(21) 'ร่วมประสบการณ์' ในร้านนวดแผนไทย


การแลกเปลี่ยนเรียนรู้มันเกิดขึ้นได้ในทุกที่ทุกเวลา ในวงสนทนานี้ที่สมาชิกต่างไม่คุ้นเคยกันมาก่อนก็สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ ข้อมูลอิงประสบการณ์ที่ได้ มีความถูกต้องแม่นยำน่าเชื่อถือยิ่งกว่าการตอบแบบสอบถามเสียอีก

15 เม.ย.56

เมื่อคืนนี้เขียนถึงบริการภาครัฐไปหลายเรื่อง ยังรู้สึกค้างคาใจเหมือนเดินวนในกรอบ วันนี้ขอเขียนนอกกรอบสักเรื่องเถอะค่ะ ปกติดิฉันจะนวดเท้าเพื่อผ่อนคลายสัปดาห์ละครั้ง เมื่อวานก็ไปนวดตามปกติ สามีขับรถพาไปส่งแล้วไม่ยอมขับรถกลับ จะขอรอสักครู่ "เผื่อร้านปิด จะได้กลับพร้อมกัน" ห่วงภรรยาหรือขี้เกียจขับรถหลายเที่ยวกันนะ ดิฉันก็ตัดบทว่า "ร้านนี้ไม่ปิดหรอก ไม่มีใครงกกว่านี้อีกแล้ว" เมื่อมาถึงร้านนี้เปิดบริการจริงๆ จึงเล่าบทสนทนาให้เจ้าของร้านฟังอย่างตรงไปตรงมา เจ้าของร้านรู้จักนิสัยใจคอกันดี จึงไม่โกรธ กลับหัวเราะกันสนุกสนาน

ดิฉันเล่าเสริมว่า ไปร้านตัดผมพบว่าร้านปิด ไปร้านตัดเล็บร้านก็ปิดเช่นกัน ดิฉันมีหุ่นแอปเปิ้ล แบบที่ นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ วินิจฉัยไว้ใน "หุ่นแอปเปิ้ลทำร้ายไตเรา" ทำให้ตัดเล็บตัวเองไม่สวย จึงภาวนาให้ร้านนวดเปิดบริการสักร้านหนึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้

ระหว่างนี้มีผู้รับบริการท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารเปิดใหม่ในเซ็นทรัล พลาซา จ.อุบลฯ ที่เปิดใหม่ต้นเดือนเมษานี้ ถูกเก็บค่าน้ำแข็งแก้วละ 3 บาท "แก้วหนึ่งใส่น้ำแข็งได้อย่างมากก็ 3 ก้อน เขาขายก้อนละบาทเชียวนะ" เจ้าของร้านกล่าวเสริม

ดิฉันจึงเสริมบ้างว่า "สิ่งที่คุณคิดเป็นเพียงความคาดหวังเท่านั้น" แล้วดิฉันก็เล่าให้ฟังบ้างว่า "สิ่งที่ดิฉันเจอเป็นสิ่งที่เขาทำไม่ตรงกับที่ประกาศไว้" ที่ร้านอาหารแบบบุฟเฟ่แห่งหนึ่ง ใน จ.อุบลฯ แขวนป้ายหน้าร้านว่า "AMEX WELCOME" เมื่อรับประทานอาหารเสร็จดิฉันก็นำบัตรดังกล่าวมาชำระค่าอาหาร ทางร้านปฏิเสธว่าไม่รับบัตรนี้ ดิฉันจึงขอให้เขาดึงป้ายดังกล่าวออก ไม่เช่นนั้นจะไปแจ้งความว่าเอาเปรียบผู้บริโภค

อีกเรื่องหนึ่งที่ร้านนวดเท้าในปั้ม ปตท.ก่อนขึ้นภูเรือ จ.เลย หลังจากนวดเท้าแล้วทางร้านก็เสิร์ฟน้ำสมุนไพรตามปกติ แต่ตอนคิดเงินเก็บค่าน้ำสมุนไพร 25 บาท วันนั้นดิฉันอารมณ์ดี จึงไม่ได้ต่อว่าต่อขานกัน พวกเรา (และแล้วทุกคนในร้านซึ่งต่างได้รับประสบการณ์เดียวกันก็มีความรู้สึกร่วม ว่าเราเป็นพวกเดียวกัน!) จึงร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การถูกเอารัดเอาเปรียบจากภาคเอกชนในวงสนทนา ดิฉันสรุปปิดท้ายวันนี้ว่า "อย่างนี้กระมัง ที่ร้านอาหารบางร้านยังคงอยู่ในใจเราตลอดมา เพราะเขาเติมน้ำชาเย็นๆ แบบไม่อั้น" อีกคนสำทับอีกว่า "คนไทยอยู่เมืองไทยไม่ควรต้องซื้อน้ำกิน" เมื่อจบประโยคนี้ทางร้านก็นำน้ำสมุนไพรมาเสิร์ฟ ลูกค้าท่านนี้รีบสอบถามทันทีว่า "เดี๋ยวเพิ่งไปไม่กล้ากิน ถามก่อน คิดเงินหรือเปล่า" ฮา ...

เออหนอ.. การแลกเปลี่ยนเรียนรู้มันเกิดขึ้นได้ในทุกที่ทุกเวลา ในวงสนทนานี้ที่สมาชิกต่างไม่คุ้นเคยกันมาก่อนก็สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ด้วยอัธยาศัยไมตรี ข้อมูลอิงประสบการณ์ที่ได้ มีความถูกต้องแม่นยำน่าเชื่อถือยิ่งกว่าการตอบแบบสอบถามเสียอีก อีกนานเท่าใด.. เราจะประเมินความพึงพอใจบริการของภาครัฐแบบ informal แบบนี้บ้างนะ หน่วยงานใดต้องการทดลองดิฉันอาสาค่ะ ไม่คิดเงิน แค่มีอาหารแบบที่หุ่นแอปเปิลชอบกินก็พอ.

หมายเลขบันทึก: 533010เขียนเมื่อ 15 เมษายน 2013 12:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 ธันวาคม 2016 15:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

แวะมาเยี่ยมยาม และ ส่งความสุข ปีใหม่ไทย สำหรับสหาย ชาว G2K ครับ

ขอบคุณอาจารย์ที่มาเยี่ยมชม รอวันจะได้พบกันรอบใหม่ที่พระศรีฯ นะคะ

เพชรากร หาญพานิชย์

สวัสดีครับ

ผมไปทานอาหาร ร้านไหนบริการน้ำดื่มฟรี จะพบว่าใช้แก้วขนาดเล็ก ๆ อยากดื่มมาก ก็ต้องลุกไปเติมเอาเองบ่อยๆ 

แต่ร้านไหนคิดค่าบริการน้ำเปล่า พบว่าขนาดแก้วใบใหญ่มาก เราดื่มน้ำไปนิดเดียว พนักงานแย่งกันเติม เมื่อคิดราคาน้ำเปล่าขวดละ 25 บาท น้ำแข็งถังละ 40 บาท

แวะมาเยี่ยม มาทักทาย ครับ

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม มาทักทายนะคะ

ที่บ้านดิฉันดื่มน้ำแร่ค่ะ หากซื้อขนาดแกลลอนจะมีราคาแพงกว่าน้ำธรรมดานิดหน่อย ดิฉันสอนให้ลูกพกขวดน้ำขวดเล็กๆ  300 ml. ติดกระเป๋าไว้เสมอ จะดื่มมื่อใดก็ได้ สะอาด สะดวกดีค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท