พลาดโอกาส เล่าเรื่องดูใจอกุศล


พลาดโอกาส เล่าเรื่องดูใจอกุศล

  คือการสารภาพและขอโทษ รู้อยู่แก่ใจตนเองว่า

“การได้มาเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”

เหมือนที่เชื่อกับตนเองลึก ๆ ว่า ความสามารถมาพร้อมกับหน้าที่

อยู่ดี ๆ หนูกับพี่กุลก็ได้ไปเจอ พี่ ๆ แม้จะอยู่ห่างกันแสนไกล อยู่กันคนละทิศคนละทาง แต่ ณ ห้วงเวลานั้น

เราก็ได้มาเจอกัน ได้กราบหลวงปู่พร้อม ๆ กันโดยไม่ได้นัดหมาย

เป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องไปคิดสงสัย

ใจหนูตอนนั้น ปรากฏเป็นความรู้สึกเบื่อหน่าย แต่ไม่ใช่ความเบื่อหน่ายที่เป็นธรรม (นิพิททา)

แต่เป็นความเบื่อหน่ายที่เป็นกิเลส คือ โทสะ

เห็นรู้ แต่ก้าวไม่ผ่าน

เห็นปุ๊บ แว๊บข้างในว่าเป็นโอกาสในการ ถอดบทเรียนเรื่องจิตอกุศล ที่เจอมาหนัก ๆ ตลอด 3 อาทิตย์ที่ผ่านมา

แต่พอนั่ง ๆไป สำรวจใจเห็นความเบื่อหน่ายล้า แล้วใจหนูก็แพ้พ่ายให้กิเลส

ที่จะได้เรียนรู้บทเรียนการเสียสละเพื่อผู้อื่น

หากได้ทำ ควรจะทำอย่างไร

กราบเรียนให้หลวงปู่ได้เมตตารับทราบเหตุการณ์เมื่อ ตลอด 3 อาทิตย์ที่ผ่านมาว่า

“จิตใจไปตกหลุมอกุศล ทั้งความโกรธ ความริษยา ความอยากดี แล้วครูกะปุ๋มพาออกมาด้วยการให้สติด้วยฝ่ามือของท่าน แล้วให้มองย้อนเข้าไปในจิต มองให้เห็นจิตอกุศล เห็น ยอมรับ อกุศลดับ จิตสว่าง”

ท่านเมตตาพาออกมาอย่างไร

หนูได้รับโอกาสจากครูให้ได้มาแก้ไขจากการละเลยหน้าที่ แล้วให้ฝึกมองจิตอันเป็นอกุศลที่เกิดขึ้นมา

ตอนแรกมันก็ไม่ยอมดู พอมันมาก็โดนความโกรธ ความดื้อด้านครอบหัว

ครูกะปุ๋ม ฟาดกะบาล ครั้งแรก มันยังไม่สำนึก

ท่านเมตตาทุบหน้าอกให้อีก ครานี้น้ำตาร่วงบอกท่านว่า

“หนูเจ็บ”

ครูถาม “มันเจ็บยังไง”

“เจ็บที่กาย เจ็บที่ใจ”

ครูถามให้ดูเข้าไปข้างในใจ

“มันแค้นด้วยไหม”

