การนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบตามระยะการใช้

   เท่าที่ผมอ่านงานใน GTK มา ไม่พบว่ามีความรู้เรื่องรถและการใช้รถ หรือว่าอาจเป็นเรื่องที่ผมไม่สนใจ ซึ่งสิ่งนี้มีการเขียนถึง แต่ผมไม่ได้เปิดอ่าน จำได้ว่า เคยอ่านที่ท่านอาจารย์หมอพูดถึงการใช้บริการศูนย์ H แล้วไม่ประทับใจ และเรื่องอื่นๆ เป็นสิ่งที่ทำให้ผมไม่เลือก H ทั้งที่ชอบรูปลักษณ์เป็นการส่วนตัว ทำให้ได้ข้อสรุปว่า ข้อเขียนมีผลต่อการตัดสินใจของผู้อ่าน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมจะเขียนต่อไปนี้อย่าได้เอามาเป็นตัวตัดสินใจในการเลือก ให้ถือว่าเป็นเพียงเรื่องราวบันทึกเท่านั้น ซึ่งเราต้องตระหนักในการใช้ความละเอียดกับสิ่งต่างๆรอบตัวมากกว่าสมัยก่อน

  ทุกวันนี้มีรถยนต์ N อยู่คันหนึ่งที่ผมใช้บริการระหว่างที่ทำงานและบ้านอาศัย อันที่จริงใจหนึ่งอยากปั่นจักรยาน แต่ด้วยเกรงว่า ระยะทางคงลำบากกับการต้องหิ้วจักรยานขึ้นสะพานลอย ข้ามถนนพหลโยธิน ซึ่งผมก็ไม่ได้แข็งแรงขนาดนั้น เกิดพลาดขึ้นมา จักรยานอาจพังไปก็ได้ รถยนต์คันนี้ แม่แก้วตายาใจบังคับจิตใจให้ผมต้องเลือก เพราะจริงๆผมต้องการแค่รถจักรยานยนต์เพื่อขับไปทำงาน และไปเรียน ผมเคยปั่นจักรยานไปเรียนหลายหน แต่เหนื่อยกับการต้องหิ้วจักรยานแม่บ้านขึ้นสะพานลอยอย่างทุลักทุเล สาวน้อยร้อยชั่งของผมนั้นหวังดี ไม่อยากให้ต้องตากแดดตากฝน และอาจเป็นอันตรายได้กับการจราจรที่ต้องใช้ถนนพหลโยธิน อีกอย่าง หากเธอมาหาผม เธอจะได้ไม่ต้องลำบากกับการมีกิจกรรมครอบครัวร่วมกัน ครั้นมีรถยนต์ก็ต้องเอาใจใส่กับมัน

  เมื่อวานผมไปโรงพยาบาลราชวิถี ขากลับเครื่องหมายเตือนน้ำมันเครื่องและแผ่นกรองโชว์ให้ผมรู้ว่า ถึงเวลาต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องอีกแล้ว จึงโทรติดต่อทางศูนย์บริการที่ใกล้กับบ้านอาศัย ซึ่งเคยใช้บริการ ๒ ครั้ง ประทับใจในอัธยาศัยและไมตรี รอยยิ้มและเอาใจใส่ เมื่อผมนำรถเข้าไปศูนย์บริการตรวจเช็คตามระยะ ทางเจ้าหน้าที่ต้อนรับเป็นอย่างดี เบื้องต้นมีเอกสารให้ผมอ่านว่าจะตรวจเช็คอะไรบ้าง ผมอ่านแล้วแปลกใจนิดๆ ว่าทำไมไม่เหมือนก่อน เช่น (ก) ค่าแรงควรจะฟรี แต่ก็เห็นว่าเบ็ดเสร็จของราคาไม่แตกต่างจากที่ผ่านมามากนัก ไม่ถึง ๑,๕๐๐ บาท มีอันจะน้อยกว่าครั้งล่าสุดด้วยซ้ำ จึงพยักหน้าลงลายมือชื่อตามนั้น แต่เมื่อผมไปนั่งอ่าน ผมสงสัยว่า ทำไมไม่มีรายการน้ำมันเครื่อง ซึ่งก่อนนั้นเคยเข้าศูนย์ฯ ศูนย์ฯจะบอกว่าน้ำมันกี่ลิตร น้ำมันอะไรก่อนให้เราลงลายมือชื่อ

(ข) ทางเจ้าหน้าที่อ่านเสร็จอุทานขึ้นว่า "อ้อลืมใส่ เดี๋ยวใส่ให้" ผมถามว่า ต้องเขียนลงในเอกสารที่ให้ผมด้วยหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ตอบว่า ไม่ต้องเขียนแล้ว เพราะเขียนในเอกสารแผ่นที่ถืออยู่แล้ว ผมกลับไปนั่งอ่านในห้องพักลูกค้า อ่านแล้วอ่านอีก ค้างคาใจตลอด ประมาณ ๒ ชั่วโมงผ่านไป ผมไปจ่ายเงิน ทางเจ้าหน้าที่แจงให้ทราบตามรายการในเอกสารพร้อมค่าแรงและค่าอะไหล่เบ็ดเสร็จ ๓ พันกว่าบาท

ปกติผมจะมีเงินในกระเป๋าต่ำกว่า ๒ พันบาท ยกเว้นว่าจะต้องไปจ่ายโน่นนี้นั่น แต่รอบนี้เอะใจ จึงกดเงินไปสามพันกว่าบาท ผมจ่ายเงินเรียบร้อย ช่างแจ้งให้ทราบว่า กรณี เสียงหอนหลังรถ (ล้อ) นั้น ตรวจสอบแล้ว ไม่น่าจะเกิดจากลูกปืนล้อ แต่น่าจะเกิดจากยางที่หมดอายุตามสภาพ หากจะไม่ให้หอน ก็ต้องเปลี่ยนยางทั้ง ๔ เส้น ผมชี้แจงว่า รถที่บ้านทางใต้อีกคันหนึ่ง ซื้อก่อนกว่าคันนี้ ๑ ปี ยางยี่ห้อนี้ แต่ไม่เห็นว่ามันจะหอน ดังจนปวดศีรษะ (วู้ๆ เหมือนได้ยินเสียงรถไฟไกลๆ) ช่างชี้แจงให้ทราบว่า เราต้องดูว่ายางแต่ละเส้นผลิตปีไหน พร้อมกับเดินนำไปที่ล้อรถและชี้ให้ดูว่า วิธีการดูว่ายางผลิตปีไหนคืออย่างไร เจ้าหน้าที่แจ้งว่า หากเสียหายที่ลูกปืนล้อ ทางศูนย์ฯจะเปลี่ยนให้เลย แต่เท่าที่ตรวจสอบแล้วไม่พบว่าเสียหาย เราคุยกันด้วยอัธยาศัยไมตรีต่อกัน สิ่งหนึ่งที่ต้องขอบคุณคือ การเปลี่ยนโช๊คประตูหลังให้ (เคลม) ระหว่างขับรถกลับเพื่อไปเล่นกีฬา ผมก็ยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมการตรวจสอบรอบนี้จึงมีราคาสูงกว่าที่ผ่านๆมา มากกว่าเท่าตัว

  ตอนค่ำกลับเข้าบ้านอาศัย ก่อนสิ่งอื่นใดคือ นำเอกสารการจ่ายเงินมาอ่านแล้วอ่านอีก ไปหยิบคู่มือการซ่อมบำรุงมาอ่าน เปิดหน้าตรวจสอบตามระยะ 40000 กม. ก็ยังไม่หายข้องใจ

   รุ่งเช้า มาที่ทำงาน จึงเปิดหน้าเวปของบริษัท ในการตรวจบำรุงรักษารถตามระยะ

  

พบว่า เราพลาดอะไรบางอย่างไป ทั้งที่พยายามศึกษาข้อมูลการเสียค่าใช้จ่ายจากคลับแล้ว ไม่วายที่ผมต้องพลาด เพราะบางสิ่งไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับผม แต่เป็นข้อเสนอที่ทางศูนย์บริการใส่มา จะเพื่ออะไรก็ตาม เหตุผลอย่างหนึ่งคือ คุณภาพของรถลูกค้าเอง เราต้องพิจารณาว่าจำเป็นจริงหรือไม่ อย่างกรณีผม ไม่ได้ขับรถทางไกลอะไรมากมาย ดังนั้น เรื่องบางเรื่องจึงไม่จำเป็น

ข้อพิจารณาในการนำรถยนต์เข้าตรวจบำรุงรักษา

 ๑) ศึกษาเนื้อหาของคู่มือให้ละเอียด และจากประสบการณ์จริงของคลับต่างๆที่นำมาเล่าสู่กันฟัง หากเป็นไปได้ต้องทำสำเนาของเนื้องานที่เราอ่านแล้วไปอ้างอิงด้วย เพราะบางศูนย์บริการจะขายผลิตภัณฑ์ที่ราคาต่างจากราคาของศูนย์บริการอื่นๆ

๒) ดูความจำเป็นในการใช้รถยนต์

๓) ต้องศึกษาความรู้เรื่องรถยนต์ไว้บ้าง โดยที่เราไม่ต้องพึ่งพาหรือร้องขอให้ใครต้องเป็นธุระให้มากนัก

....................................................

