เขาหินซ้อนอันแสนร่มเย็น

วันที่  22 เมษายน พวกเราได้มีโอกาสไป ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ              

เดิมผืนดินแถบนั้นแห้งแล้ง เสื่อมโทรม ไม่สามารถที่จะทำการเพาะปลูกได้   พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้ง “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ"  เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมการศึกษา ทดลอง วิจัย และการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ดินทรายจัดเพื่อเกษตรกรรม ทำให้ผืนดินผืนนั้นกลับมาอุดม สมบูรณ์ และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง

ที่นั่นมีทั้งการประมง การปศุสัตว์ เกษตรทฤษฎีใหม่ โรงเพาะเห็ด และสวนสมุนไพร และอื่นๆอีกมาก ให้พวกเราได้ศึกษา  ซึ่งทางเราได้แบ่งกลุ่มกันไปศึกษา และกลุ่มของฉันได้เรื่อง เกษตรทฤษฎีใหม่ 

การจัดแบ่งแปลงที่ดินเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงคำนวณและคำนึงจากอัตราถือครองที่ดินถัวเฉลี่ยครัว เรือนละ 15 ไร่ หากมีพื้นที่ถือครองน้อยกว่าหรือมากกว่านี้ ก็สามารถใช้อัตราส่วน 20:20:50:10 ไปเป็นเกณฑ์ปรับใช้ได้ และที่เขาหินซ้อนได้แบ่งสัดส่วนเป็น 20 : 20 : 50 : 10  โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 

   -  20%   ส่วนแรก ขุดสระน้ำ (สามารถเลี้ยงปลา ปลูกพืชน้ำ เช่น ผักบุ้ง ผักกะเฉด ได้ด้วย
   -  20%   ส่วนที่สอง ทำนา
   -  50%   ส่วนที่สาม ปลูกพืชไร่ พืชสวน (ไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชผัก สมุนไพร เป็นต้น)
   -  10%   สุดท้าย เป็นที่อยู่อาศัยและอื่นๆ (ถนน คันดิน กองฟาง ลานตาก กองปุ๋ยหมัก โรงเรือน โรงเพาะเห็ด คอกสัตว์ ไม้ดอกไม้ประดับ พืชผักสวนครัวหลังบ้าน เป็นต้น)

นอกจากเขาหินซ้อนแล้ว พวกเราก็ยังมีโอกาสได้ไปไหว้พระพิฆเนศที่วัดสมานรัตนาราม และหลวงพ่อโสธรที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร ด้วย  

เรียกได้ว่าเที่ยววันเดียวอิ่มทั้งบุญ อิ่มทั้งความรู้   :)