หนูสำรวจเข้าไปในจิต มันแค้นและแค้นมาก อาฆาตด้วย

พอเห็นจิตอกุศลแล้วยอมรับครานี้ หนูน้ำตาร่วงไหลพราก

เป็นความสำนึกเข้าไปในจิตใจถึงความชั่วที่เกิดขึ้นในจิต

แต่ได้รับความเมตตาจากครูที่ต้องให้ไม้หนัก

พอมา ตอนนี้ ผ่านมาได้ เข้าใจได้ ข้างในมันสบายขึ้น

ที่ครูเหนื่อยและหนักกับหนู คือ ตลอดทั้ง 3 วัน

ครูออกแรงทุบทั้ง 3 วัน นี่ขนาดวันแรก ได้เห็นแล้ว

มันก็ยังไม่จำ ไม่ได้ร่องของตนเอง ยังไม่เกิดนิสัย ไม่เป็นความเคยชิน

วันที่สองมาอีก ดูไม่ทันอีก หนักอีก ครูฟาดหนักขึ้น

วันที่สามตอนกลับจากทำงานเป็นอีก หนักอีก ครานี้

มันจะหิ้วกระเป๋ากลับ เพราะไม่ทันจิตอันเป็นอกุศล

ครูก็เมตตา ทุกวิถีทางให้หนูได้เห็น เห็นไม่ได้ก็อดทนไว้ก่อน

รักษาสัจจะที่ให้กับหลวงปู่

ครูย้ำว่า จิตอกุศล เห็น รับรู้ แล้วก็ยอมรับ จึงจะเกิดการแก้ไข

ตอนนี้ จิตอกุศลหนูไม่ได้หายไป หรือ หมดไปค่ะ

แต่พอมันมา สติหนูไวขึ้น

เหมือนข้างในนี้มันยอมรับแล้วว่า “ที่มาของจิตนี้ไม่ดี มันมาจากภพภูมิต่ำ จึงต้องเพียรให้หนัก ต้องโดนวิธีหนักมากกว่าดวงจิตที่สว่างแล้ว”

เหมือนที่ครูบาอาจารย์เอ่ยไว้ว่า

“คนชั่ว ทำชั่วได้ง่าย ทำดีได้ยาก”

นั่นแหละใช่เลย

พอเผลอขาดสติปุ๊บ จิตอกุศล โผล่หน้ามาทันที

หน้าที่หนูคือ เจริญสติ รู้ให้ทัน ให้เห็น ยอมรับมันซะแล้วแก้ไข

ตอนนี้เพราะได้ครูกะปุ๋มชี้ทางให้ยอมรับ

จิตที่มันอิจฉาครู ที่งดงาม ทำอะไรก็ “ใช่”

ทำอะไรก็เป็นที่รัก ของผู้ ที่มีจิตใจบริสุทธิ์

มันเป็นความอยากดีของจิตหนู

แต่มันยังดีไม่ได้ แทนที่จะยอมรับจิตที่มันเกิดขึ้น ว่าจิตตนเองเป็นอกุศล

กลับไปเพ่งโทษครู หาข้อบกพร่องท่าน

หนูก็สมน้ำหน้าจิตชั่วของตัวเอง เพราะหายังไงมันก็หาไม่เจอ

เพราะท่าน คือ ความไร้ที่ติ

ตอนนี้จิตหนูมันยอมรับแล้วว่า

จิตนี้มาจากที่ต่ำด้วย กรรมที่ทำมา

แต่ปรารถนาที่จะยุติ จะหยุดความชั่ว แล้วสั่งสมความดี เพื่อให้พ้นจากการครอบงำของกิเลสที่อยู่ในใจ

จะอดทนแล้วเพียร ซ้ำกับตนเองต่อไป

และอยากจะกราบขอบพระคุณในความเมตตาของหลวงปู่ตอนที่กราบเรียนพร้อมกับพี่ครั้งก่อนที่สอนว่า

“ดีแล้วที่สำนึก ต่อไปก็ให้ทำใจให้สบาย กิเลสมาก็จะได้เห็น”

แล้วครูกะปุ๋มก็มาเมตตาช่วย พาให้เห็นกิเลสได้ชัดขึ้น

ยอมรับความชั่วในจิตได้ก็แก้ไขได้ ไม่ติดดี ไม่ติดสุข

นี่ขึ้นสิ่งทั้งหมดที่ควรจะได้กราบเรียนหลวงปู่แต่ก็ยังช้า

จึงขอโอกาสสื่อสารผ่านบันทึกนี้

นี่ขนาดครูเมตตาชี้ให้เขียนตั้งแต่เมื่อวาน

แล้วครูก็ยังเมตตาย้ำอีกในวันนี้ ก็พึ่งได้มาแก้ไขกับตนเองค่ะ

สาธุ

 


คำสำคัญ (Tags): #aar#km#ภาวนา#วิมังสา
หมายเลขบันทึก: 541787เขียนเมื่อ 8 กรกฎาคม 2013 14:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 กรกฎาคม 2013 14:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท