"ชานชาลาชีวิต" ... ณ. "สถานีรัก"..สุดสายปลายทางอันดามัน


"ชานชาลาชีวิต" ...ณ. "สถานีรัก"..สุดสายปลายทางอันดามัน


 

เส้นทางชีวิต ..ชีวิตที่มีคุณค่าจบสิ้นไป ความดีคงอยู่ ลิขิตไว้บนชานชาลาขีวิต


เส้นทางมุ่งสู่อันดามัน นำมาเรามาถึงที่นี่วันนี้  อำเภอกันตัง จังหวัด ตรัง ..เป็นวันแห่งการตั้งใจมาเคารพบุคคลอันเป็นที่รักยิ่ง   ในวาระแห่งการจากไปไม่กลับ   บิดา (เตี่ย) ของพี่ที่เราต่างสนิทสนม รักใคร่ (พี่ท่าน..ทำหน้าที่บริหารราชการสูงสุดในคณะฯ ในมอ) 


บ้านไม้ เข้าซอยไปไม่ไกลจากริมน้ำ ใกล้กับกรมเจ้าท่า ซึ่งผืนน้ำนี้มีเรือขนานยนต์ รอรับส่งข้ามฝาก เป็นส่วนหนึ่งของทะเลฝั่งตะวันตก  "อันดามัน" นั่นเอง   แต่เป็นถนนชื่อ "ถนนรถไฟ"...ซึ่งไม่ห่างกันนัก กับ สถานีรัก”  รางคู่..สู่กังตัง สุดสายปลายทางรางเหล็ก แห่งอันดามัน..ที่หลายคนกล่าวขานถึง..หากแต่วันนี้ ..หนึ่งชีวิตที่มากมายสีสัน และคุณค่าก็จบสิ้นลง เหลือเพียงความดีลิขิตไว้ บนชานชาลาชีวิตสืบไป


ในพิธีแบบจีน พร้อมเครื่องเซ่นไหว้ ใกล้ๆโลงไม้หัวหมู ที่บรรจุร่างของเตี่ย ..ภาพของท่าน ที่วางอยู่ใกล้ๆ ทำให้เราเอ่ยปากบอกพี่ว่า....มีส่วนละม้ายกับผู้เป็นบิดามาก  มองไปมา ระหว่างรอรับธูป เพื่อเคารพเตี่ย เป็นครั้งสุดท้ายก็จะเห็นว่า ญาติพี่น้อง หน้าตาละม้ายๆๆ กัน  สังเกตที่เสื้อมีผ้าชิ้นเล็กๆใช้เข็มกลัดไว้ที่แขนเสื้อ มีต่างสีกัน  เดาว่าบ่งบอกความสัมพันธ์กับผู้ที่จากไป.. ส่วนใหญ่ญาติๆมีผิวขาว.. ด้วยเป็นครอบครัวที่มีเชื้อสายจีน บุคคลยุคแรกๆในสมัยโน้น ที่ดำเนินชีวิต และมีวิถีอย่างแต่ก่อน  ศาลเจ้าก็ยังมีให้เห็นอยู่ในละแวกใกล้ๆบ้าน แต่ทำบุญที่บ้าน ในวาระสุดท้ายของท่าน


เสียงที่เล่าให้ฟังอย่างช้า  ทำให้เราฟังและเห็นภาพตามไปด้วย  ค่อยๆซึมซับภาพไปอย่างช้าๆ ...ขณะที่รับฟังความรักความผูกพันของพ่อ-ลูกมีต่อกัน...ในช่วงที่ได้มาร่วมใช้เวลาด้วยกันในอาทิตย์นี้   ได้สังเกตวัตรปฏิบัติของเตี่ย ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอนในแต่ละวัน เตี่ยทำอะไรบ้าง   ในขณะที่ก่อนนั้นได้แต่อ้างถึงภาระกิจติดพัน จัดสรรเวลาไม่ได้..  จึงไม่สังเกตเห็น "ความเป็นเตี่ย" ในชีวิตประจำวัน ช่วงบั้นปลายชีวิตของท่าน    แต่ครั้งนี้ หลังจากที่บุตรชายได้มีโอกาสลาพัก  มาร่วมงานกุศลบำเพ็ญบุญของญาติใกล้ๆ  เลยได้ค้างคืนกับเตี่ย หลายคืน  ..โดยไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า  นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ..เล่าพลางพร้อมด้วยน้ำตาคลอเบ้า ของบุตรชาย (พี่ที่เราเคารพ)   นึกขอบคุณวาระสุดท้ายที่ได้อยู่ด้วยกันอย่างเต็มเวลากับเตี่ย เป็นห้วงเวลาที่มีความหมาย ได้พูดคุย ได้ใกล้ชิดกัน  ภาพเมื่อครั้งกระโน้นก็หวนกลับมา .. จบการเล่าเราสังเกตเห็นรอยยิ้มเฝื่อนๆ ..ทว่าแฝงด้วยความสุขเมื่อเอ่ยถึงเตี่ย  เป็นสิ่งที่ฉันรับรู้ได้ในขณะนี้   ...เป็นภาพการสนทนาที่เกิดขึ้นในระหว่างพี่ที่เคารพ-บุตรชายของเตี่ย ..แวะทักทายดูแลกัลยาณมิตร  ซึ่งเดินทางไกลข้ามฝากทะเลจากตะวันออกมายังฝั่งตะวันตก ตั้งใจมาเยือนถึงบ้าน  ให้กำลังใจในยามเศร้าโศก (..A friend in need is a friend indeed..)