ข้างต้น ผมวงเล็บบางอย่างไว้ ซึ่งเป็นข้อสงสัย อย่างใน (ก) ค่าแรงควรจะฟรี แต่เมื่ออ่านจากรายการที่ศูนย์บริการยืนให้ ปรากฎว่า มีการคิดค่าแรง ซึ่งเป็นไปได้ที่ฟรีเฉพาะตามคู่มือเท่านั้น นอกนั้นไม่ฟรี ให้ถือเป็นความรับผิดชอบในเจตจำนงค์ของลูกค้า ใน (ข) การอุทานของเจ้าหน้าที่ หากลืมเรื่องการใส่รายการน้ำมันเครื่องจริง ก็ต้องลืมรายการอื่นด้วย ซึ่งทำให้สงสัยว่า มีวาระซ่อนเร้นในข้อความของใบรายการก่อนซ่อมหรือไม่ เพราะทันทีที่ลูกค้าลงลายมือชื่อยอมรับการตรวจซ่อม ก็เท่ากับยอมรับอะไหล่และผลิตภัณฑ์ด้วย ซึ่งเราไม่รู้ราคาส่วนนี้ ดังนั้นต้องละเอียดให้มาก ในกรณีผมคือเชื่อใจ และไม่ละเอียด ทั้งที่สงสัยแต่ไม่ยอมถาม (อันนี้คุณสาวน้อยร้อยชั่งของผมบ่นถึงเป็นประจำ "สงสัยแต่ไม่ยอมถามแล้วคิดเอาเอง" ซึ่งก็เหมือนข้อเขียนที่กำลังเขียนนี้)

อนึ่ง ปกติค่าประมาณการก่อนซ่อมนั้น จะไม่ต่างจากค่าใช้จ่ายจริงมากนัก ในกรณีของผมมันมากกว่าหนึ่งเท่าตัว อย่างไรก็ตาม ผมเกิดการเรียนรู้ว่า เราควรเรียนรู้จากศูนย์บริการอื่นๆบ้าง ไม่ใช่จมหลักอยู่กับศูนย์บริการเดียว และมีข้อสรุปโฟกัสสุดท้ายที่ว่า ทุกวันนี้เราต้องละเอียดให้มากและมากที่สุด ในทุกอย่างและทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

[Dr. Ple]

..... ขอบคุณค่ะ....ทำให้ได้รับความรู้ใหม่ .... ลดความเสี่ยงในการใช้รถ นะคะ ......

[นีโอ..เบเกอรี่]

น่าจะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์หนึ่งของศูนย์บริการฯ ทั้งตัว H และ T ก็เป็นคะ

..เมื่อต้นเดือนเอารถไปศูนย์บริการ เช็คระยะตามกำหนด มีรายการเพิ่มเติมที่นอกจากตรวจสภาพปกติ 2 รายการ คือ น้ำยาล้างหัวฉีดเบนซิน 1หน่วย 395 บาท ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องยนต์ 1 หน่วย 695 บาท

..โชคดีท่ีคุณสามีอ่านจากเวบบอร์ดสมาชิกทั้งสองตระกูล ทุกคนแจ้งให้ทราบว่า ไม่ต้องใช้เลยแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าไปรับทั้งสองรายการนั้น เจ้าหน้าที่บอกว่า.ทุกคนใช้แล้วดี เราว่าไม่เป็นไรเช็คระยะตามปกติ

จากราคาที่เสนอมาประมาณ 2,300 บาท ลดไปเกือบพัน จ่ายจริงแค่ 1,300 บาท

---ผู้ใช้รถทุกคน ตรวจสอบรายการสั่งซ่อมให้ดีด้วยนะคะ----

[dejavu monmon]

สวัสดีครับ Dr. Ple

• หลายคนนะครับ ที่ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องเหล่านี้ เราจึงเสียเงินส่วนต่างไปรวมๆแล้วไม่น้อยเลยนะครับหากเราคิดรวมกันตลอด ๕ ปี

สวัสดีครับ นีโอ..เบเกอรี่

• หลายคนในคลับ ทั้งที่พยายามหาความรู้เพิ่มเติมแล้ว แต่ไม่วายต้องเสียเงินให้กับการบำรุงรักษามากกว่าปกติเกินความจำเป็น ยิ่งคนที่ไม่รู้เรื่องรถและสิ่งที่พ่วงมากับรถด้วยแล้ว ยิ่งต้องเสียเงินมากกว่า

[tuknarak]

ขอบคุณบันทึกดีๆ ค่ะท่าน