The Flesh and the Power It Holds



'สิ่งใดคือมนุษย์?'
'เมล็ด'
'เมล็ด...?'
'เมล็ดกล้าที่ไม่หวาดกลัวที่จะปริแตกออกเป็นต้นไม้ใหญ่'

- David Zindell, The Broken God


มนุษย์เกิดมาได้ 2 แสน ปี แล้ว เร่ร่อนมา 18,000 ปี เริ่มจะมีอารยธรรม แต่มนุษย์มีสิทธิอันใดมาประกาศกรรมสิทธิยึดครอง และประกาศตนว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ประเสริฐ เปลี่ยนอนาคตของสัตว์ป่า และธรรมชาติ มนุษย์เป็นสัตว์ที่เก็บเกี่ยวผลผลิตทางการทำกสิกรรมเพื่อยังชีพแล้วมาเป็นผลกำไร ซึ่งเป็นผลประโยชน์ของตัวเองการแย่งการจับจองพื้นที่ และอาณาเขตเพื่อการทำเกษตรกรรม ในระยะเวลา 60ปี มนุษย์เพิ่มประชากรขึ้นเป็น 3เท่า หลังจากพึ่งพาพลังงานจากธรรมชาติและสัตว์มานาน ในเวลาต่อมามนุษย์ค้นพบถ่านหินและแหล่งพลังงานธรรมชาติมากมาย รวมทั้งน้ำมัน ยุคแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมมาถึง เครื่องจักรมาแทนที่คน

น้ำมัน 1 ลิตร แทนที่ คน 100 คน ไม่ต้องพึ่งพาแรงงานสัตว์อีกต่อไป พืชพันธ์ที่เคยเก็บเกี่ยวตามฤดูกาลก็เปลี่ยนไป เป็นการเร่งผลผลิต พื้นดินไม่เป็นผลอีกต่อไป เพราะการมาถึงของปุ๋ยเคมี เมล็ตพันธ์ต้นกำเนิดของสายพันธ์ถูกกำจัดแทนที่ด้วยสายพันธ์ใหม่ ที่ให้ผลผลิตได้มากกว่า การบริโภคเนื้อ จากการกินเพื่ออยู่ กลายเป็นการทำฟาร์ม ปศุสัตว์แบบค่ายกักกัน สัตว์ที่ซึ่งไม่เคยเห็น ทุ่งหญ้า หรือ สายน้ำนอกจากการให้อาหารตามเวลา เช้า เย็น และ สารเร่ง กล้ามเนื้อ เรือประมงนับพันๆ กำลังทำให้ทะเลว่างเปล่า ประชากรปลา และ ทรัพยากรทางทะเลลดลงถึงขั้นวิกฤต ปลาขนาดใหญ่สูญพันธ์ไปเพราะขยายพันธ์ไม่ทัน สัตว์ตามชายฝั่งกำลังอดยากเพราะหาปลามากินไม่ทัน สัตว์จำพวกเท้ากีบต้องหิวโหย เดินทางร่วมร้อยกิโลเมตรกว่าจะเจอทุกหญ้า

นกต้องบินไปไกลมากขึ้นเพื่อหาปลามากิน สรรพสัตว์ต้องเดินทางเป็นไมล์ๆ เพื่อหาน้ำมากินแต่มนุษย์นั่งรถไปเพียง 10 นาที หาได้ตาม ซุปเปอร์มาเกต ในรูปแบบของตะกร้า และ บรรจุภัณท์ ป่าไม้ พืชพันธ์ และ แหล่งน้ำกำลังเหือดแห้ง และขาดแคลน แต่กลับมีผืนหญ้าและต้นไม้นานาพันธ์เขียวชอุ่มกลับอยู่ในสนามกอล์ฟ ต้องคอยรดน้ำทั้งวัน

ทั้งๆที่หลายล้านคนกำลังดิ้นรนกับการสัมผัสน้ำสักอึกเดียวกับคอที่แห้งผาก...

