เทคนิคการจัดการเรียนรู้ในปัจจุบันจะเน้นไปทางยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ และรูปแบการเรียนรู้ก็มีมากมายจึงต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับเนื้อหาและจุดมุ่งหมายของหลักสูตร
1. เทคนิคการนำเข้าสู่บทเรียน
มีการใช้อุปกรณ์เพื่อให้นักเรียนทำกิจกรรมที่มีความสัมพันธ์กับบทเรียน หรืออาจเป็นการสนทนาซักถาม ทบทวนบทเรียนเดิมที่สัมพันธ์กับบทเรียนใหม่ มีการสาธิต หรือการแสดงละคร ร้องเพลง
2. เทคนิคการเร้าความสนใจ
การใช่สีหน้า ท่าทางประกอบ ถ้อยคำน้ำเสียงเพื่อดึงความสนใจ การเคลื่อนไหว การเน้นจุดสำคัญของเรื่อง
3. เทคนิคการเสริมแรง
ให้รางวัล ให้กำลังใจผู้เรียนในเวลาจังหวะที่เหมาะสม ใช้การเสริมแรงจากเพื่อน เช่น การปรบมือ ควรใช้การเสริมแรงทางบวกและเลือกวิธีให้เหมาะสมกับวัย
4. เทคนิคการตั้งคำถาม
ใช้คำถามเพื่อทดสอบความเข้าใจและกระตุ้นให้นักเรียนคิด ไม่ว่าจะเป็นการคิดขั้นพื้นฐาน คือ ถามจากความรู้เดิม จากความจำหรือประสบการณ์ หรือการคิดค้นคือ ถามถึงความเข้าใจ การนำไปใช้ การเปรียบเทียบ การหาเหตุและผล ไปจนถึงการสรุปหลักการ
อีกวิธีการจัดการเรียนรู้ที่ในปัจจุบันนิยมใช้กันมากคือ Brain Based Learningการใช้ความรู้ความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับสมองเป็นเครื่องมือในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้และกระบวนการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างศักยภาพสูงสุดในการเรียนรู้ของมนุษย์ โดยเชื่อว่าโอกาสทองของการเรียนรู้อยู่ระหว่างแรกเกิด – 10 ปี
เทคนิคการจัดสภาพแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้
การจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ จากการศึกษาดิฉันจึงทำความเข้าใจกับสภาพแวดล้อมก่อนว่าคืออะไร สภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ หมายถึง สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อนักเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม ทางด้านบวกและด้านลบ และต้องส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างแน่นอน เช่น สภาพห้องเรียน แสงสว่าง ความสะอาด เสียงรบกวนรอบข้าง บรรยากาศในการเรียน เป็นต้น ถ้าหากสิ่งเหล่านี้มีผลไปในทางลบก็จะส่งผลกระทบต่อทั้งผู้เรียนและผู้สอนในทางที่ไม่ดีเช่นกันการจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อวัยและระดับของผู้เรียนจึงเป็นสิ่งสำคัญจากการศึกษาจะขอกล่าวถึงการจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับหลักการและธรรมชาติทางสมองของมนุษย์ คือ
หลักการออกแบบกระบวนการและสื่อการเรียนรู้แบบ
Brain-Based Learning
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา (2549) ได้เสนอแนะหลักการออกแบบกระบวนการและสื่อการเรียนรู้แบบ
Brain-Based Learning เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติไว้ ดังนี้
1. สิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นความสนใจ
กระตุ้นการเรียนรู้สี รูปทรง
2. สถานที่สำหรับการเรียนรู้เป็นกลุ่มร่วมกัน
ที่ว่างๆ สำหรับรวมกลุ่ม
3. เชื่อมโยงสถานที่เรียนในห้องกับนอกห้อง
บริเวณภายในห้อง-การเคลื่อนไหว
กระตุ้นให้สมองส่วนควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อกับสมองส่วนหน้า
ให้สมองได้รับอากาศบริสุทธิ์
4. บริเวณเฉลียงทางเชื่อมระหว่างตึกและสถานที่สาธารณะ
ทำให้การเรียนรู้ไม่จำกัดอยู่เฉพาะในขอบเขตของห้องเรียน
5. ความปลอดภัย
ลดความเสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะในชุมชนเมือง
6. จัดหาสถานที่หลากหลายที่มีรูปทรง
สี แสง ร่อง รู ซอก
7. เปลี่ยนแปลงการจัดแสดงบ่อยๆ
เพื่อให้มีการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย
8. จัดให้มีวัสดุต่างๆ ที่กระตุ้นการเรียนรู้ พัฒนาการต่างๆของร่างกาย
9. ยืดหยุ่น
ยังเป็นองค์ประกอบที่สำคัญและกระตุ้นการเรียนรู้
เพื่อให้เหมาะสมกับสมองที่แตกต่างกันของแต่ละคน และภาวะที่เปลี่ยนแปลงไป
10. สถานที่สงบและสถานที่สำหรับทำกิจกรรม
11. สถานที่ส่วนตัว
อยู่บนฐานของแนวคิดที่ว่า
สมองแต่ละคนมีความต้องการเฉพาะจึงต้องเปิดโอกาสให้ผู้เรียนแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของตน
จัดสถานที่ส่วนตัวของตน และสามารถแสดงความคิดสร้างสรรค์ของตนได้อย่างอิสระ
12. ชุมชน
คือ สถานที่สำหรับเรียนรู้ ต้องหาวิธีที่จะใช้ชุมชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้ให้มากที่สุด
ห้องเรียนครูแมว.(2556).เข้าถึงได้จาก :
http://www.nareumon.com/index.php?option=com_content&task=view&id=24&Itemid=46&limit=1&limitstart=3 [11 สิงหาคม 2556]
ทักษะและเทคนิคการจัดการเรียนรู้เนื้อหา.(2552).เข้าถึงได้จาก :
http://web.aru.ac.th/thanee/index.php?option=com_content&view=article&id=11&Itemid=12
[11 สิงหาคม 2556]
เทคนิคการจัดการเรียนรู้.(2552).เข้าถึงได้จาก :
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=01-2009&date=16&group=78&gblog=10[11 สิงหาคม 2556]
การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน.(2550).เข้าถึงได้จาก :
http://saintmary.ac.th/?name=knowledge&file=readknowledge&id=2[11 สิงหาคม 2556]
ไม่มีความเห็น