เข้าใจ (2-146)


การถูกวิพากษ์โดยเพื่อนสนิท ย่อมทำให้รู้สึกหวั่นไหวไ่ม่มั่นคง...


"เธอนี่เป็นคนที่เข้าใจยากจริงๆ..." เพื่อนสนิทของฉันบ่นขึ้นในวันหนึ่ง...

         ตอบอยู่ในใจว่า...จริงด้วย เธอพูดถูกแล้ว เพราะเราไม่สามารถเข้าใจทุกคนได้ เหมือนที่หลายครั้งเราไม่เข้าใจตัวเองนั่นไง

        การถูกวิพากษ์โดยเพื่อนสนิท ย่อมทำให้รู้สึกหวั่นไหวไ่ม่มั่นคง แน่ล่ะ ก็แม้แต่เพื่อนสนิทยังบอกว่าไม่เข้าใจในตัวเรา มีหรือจะไม่กังวลใจ ก็เหมือนสำนวนที่ใช้กันว่า "เสียself" นั่นแหละ  แต่สำหรับฉัน มันน่ากลัวยิ่งกว่านั้นอีก คือการรู้สึกว่าฉันเป็นคนเข้าใจยากและยังพยายามที่จะ "เข้าใจโลก" ซึ่งยากกว่ามาก... ที่น่าเศร้าก็คือ...ฉันไม่เคยเข้าใจอย่างถ่องแท้ทั้งตัวเองและโลก 

        และนั่นเป็นเรื่องที่รบกวนจิตใจฉันอยู่เสมอ !!!


        ฉันเป็นเพียงมนุษย์แสนอ่อนแอคนหนึ่ง ที่พยายามและอวดโอ่ว่าอยากเข้าใจตัวเองและโลก ด้วยวิธีต่างๆนานา ทั้งคำพูด ข้อเขียน การท่องโลก ประสบการณ์ และการครุ่นคิด

----บางครั้ง...ลิงโลดเพราะเหมือนจะแจ่มแจ้งแก่ใจ
----บางครั้ง...ขวัญเสียเพราะสับสนไม่เข้าใจ






"เธอนี่เป็นคนที่เข้าใจยากจริงๆ..."

อีกครั้งที่ฉันทบทวนประโยคนี้ ฉันยิ่งเห็นจริงและยิ้มมากขึ้น
ฉันเป็นมนุษย์ตัวเล็กๆ และมนุษย์ไม่เคยถ่องแท้ในโลก แต่ชอบคิดจะเปลี่ยนแปลงโลก
แล้วจะแปลกอะไรหากฉันจะเป็นคนเข้าใจยาก


คิดพลางยิ้มพลางกับเจ้าปลาตัวเล็กๆ ในอ่างและใบไม้เล็กๆที่ลอยคว้างอยู่นั้น

....ไม่ต้องเข้าใจทุกเรื่องทุกคนหรอก แค่เข้าใจให้ได้ว่าเราควรอยู่อย่างไร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในโลกนี้อย่างไม่ทำให้ตนเองและคนรอบตัวเดือดร้อน...ก็พอแล้ว...

(◠‿◠✿)❤•♥


หมายเลขบันทึก: 533488เขียนเมื่อ 21 เมษายน 2013 11:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 เมษายน 2013 14:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (28)

.... เราควรอยู่อย่างไร ในสังคมอย่างมีความสุข ....... ใช่เลยค่ะ

อั้ยย่ะ!

พูดแทนใจได้หมดแทบทุกตัวอักษรเลยนิ

ขอบคุณมากๆค่ะ นำดอกโมกหน้าบ้านมาฝากจ้า


ขอบคุณพี่ Dr. Ple ค่ะ

หลายครั้งเราก็ตั้งคำถามในเรื่องที่ไกลความเป็นจริง ฝันเฟื่องต่างๆนานา ลืมไปว่า "ปััจจุบันตรงหน้า" นี้ต่างหากที่เราควร ตั้งคำถามและหาคำตอบให้....  :)

ขอบคุณมากค่ะ คุณ Tawandin

สำหรับถ้อยคำที่แสนจะให้กำลังใจและยังดอกโมกที่แปลกตามากๆ ค่ะ

การที่ถูกมองอย่าง "ไม่เข้าใจ" จากคนอื่นว่าแย่แล้ว แต่เพื่อนสนิทไม่เข้าใจ...แย่กว่า...

และที่แย่ที่สุดก็คือ... การไม่เข้าใจตัวเอง...ฮาๆๆๆๆๆ

เราทุกคนควรต้องเยียวยาความรู้สึกแย่ๆ ด้วยการหาเหตุผลที่เรายอมรับได้...จริงไหมคะ  :)

แค่เข้าใจให้ได้ว่าเราควรอยู่อย่างไร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในโลกนี้อย่างไม่ทำให้ตนเองและคนรอบตัวเดือดร้อน...ก็พอแล้ว...

โดนใจจังค่ะ ประโยคนี้

ปริมว่านี่แหละคือ "ความเข้าใจ"

ขอบคุณค่ะคุณ ...ปริม ทัดบุปผา...

ความทุกข์อย่างหนึ่งของตัวเองก็คือการที่รู้สึกว่าตัวเองไม่เข้าใจตัวเอง ไม่เข้าใจคนอื่น และไม่เข้าใจ...โลก

ก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรจึงเป็นอย่างนี้ค่ะ...