เราเผาผลาญเชื้อเพลิง ไปกับการแข่งขันยานพาหนะเพื่อความท้าท้าย การเป็นที่ 1 เพียงเพื่อสำราญบันเทิงใจให้กับมนุษย์ ป่าถูกแทนที่ด้วยการทำเกษตรกรรม พืชเศรษฐกิจ สัตว์เศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมเพื่อการอุปโภคและบริโภคของมนุษย์

ภาพลวงตานี้จะอยู่ได้นานแค่ไหน? ฤาเราจะเป็น "อารยะธรรมที่เคยเจริญรุ่งเรือง"...?
ความร่ำรวย มั่งคั่ง สุขสบาย ความมีสุนทรียภาพ การเสพสุขที่ส่วนใหญ่เป็นเป้าหมายหลักของชีวิต

เป็นผู้บุกเบิก เป็นจิตรกร เป็นนักวิทยาศาสตร์ เป็นนักแข่งรถแชมป์เปียนโลก แต่ต้องสูญชาติพันธ์ไปกับการขาดแคลนทรัพยากร มีการจลาจล การปล้นสะดม การต่อสู้แย่งชิง เพื่อการอยู่รอดของตนเอง เมืองใหญ่จะคับแคบขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนต่างจังหวัดจะเคลื่อนเข้ามา เพื่อความอยู่รอด เพราะทรัพยากรที่ลดลง และ สิ่งแวดล้อมที่ไม่สามารถทำเกษตรกรรมได้อีกต่อไป โลกใช้จ่ายกับการพัฒนาอาวุธ มากกว่าพัฒนาประเทศ มีคนเป็นพันล้านคนตายลงเพราะดื่มน้ำที่ปนเปื้อน และไม่มีน้ำดื่ม ธัญพืชทั่วโลกถูกนำมาใช้เป็นอาหารจนเกือบหมดสิ้น สัตว์ และเชื่อเพลิง 1  ใน 3 กำลังสูญพันธ์สูญสลาย พื้นที่ป่า 15 ล้าน เอเคอร์ หายไปทุกๆปี ประชากร 200 ล้านคน กำลังจะอพยพ เพราะสภาพอากาศภายในปี 2050

พรุ่งนี้ จะมีแคมป์ผู้อพยพอย่างนั้นหรือ? พรุ่งนี้จะต้องต่อคิวรับอาหาร และน้ำอย่างนั้นหรือ?
พรุ่งนี้ คนร่ำรวย สวย สง่า จะมีความสำคัญอีกหรือไม่?

สนามกีฬาจะว่างเปล่า เวทีประกวดจะไร้ผู้ค้น สนามแข่งรถจะร้าง สนามกอล์ฟจะกลายเป็นทะเลทราย
โลกกำลังเสียความสมดุล เหนื่อยล้า กำลังสูญเสียพื้นที่ และเราจะพบดินแดนใหม่ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
มนุษย์นั้นเกิดมาเพื่อสร้าง หรือทำลายโลกใบนี้ รวมทั้งตนเอง

ฤาเราจะเป็น อารยะธรรมที่ "เคย" เจริญรุ่งเรือง และยังคงเย่อหยิ่งต่อ นวัตกรรม ความศิวิไลซ์ ของตนเอง...


สวัสดี นั่นแทนคำทักทาย และยินดีต้อนรับสู่ Dystopia ของผมครับ


คำสำคัญ (Tags): #failure#Humanrace
หมายเลขบันทึก: 540837เขียนเมื่อ 29 มิถุนายน 2013 04:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 มิถุนายน 2013 05:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

A true story you tell, harsh and gloomy.

People will read/listen but they won't love you. They wish for happiness (whichever way it comes) and tenderness (under that cloaked smile). They will say 'be happy', 'love yourself', 'relax, something will come along and save the world',...

Well...come to this world ;-)

Friends, I'll love them back even they cannot love me and no matters who they are they were just as same as me, The failure trace of human race, the flesh with an Ego and also the Shadow as in Carl Jung's work and theory. The shadow is everything in us that is unconscious, repressed, undeveloped and denied. These are dark, rejected aspects of our being. There is supposedly good in our shadow, as well.

Welcome, my witness - my eyes - my evidence :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท