ในการประชุมสภามหาวิทยาลัยมหิดล ครั้งที่ ๔๗๐ เมื่อวันที่ ๒๐ มี.ค. ๕๖ มีการเสนอหลักการของหลักสูตรปริญญาโท ด้านการศึกษาสำหรับผู้มีความต้องการพิเศษ และกรรมการท่านหนึ่งได้ให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์มาก ในการขับเคลื่อนให้หลักสูตรการศึกษาเข้าไปใกล้ชิดและรับใช้สังคมไทยมากขึ้น
ท่านบอกว่าหลักการที่เสนอมา ก็เหมือนกับหลักสูตรอื่นๆ ที่เป็นหลักสูตรแบบ “เน้นเทคนิค” (technology-oriented) คือเน้นการเรียนด้านเทคโนโลยี เพื่อจัดการศึกษาให้แก่ผู้มีความต้องการพิเศษ ยังมีหลักสูตรอีกแบบหนึ่ง เรียกว่า “เน้นระบบ” (system-oriented curriculum) คือเรียนทำความเข้าใจ (และสร้างความรู้) เชิงระบบ ว่าในสังคมไทยมีผู้ต้องการพิเศษด้านการศึกษาเท่าไร ในลักษณะใด จะพัฒนาบัณฑิตเข้าไปทำงานเพื่อสนองความต้องการของสังคมได้อย่างไร ทั้งเชิงระบบและเชิงเทคนิค
“วิธีการคือ สำรวจจำนวนผูพิการในชุมชนวามีจำนวนเท่าไร พิการประเภทใดบาง มากน้อยเพียงใด ดูแลกันอย่างไร หากจะใหมีการดูแลที่ดีขึ้น จะตองผลิตบุคลากรประเภทใดบ้าง จำนวนเท่าไร โดยหลักการ system oriented นั้นสามารถคำนวณกําลังคน และทําใหการจัดหลักสูตรตางๆ สามารถแกปญหาคนทั้งประเทศได”
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งว่า มหาวิทยาลัยไทยควรพิจารณา จัดให้มีหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา และเน้นระบบให้มากขึ้น และเรียน (สร้าง) เทคนิค/เทคโนโลยี ที่เหมาะสมสำหรับนำไปใช้ในระบบของไทย มากกว่าเรียนเทคโนโลยีราคาแพงและไม่เหมาะสม
วิจารณ์ พานิช
๑๖ เม.ย. ๕๖
I think people resources are far more valuable than "(technological) gadgets".
Besides people are more multi-purpose and long-lasting than machines!
เห็นด้วยว่าควรมีหลักสูตร 2 แบบ ในระดับปริญญาโท