กระบวนการของนวัตกรรม ขั้นตอนการพัฒนานวัตกรรมที่มีคุณภาพและประสบ ความสำเร็จในการดำเนินการทำโดยการบูรณาการความรู้ของระเบียบ วิจัยทางคลินิก ร่วมกับการดำเนินการวิจัยขณะปฏิบัติงานประจำหรือที่รู้จักกันว่า Routine to Research (Rto R) มีข้อแนะนำดังนี้
๑.๓.๑. ประเมินความต้องการนวัตกรรม (need analysis) โดยประเมินสภาพปัญหาเพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างชัดเจนเพื่อค้นหาความบกพร่อง ความไม่สมบรูณ์ของสิ่งที่มีอยู่ และก่อให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติ/ การบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน รวมทั้งปัจจัยอุปสรรคที่อาจมีผลขัดขวางการพัฒนาคุณภาพบริการจากการใช้นวัตกรรม
๑.๓.๒. กำหนดประเด็นหรือหัวข้อ ที่ต้องการพัฒนานวัตกรรม ให้มีความเฉพาะเจาะจง ไม่ศึกษาหลายเรื่องในเวลาเดียวกัน โดยนวัตกรรมที่จะพัฒนาอาจเป็น กลวิธี เทคนิค โปรแกรม วัสดุ/อุปกรณ์ การปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม
๑.๓.๓. ทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบโดยตรวจสอบว่ามีกี่วิธีที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้น การประเมินคุณภาพข้อมูลเชิงประจักษ์ทำโดย
(๑) สืบค้นวรรณกรรมที่สนับสนุนความเข้าใจเกี่ยวกับการออกแบบนวัตกรรม
(๒) ประเมินระดับความน่าเชื่อถือของข้อมูลเชิงประจักษ์ (level of evidence) หากมีประเด็นที่ยังไม่มีการทำวิจัยหรือพบความขัดแย้งในผลงานวิจัยจึงใช้ความเห็นสอดคล้องของผู้เชี่ยวชาญการวิจัย หรือการเทียบเคียงผลของการปฏิบัติงานต่างหน่วยงาน
(๓.) สังเคราะห์ข้อความรู้ที่ได้จากวรรณกรรมที่มีคุณภาพเมื่อนำมาบูรณาการวางแผนและการออกแบนวัตกรรม
(๔.) ออกแบบนวัตกรรมเพื่อเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติงานในองค์กรหรือการบริหารจัดการให้ดีขึ้น
(๕.) กำหนดวิธีวัดประสิทธิภาพของนวัตกรรมซึ่งอาจมาจากตัวชี้วัดคุณลักษณะของผู้เรียนหรือตัวชี้วัดคุณภาพของสภาพแวดล้อมและองค์กรวิธีวัดส่วนใหญ่เป็นการวัดผลโดยใช้ข้อมูลเชิงปริมาณ
(๖.) กำหนดรายละเอียดของวิธีการใช้นวัตกรรมในสถานศึกษาหรือในการทดลอง
(๗.) ดำเนินการศึกษานวัตกรรมในหน่วยงานหรือองค์กรเป้าหมาย ตามแผนที่วางไว้ในข้อ ๔ ข้อ ๕ และข้อ ๖
(๘) ประเมินประสิทธิภาพของนวัตกรรม ทั้งในด้านกระบวนการ รูปแบบและผลลัพธ์ทางด้านการพัฒนาคุณลักษณะของผู้เรียน
(๙).บันทึกโดยสรุปผลพร้อมแหล่งอ้างอิงที่ใช้ในการสร้างนวัตกรรมทางรูปแบบการพัฒนาและการอภิปรายผลลัพธ์ของนวัตกรรม
http://www.trcn.ac.th/webN/page7.html
ขอบคุณในกำลังใจนะครับ