เตี่ย...(เราเรียกท่าน ตามพี่ที่เคารพรักด้วย)....ด้วยวัย ๙๓ ..จะทำสมาธิก่อนนอนทุกวัน เมื่อถึงเวลานอนก็จะค่อยๆ เอนตัว ล้มลงนอนเอียงทีละข้าง จึงจะนอนได้สบายเต็มตัว ..ยามลุกขึ้นมาตอนเช้าก็จะค่อยๆลุก ยืด เส้น ยืดสาย ก่อนจะลุกขึ้นเดิน ออกกำลังกาย ในช่วงเช้า  หน้าตาแจ่มใส เมื่อลูกหลานไปเยี่ยม แต่ช่วงนี้ดูแจ่มใสเป็นพิเศษ..ลูกชายเตี่ย..จำภาพนั้นได้ติดตา..เล่าให้เราฟัง


การสำลักน้ำดื่ม ...เป็นสาเหตุแห่งการจากไปครั้งนี้  ล่วงเข้าวัยชรา อะไรๆก็เป็นไปอย่างช้าๆ ใครจะคิดว่า วันนี้ท่านจะจากเราไปด้วยสาเหตุที่ไม่คาดคิด เป็นเพียงการสำลักน้ำขณะดื่มน้ำ... เตี่ยทานข้าวได้ และดื่มน้ำเองซึ่งทำเป็นปกติทุกวัน ...แต่ด้วยสาเหตุอะไรไม่ทราบได้ เกิดการสำลัก และ พยามยามจะหายใจให้ได้  โบกมือให้ช่วย  เมื่อลูกหลานวิ่งเข้ามาหา  แต่ทว่าหัวใจกลับหยุดเต้นไปชั่วขณะ  เมื่อนวดหัวใจ ก็มีสัญญานชีพขึ้นเล็กน้อย  จึงนำส่งโรงพยาบาลใกล้ๆกัน ขณะที่อยุ่ในความดูแลของแพทย์  สัญญาณชีพก็อ่อนแรงอีกครั้งและนิ่งสนิทไป  จึงได้รับการแจ้งว่า .. เตี่ยจากไปอย่างสงบ...ท่ามกลางลูกหลานที่รายล้อม..ขอท่านสู่สุคติ สัมปรายภพเทอญ..


สถานีรัก” .. สุดสายอันดามัน...วันนี้..ช่างเศร้าสร้อย..ชานชาลาชีวิต...หนึ่งคนที่ผ่านพ้น....ดังกฏแห่งธรรมชาติ.มิอาจหลีกเลี่ยง ในสังสารวัฎ ... เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป....เหตุเกิดขึ้น ณ ที่นี่ อ. กังตัง ....ก่อนที่เราจะเดินทางจากมา ...เสียงพระคุณเจ้าสี่รูปสวดบังสุกุล....อนิจจัง วตสังขารา อุปปาทวยธัมมิโน อุปปัชชิตวา นิรุชชันติ เตสังวูปสโม สุโข .... ยังก้องอยู่ขณะเดินทางจากมา..สักวันหนึ่งจะต้องเป็นเรา...เตือนให้ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท ไม่มีอะไรที่แน่นอน ...ห้วงเวลาพิเศษสำหรับพ่อและแม่ที่รอลูกๆอยู่  โดยเฉพาะในช่วงที่ท่านเข้าสู่วัยชรา เราควรจัดสรร "เวลาที่มีคุณภาพ" กับท่าน ..ดั่งเช่นที่ท่านดูแลเราด้วยความพิเศษเสมอมาตั้งแต่วัยเด็กๆจนปัจจุบัน...แม้กระทั่งก่อนจากกัน..



สาระเพิ่มเติม






"สถานีรัก"..ที่กล่าวถึงเป็นสถานีรถไฟ  ซึ่งการเดินรถสิ้นสุดที่สถานีสุดท้าย ปลายทาง ณ. ชายฝั่งทะเลทางตะวันตก เป็นสถานที่แห่งความภูมิใจของผู้คนที่นี่  จัดเป็นหนึ่งในโบราณสถานที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้  สภาพสถานีรถไฟถูกตกแต่งประดับ ประดาที่ยังคงเอกลักษณ์ของสถานีรถไฟรสมัยก่อนๆ  สังเกตได้จากสีที่ใช้  แต่ที่นี่ตกแต่งสีให้งามตาขึ้น สถาปัตยกรรมของตัวอาคารสถานี ก็ยังคงความเป็น รฟท.  นึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ ที่พระองค์ท่านทรงเห็นการณ์ไกล ริเริ่มในมีกิจการรถไฟไทย..และใช้มาจนทุกวันนี้..

โดยปกติ ทางรถไฟสายใต้เป็นสายยาวจากกรุงเทพถึงสุไหงโกลค  หรือเชื่อมต่อไปประเทศเพื่อนบ้านมาเลเซีย ก็มีสาย กรุงเทพ-บัตเตอร์เวิร์ธ ในขณะที่เส้นทางสายใต้มีชุมทางที่สำคัญได้แก่ ชุมทางเขาชุมทอง  ชุมทางทุ่งสง  และชุมทางหาดใหญ่..  แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่มีเส้นทางเดินรถไฟไปยังจังหวัดหัวเมืองในชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกเลย  ยกเว้นสายสั้นๆสายเดียวที่แยกจากชุมทางทุ่งสง ไปจังหวัดตรัง และสิ้นสุดที่ อ. กันตัง..ทีนี่จึงได้ชื่อว่า เป็นสถานีปลายทางอันดามันนั่นเอง.

."สถานีรัก" จึงเป็นเป็น landmark แห่งความภูมิใจที่ปัจจุบันยังทำการและมีขบวนรถผ่านน้อยมาก  วันที่ไปเยี่ยมมีป้ายแสดงตารางการเดินรถสองขบวน .ขบวนรถเร็ว ๑๖๗ และ ๑๖๘ ..ปลายทาง กรุงเทพ-ตรัง และ ตรัง-กรุงเทพ...


๒๑ กรกฏาคม ๒๕๕๖

ปล. ภาพและเรื่อง..บันทึกไว้เมื่อเราไปร่วมเคารพเตี่ย ในวันที่ ๑๘ กค. ๒๕๕๖ .หลังจากวันที่เตี่ยจากไปหนึ่งวัน..( ๑๗ กค. ๒๕๕๖)

หมายเลขบันทึก: 543157เขียนเมื่อ 21 กรกฎาคม 2013 19:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 สิงหาคม 2013 15:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วยนะค่ะ การจากไปเป็นบทเรียนให้คนอยู่แนวหลังใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทจริงๆ ด้วยคะ่

ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ

เป้นเรื่องเล่าที่มีพล๊อตในการเล่าอย่างมีศิลปะ ชอบนะคะ

ขอบพระคุณท่าน noktalay  และ ท่าน Bright Lily ด้วยค่ะ   .... เชื่อว่า เราต่างแชร์... ชานชาลาชีวิต ณ สถานีรัก ..นะค่ะ ถึงแม้ว่าไม่ใช่ "สถานีรัก" ปลายสายที่อันดามัน อย่างที่หลายท่านรู้จักกัน  หากแต่เป็นสถานีรัก แห่งการดำรงอยู่อย่างเห็นใจ เอื้ออาทรกันของมนุษยชาติและสรรพสิ่ิง บนโลกใบน้อยนี้ค่ะ :-))

สวัสดีค่ะคุณKitaTanee...ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ...ท่านไปสบายแล้ว...เหลือไว้แต่สถานีรักที่ยังมีชานชาลาพิเศษที่พ่อและแม่ส่งมอบความรักให้ลูกๆนะคะ...

สวัสดีค่ะ ดร. พจนา แย้มนัยนา.. ขอบคุณค่ะ ...ค่ะ..ท่านไปง่ายๆจริงๆ ไปสบาย วันศุกร์ที่ ๒๖ กค. นี้ ก็จะเป็นห้วงเวลาที่เห็นหน้าเป็นครั้งสุดท้าย ที่จะทำพิธีฝังที่สุสานตามประเพณีดั้งเดิม  ซึ่งเราทราบจากพี่ที่เราเคารพรัก ... คุณงามความดีและแนวปฏิบัติของเตี่ย..ก็จะอยู่กับเราผู้ที่อยู่เบื้องหลัง และ ลูก หลาน ตลอดไป

อืมม์...เหตุการณ์การจากไปของบุคคลที่เคารพรัก เป็นบิดาของพี่ที่สนิทเคารพรักถึงสองคนในเดือนเดียวกัน  ช่างจะตอกย้ำ นำมาใคร่ครวญ  สะท้อนคิด ปรับการดำรงชีวิตของตนเอง ..ซึ่งทำงานห่างบ้าน ห่างพ่อแม่ที่อยู่ในวัยชราเช่นกันค่ะ...

ขอบพระคุณกัลยาณมิตรทุกท่านที่ มาเยี่ยมชานชาลาชีวิต ที่มีคุณความดีถักทอ ร้อยรัก กันไว้ ขอให้มีความสงบ สุข สดชื่นทุกวันๆๆค่ะ :-))

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท