แนวคิดของการปฏิบัติการพยาบาลขั้นสูงในฐานะผู้ชำนาญการของเบนเนอร์


ผู้ชำนาญ

เบนเนอร์ได้แยกแยะขอบเขตของการปฏิบัติการพยาบาลซึ่งอธิบายถึงกระบวนการของการตัดสินใจทางคลินิกไว้ 7 ประการ

1.  บทบาทในฐานะผู้ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยและครอบครัวคาดหวังความช่วยเหลือจากพยาบาลแตกต่างไปจากเจ้าหน้าที่อื่นๆ และการช่วยเหลือของพยาบาลนั้นจะต้องตรงกับสิ่งที่ผู้ป่วยและญาติต้องการ และเป็นไปในลักษณะของเชิงวิชาชีพ ในบทบาทนี้พยาบาลให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยและครอบครัวดังต่อไปนี้

     1.1  สร้างสัมพันธ์เพื่อการฟื้นหายของผู้ป่วยโดยการสร้างบรรยากาศที่แสดงถึงปณิธานในการช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นหายจากโรค

     1.2  ดูแลในเรื่องความสุขสบายและรักษาความเป็นบุคคลของผู้ป่วยไว้ท่ามกลางความเจ็บปวดหรือความผิดปกติทางด้านอารมณ์

     1.3  อยู่กับผู้ป่วยและรับฟังในสิ่งที่ผู้ป่วยกังวลห่วงใยและเป็นทุกข์

     1.4  ช่วยให้ผู้ป่วยได้มีส่วนร่วมและควบคุมการฟื้นสภาพของตนเองให้มากที่สุด

     1.5  ช่วยแปลความหมายของความเจ็บปวดและเลือกหาวิธีการต่างๆที่เหมาะสมในการจัดการและควบคุมความเจ็บปวดให้ผู้ป่วย

     1.6  ให้การสนับสนุนทั้งด้านอารมณ์และการให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยและครอบครัว

   การช่วยเหลือดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือให้ผู้ป่วยมีพลังอำนาจและมีความสำคัยเช่นเดียวกับเทคนิคการดูแลอื่นๆซึ่งต้องการพยาบาลที่มีทักษะในการฟังและเข้าใจถึงความหมายของความเจ็บป่วยของผู้ป่วย วึ่งจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคลแต่ละสถานการณ์ นอกจากนั้นพยาบาลจะต้องไวต่อความรู้สึกนึกคิดของผู้ป่วย พยาบาลไม่สามารถที่จะมีพลังอำนาจที่จะช่วยผู้ป่วยได้ถ้าละเลยในสิ่งเหล่านี้

2.  สอนและชี้แนะผู้ป่วยและครอบครัว ซึ่งเป็นบทบาทที่สำคัยและยอมรับว่ามีส่วนช่วยในการฟื้นหายจากความเจ็บป่วยและช่วยให้ผู้ป่วยเผชิยกับความเจ็บป่วยและช่วยให้ผู้ป่วยเผชิญกับความเจ็บป่วย และสามารถดูแลตนเองได้ ในเรื่องการสอนและการชี้แนะผู้ป่วยและญาตินั้นพยาบาลมีบทบาทดังต่อไปนี้

     2.1  สอนผู้ป่วยโดยการประเมินความพร้อมของผู้ป่วยในการเรียนรู้ พยาบาลต้องพยายามหลีกเลี่ยงการสอนผู้ป่วยเร็วเกินไป หรือยัดเยียดข้อมูลให้ผู้ป่วยโดยที่ผู้ป่วยยังไม่พร้อม

     2.2  ช่วยเหลือผู้ป่วยในการปรับแบบแผนการดำเนินชีวิต โดยใช้ศักยภาพที่เหลืออยู่ให้ได้สูงสุด ในการคงกิจกรรมที่มีความหมายต่อชีวิตของผู้ป่วยแต่ละคน

     2.3  กระตุ้นให้ผู้ป่วยได้เล่าถึงความเข้าใจเกี่ยวกับความเจ็บป่วยของเขาเพื่อเป็นพื้นฐานในการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ผู้ป่วย

     2.4  ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจสภาพของความเจ็บป่วย เหตุผลและวิธีการรักษาพยาบาลที่ผู้ป่วยได้รับ เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้ป่วยได้ตัดสินใจและมส่วนร่วมในการรักษาพยาบาล

3.  การวินิจฉัยและการเฝ้าระวัง เป็นบทบาทของพยาบาลที่ขยายและมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ทักษะนี้ของพยาบาลจะพัฒนาขึ้นจากความชำนาญในคลินิก การปฏิบัติการพยาบาลในบทบาทเหล่านี้ได้แก่

     3.1  ตรวจค้นและบันทึกการเปลี่ยนแปลงที่สำคัยของผู้ป่วย พยาบาลมักจะเป็นคนแรกที่ค้นพบความเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วยจากการตรวจสัญญาณชีพและสังเกตและจะต้องรายงานต่อแพทย์ด้วยความมั่นใจ

     3.2  ให้สัญญษณเตือนถึงภาวะของผู้ป่วยที่อาจเกิดอันตรายจากการคาดการณ์ก่อนที่อาการจะปรากฏชัดซึ่งพยาบาลที่ชำนาญจะมีความรู้และทักษะเหล่านี้อยู่ในตัว นอกจากนี้จะต้องคิดทำนายปัญหาต่างๆของผู้ป่วยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

     3.3  คาดการณ์ถึงความต้องการการดูแลผู้ป่วยโดยอาศัยความเข้าใจ ความต้องการที่เฉพาะและประสบการณ์เกี่ยวกับความเจ็บป่วยของผู้ป่วย สามารถแยกแยะรูปแบบการเผชิญกับปัญหาของผู้ป่วยในกลุ่มต่างๆได้ และสามารถช่วยลดความกังกลของผู้ป่วยในกลุ่มต่างๆได้ สามารถลดความกังวลของผู้ป่วยให้น้อยลงและสามารถฟื้นสภาพได้ดีที่สุด

    3.4  ประเมินการตอบสนองของผู้ป่วยต่อการรักษาต่างๆ  การปฏิบัติการพยาบาลในขอบเขตของการวินิจฉัยและการเฝ้าระวังนี้ ต้องอาศัยความรู้และทักาะอย่างมากของพยาบาลและต้องการศึกษาประสบการณ์ที่พยาบาลพัฒนาขึ้นในแต่ละบุคคลอย่างมีระบบและหาภาษาที่สามารถสื่อสารกันได้เพราะทีมพยาบาลผู้เชี่ยวชาญไม่น้อยที่มีความรู้และทักษะเหล่านี้ เกิดการหยั่งรู้ด้วยตนเองแต่ไม่สามารถอธิบายให้ผู้อื่นเข้าใจได้

4.  จัดการกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ พยาบาลที่สามารถค้นพบภาวะที่เลวลงของผู้ป่วยได้รวดเร็ว มักจะเป็นผู้มีประสิทธิภาพในการจัดการกับความเปลี่ยนแปลงนี้ได้รวดเร็ว จนกระทั่งแพทย์มาถึง แม้ว่าจะมีแพทย์เวรเพื่อจัดการกับภาวะฉุกเฉินของผู้ป่วยแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยบางอย่างต้องการการช่วยชีวิติทันที การปฏิบัติการพยาบาลในบทบาทนี้ได้แก่

     4.1  ตรวจค้นและช่วยชีวิตผู้ป่วยในภาวะวิกฤตที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้รวดเร็วและปลอดภัย

     4.2  ในสถานการณ์ฉุกเฉินหลายอย่างเกิดขึ้นพร้อมๆกัน สามารถทราบความต้องการและใช้แหล่งประโยชน์ที่มีอยู่ทั้งหมดได้เหมาะสม ขจัดความวุ่นวายโดยใช้ระบบการจัดการอย่างมีระบบ

     พยาบาลจะต้องสามารถป้องกันตรวจค้นและจัดการกับการเกิดภาวะวิกฤตของผู้ป่วยบทบาทเช่นนี้มีความสำคัญอย่างมากและไม่สามารถมอบให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่พยาบาลกระทำแทนได้เพราะต้องการการตัดสินใจที่ถูกต้อง

 พยาบาลจะต้องสามารถป้องกันตรวจค้นและจัดการกับการเกิดภาวะวิกฤตของผู้ป่วยบทบาทเช่นนี้มีความสำคัญอย่างมากและไม่สามารถมอบให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่พยาบาลกระทำแทนได้เพราะต้องการการตัดสินใจที่ถูกต้อง

5.การนำแผนการรักษาและการพยาบาลไปปฏิบัติตลอดจนการเฝ้าดูผลตามมาเป็นบทบาทที่มีความสำคัญและยุ่งยากมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะการรักษาการแพทย์ซับซ้อนมากขึ้น

6.คอยครวจตราเพื่อประกันคุณภาพของการบริการสุขภาพ เนื่องจากพยาบาลเป็นผู้ประสานงานการดูแลผู้ป่วยจากเจ้าหน้าที่ในทีมสุขภาพและเป็นผู้ที่อยู่กับผู้ป่วยตลอดเวลาจึงอยู่ในฐานะที่จะป้องกันและค้นพบสิ่งผิดปกติโดยเฉพาะเมื่อเปลี่ยนแพทย์

     6.1 จัดระบบสนับสนุนความปลอดภัยในการรักษาพยาบาลบางครั้งพยาบาลต้องคอยเตือนให้เปลี่ยนแปลงการดูแลเมื่อภาวะของผู้ป่วยเปลี่ยนไป

     6.2 ประเมินสิ่งที่ควนละเว้นหรือเพิ่มเติมจากแผนการรักษาของแพทย์เป็นแนวทางในกิจกรรมการพยาบาลหลายอย่าง แต่พยาบาลจะต้องรู้จักประเมินความจำเป็นโดยยึดหลักสวัสดิภาพของผู้ป่วยเป็นเกณฑ์

     6.3 ตามแพทย์ได้เหมาะสม ซึ่งพยาบาลจะต้องรู้จักเสนอข้อมูลอย่างมั่นใจและสร้างความน่าชื่อถือให้กับตนเองรู้จักเรียนรู้จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้น

     6.4 ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยซึ่งต้องการเปลี่ยนแปลงนโยบาย การสื่อสารที่ดีระหว่างแพทย์-พยาบาลความร่วมมือกันและความยืดหยุ่นจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับประโยชน์มากขึ้น การศึกษาในหน่วยงานถึงสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงคำสั่งของแพทย์ช้า จนทำให้ผู้ป่วยเกิดความทุกข์โดยไม่จำเป็น จะช่วยให้การตกลงระหว่างแพทย์-พยาบาลในการแก้ไขปัญหาดีขึ้น

7. พัฒนาศักยภาพของตนเองและของสถาบัน วึ่งบทบาทนี้จะต้องพัฒนาจากการมีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานแม้ว่าในหลักสูตรจะบรรจุวิชาเกี่ยวกับการจัดการและภาวะผู้นำ แต่พยาบาลปฏิบัติอยู่ในสถานการณ์นั้นที่วับซ้อนและแตกต่างกันไป พยาบาลจึงต้องเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ด้วยตนเองซึ่งจะกระทำได้โดย

     7.1 ประสานและจัดลำดับกิจกรรมเพื่อสนองตอบความต้องการของผู้ป่วยที่หลากหลายรู้จัดจัดลำดับความสำคัญ

     7.2 สร้างและรักษาทีมงานเพื่อการดูแลผู้ป่วยให้ได้คุณภาพสูงสุด และให้การสนับสนุนทางด้านอารมณ์กับเจ้าหน้าที่พยาบาล

     7.3เผชิญกับภาวะการขาดแคลนพยาบาลและการย้ายออกของเจ้าหน้าที่พยาบาลที่สูงขึ้น โดยการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แสวงหาความช่วยเหลือจากพยาบาลอื่นๆให้ความเอื้ออาทรกับผู้ป่วย

    7.4 แสดงการยอมรับเจ้าหน้าที่ที่ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง

    7.5 ใช้ผลงานวิจัยในการริเริ่มและอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนแปลง

   7.6 หาวิธีการให้ระบบตอบสนองต่อความต้องการของผู้ป่วยและครอบครัว

8.การเป็นที่ปรึกษาได้แก่

    8.1 ให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่พยาบาลโดยการให้การดูแลและติดตามผู้ป่วยโดยตรง

    8.2 แปลบทบาทของพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยในสถานการณ์ที่เฉพาะให้การพยาบาล และเจ้าหน้าที่อื่นในทีมสุขภาพได้เข้าใจ

    8.3 เป็นปากเป็นเสียงให้ผู้ป่วย โดยการกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่พยาบาลไวต่อปัญหาที่ผู้ป่วยและครอบครัวต้องเผชิญในระบบบริการสุขภาพ


 

    

หมายเลขบันทึก: 5440เขียนเมื่อ 16 ตุลาคม 2005 14:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 20:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท