ คือ เด็กคนนี้อ่านหนังสือไม่ออกด้วยครับ ผมกำลังจะแก้ปัญหาไปพร้อมๆ กัน (Flip classroom) น่าจะแนวทางที่จะช่วยได้ดี
........................................................ขอบคุณอีกครั้งครับ ^_______^...........................................................................
ตามมาให้กำลังใจ
มีพลังพอทำแบบนี้ได้ไหมครับ
เอาแค่ครอบครัวเดียวก่อน ค่อยๆเริ่มเล็กๆครับ