ดังนั้นการเขียน การเล่าจากการคิด... ช่วยให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นค่ะ  :)




ขอบคุณบันทึกที่ให้ข้อคิดดี ๆ จ้ะ

ประสาอะไรจะไปเข้าใจคนอื่นเน้าะ

ออกจะบ่อยที่ไม่เข้าใจตัวเอง

ขอบคุณค่ะคุณ คุณมะเดื่อ

ชอบดอกไม้สีม่วงค่ะ สวยจัง  :)

สวัสดีค่ะคุณหมอ ทพญ.ธิรัมภา

เห็นด้วยค่ะ จะพยายามและอยากเข้าใจคนอื่นมากมาย แต่ยังไม่เข้าใจตัวเองเลย...  เลยสับสนอยู่อย่างนี้เองค่ะ  :)

อิอิ...มีเพื่อนแล้ว..ไชโย...(เพื่อนสนิทยายธีไม่ได้"ว่า"..แต่เล่าให้ฟังว่า.."เขาว่ากันว่า"..ปลูกมะละกอ..กับกล้วยไว้ในบ้าน..ละก็..จะเป็นที่ สิงสู่..ของ สัมมเวสี.."คือผีเร่ร่อน"..ไปทำบ้านดินที่เรียกซ้ะ โก้หรูว่า"รัตนโกสิน..อ..ยุทธ..ยา..อินทร์..บุรี..แล้วไม่ไปอยู่..(เรื่องของเรื่อง..ก็คือ ไม่เคยเข้าใจ ตัวเอง..๕๕๕๕..๖๖..ตกๆหล่นๆ..อ้ะ...)...ยายธี

ฟังเพื่อนพูด ดีที่สุดเลยครับ 

ยินดีต้อนรับค่ะคุณ ยายธี

คนไม่ค่อยเข้าใจตัวเอง สองคนมาพบกัน... สนุกน่าดูเลยค่ะ

ขอบคุณค่ะ  :)

สวัสดียามค่ำๆ ค่ะคุณครู ธ.วั ช ชั ย

คุณครูพูดสั้น/เขียนสั้น แต่ต้องนำไปคิดอีกยาว...ฮาๆๆๆ

หมายความว่า... เพื่อนมักพูดถึงเราอย่างถูกต้องดังที่เราเป็น... ใช่ไหมคะ

ขอบคุณค่ะ   :)

ผมชอบคิดเยอะ แต่พอจะเขียนแล้วขี้เกียจ อิๆๆ

หมายความว่า ถ้าทำให้เพื่อนกล้าพูดอย่างเปิดเผยกับเรา

จะตำหนิหรือชมก็แล้วแต่ เขาจะไว้ใจและสบายใจครับ 

และเราก็จะได้ยินเสียงสะท้อนจากเขาบ่อยๆ

(ขยายความแล้ว)

สวัสดีค่ะคุณครู

มีปัญหานี้บ้างเหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะตอนทำดุษฎีนิพนธ์ เขียนแล้วให้เพื่อนอ่าน เพื่อนบอกว่าเขียนได้ไม่เหมือนที่เล่าให้ฟัง... 

ขอบคุณคุณครูค่ะ   ;)

สวัสดีค่ะแวะมาอ่านมาชื่นชมบันทึกที่ดี...สะดุดที่คำว่า วิพากษ์ ค่ะ

สวัสดีค่ะพี่ ดร. พจนา แย้มนัยนา

น้องไม่แน่ใจว่าพี่สะดุดคำว่า "วิพากษ์" ในประเด็นไหน แต่ขออนุญาตอธิบายว่า ในกลุ่มเพื่อนสนิทซึ่งมีนิสัยแตกต่างกันมาก อาทิเช่น บางคนคุยเก่ง เล่าเก่ง ปากไว บางคนคิดมาก พูดน้อย พูดไม่ทันเพื่อน ฯลฯ เราจึงตกลงกันว่า จะไม่โกรธกันในนิสัยที่ต่างกันนั้น และจะต้องยอมรับการ "วิพากษ์" นั้นคือการตักเตือนกันอย่างจริงใจและเป็นกัลยาณมิตรกัน (วิพากษ์ แปลว่า พิจารณาตัดสิน) ค่ะ

ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ

ขอบคุณบันทึกนี้

เพราะบ่อยครั้งก็เกิดความรู้สึกอย่างนี้เหมือนกัน

ได้ข้อสรุปแล้ว ละค่ะ

ความรู้สึกนึกคิดของเราเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเสมอ อจ.สกลเคยบอกไว้

เคยย้อนมองตัวเองว่าแม้ในเรื่องเดียวกันบางครั้งเมื่อเวลาผ่านไปเราเองกลับรู้สึกไม่เหมือนเดิม

เขาก็มองและตัดสินเราตามที่เขาเห็นและได้สัมผัส....และมันก็ไม่ใช่ทั้งหมดที่เราเป็น...เช่นกัน


สวัสดีค่ะคุณ Oraphan

เห็นด้วยกับที่กล่าวว่า "ความรู้สึกนึกคิดของเราเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเสมอ..."

ดังนั้นการตัดสินใครเพียงแค่สัมผัสสัมพันธ์กันไม่กี่ครั้ง จึงอาจไม่ใช่ทั้งหมด

ขอบคุณค่ะ  :)

สวัสดีค่ะคุณครูทิพย์

ยินดีที่ได้ทักทายกันค่ะ  :)

ขอบคุณมากๆ ครับที่เขียนบทความที่ดีมากในชุมชนกิจกรรมบำบัด 

สวัสดีค่ะ Dr. Pop

กระบวนการขัดเกลาตนเองผ่านสายตาและการวิพากษ์กันอย่างเป็นกัลยาณมิตร... ทำให้เราเติบโตขึ้นทางด้านจิตวิญญาณเสมอนะคะ   

ขอบคุณค่ะ  :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท