.
.
ภาพที่ 1: แสดงตลาดนายหน้าค้าข้าวสมัยเอโดะ ญี่ปุ่น (1830s = 1830-1839/2373-2382) [ wikipedia ]
.
.
ภาพที่ 2: เมล็ดข้าวแบ่งเป็น 3 ส่วนได้แก่ รำข้าว (bran - ด้านนอก) สีน้ำตาลแดง, ข้าวขาว (endosperm) สีขาว, และจมูกข้าว (germ - จุดขาวขุ่นด้านข้างเมล็ดข้าว) > [ wikipedia ]
.
(1). รำข้าว > เป็นส่วนที่มีเส้นใยหรือไฟเบอร์มากที่สุด และมีโปรตีน-วิตามิน-น้ำมันชนิดดี (น้ำมันรำข้าว) รองจากจมูกข้าว
.
(2). ข้าวขาว > เป็นส่วนที่มีแป้ง-น้ำตาลมากที่สุด
.
(3). จมูกข้าว > เป็นส่วนที่มีโปรตีน-วิตามิน-น้ำมันชนิดดี (น้ำมันจมูกข้าว-รำข้าว)
.
กล่าวกันว่า "ข้าวกล้องเป็นข้าวที่มีชีวิต" คือ งอกได้ แถมยังมีสารอาหารครบส่วนมากที่สุด
.
ข้าวกล้องที่ดีควรมีจมูกข้าวติดอยู่ และเห็นรำข้าวด้านนอกสีน้ำตาลปนแดง (ถ้ามีมากจะเห็นเป็นข้าวแดง, ถ้ามีน้อยจะเห็นเป็นข้าวกล้องสีน้ำตาล)
.
.
ภาพที่ 3: แสดงมหาอำนาจ 20 ประเทศในด้านการกินข้าวมากในปี 2009/2552 > 5 อันดับแรกได้แก่ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย บังคลาเทศ และเวียดนาม [ wikipedia ]
.
ก่อนหน้านี้มีการตรวจพบข้าวในสหรัฐฯ มีระดับสารหนูสูง ซึ่งอาจเพิ่มเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง มะเร็งปอดได้ในระยะยาว
.
ต้นตอของสารหนูมาจากแถบลุ่มแม่น้ำมิสซิสซิปปี ทางใต้ของสหรัฐฯ ซึ่งมีการใช้ยาฆ่าแมลงในการปลูกฝ้าย และใช้ยาผสมสารหนูฆ่าพยาธิในการเลี้ยงสัตว์ติดต่อกันมานานจนเกิดการสะสมในดิน
คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (US FDA) รายงานว่า พบการปนเปื้อนสารตะกั่วมากถึง 120 เท่าของระดับที่ยอมรับได้ (provisional total tolerable intake / PTTI)
.
สารตะกั่วมีพิษหลายอย่าง เช่น มีพิษต่อสมอง ทำให้ไอคิวหรือระดับความฉลาดลดลง มีพิษต่อไต ทำให้เลือดจาง ฯลฯ
.
กลุ่มเสี่ยงพิษตะกั่วสูงเป็นเด็กเล็กและเด็กในท้องแม่ เนื่องจากสมองอยู่ในช่วงที่มีการเจริญเติบโตเร็ว
.
ลำไส้ของเด็กเล็กดูดซึมตะกั่วคิดเป็นร้อยละ (%) สูงกว่าลำไส้ผู้ใหญ่ ยิ่งทำให้เด็กเสี่ยงพิษสารตะกั่วมากขึ้น
.
.
ข้าวเป็นพืชที่ใช้น้ำมาก (heavily irrigated conditions), ดูดซับสารเคมี-แร่ธาตุจากน้ำมาก ทำให้เป็นพืชที่บอบบางต่อภาวะสิ่งแวดล้อมเป็นพิษสูง
.
การศึกษาก่อนหน้านี้หลายรายงานพบมีการปนเปื้อนสารหนูในข้าวที่ปลูกในตอนกลางจนถึงตอนใต้ของสหรัฐฯ
.
ครั้งนั้นนิตยสารคอนซูเมอร์ รีพอร์ท (Consumer Report = รายงานผู้บริโภค ผู้ซื้อ-กิน-ใช้) รายงานว่า ข้าวไทยมีระดับสารหนูต่ำกว่าเกณฑ์ที่ยอมรับได้ = ข้าวไทยปลอดภัย
.
ดร.ซานาากูรายิ ทงเกซายิ และคณะ จากมหาวิทยาลัยมอนเมาต์, นิวเจอร์ซี สหรัฐฯ ทำการทดสอบข้าวนำเข้าในสหรัฐฯ หลายยี่ห้อ
.
.
สหรัฐฯ ปลูกข้าวเอง 93%, นำเข้า 7% โดยนำเข้าข้าวจากภูฏาน อิตาลี จีน ไต้หวัน อินเดีย อิสราเอล สาธารณรัฐเช็ค และประเทศไทย
.
ข้าวที่สหรัฐฯ นำเข้า 65% มาจากไทย
.
การศึกษาใหม่ทำโดยการแยกข้าวตัวอย่างเป็นรายประเทศ แล้วคำนวณย้อมกลับไปว่า ระดับข้าวที่กินเฉลี่ยเป็นประจำจะทำให้ได้รับสารตะกั่วเกินขีดความปลอดภัยหรือไม่
.
ดร.ทงเกซายิ กล่าวว่า อย.สหรัฐฯ (US FDA) ตั้งเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยไว้สูงมาก ทำให้ต้องกินข้าวเกินระดับที่ อย.สหรัฐฯ กำหนดมากกว่า 10 เท่า จึงจะเสี่ยงพิษสารตะกั่วชัดเจน
.
.
สรุป คือ ระดับอันตราย = 10 เท่าของระดับที่ยอมรับได้ (PTTI)
.
การศึกษานี้ใช้จุดตัดว่า ข้าวปลอดภัยหรือไม่ที่ 120 เท่าระดับที่ยอมรับได้ (PTTI) = 12 เท่าของระดับอันตราย
.
ผลการศึกษาพบว่า ข้าวที่มีระดับสารตะกั่วสูงที่สุดมาจาก "จีนและไต้หวัน"
.
เรื่องนี้สอดคล้องกับการศึกษาที่ผ่านมา ซึ่งพบวา มีการใช้น้ำเสียจากโรงงานไปรดต้นไม้ หรือใช้ปลูกข้าวหลายแห่งใน "จีนและอินเดีย"
.
.
ข้าวจากไต้หวันอาจมีสารตะกั่วสูงจากการเป็นคนกลาง นำเข้าข้าวจากจีน บรรจุหีบห่อ แล้วส่งออกใหม่อีกครั้งหนึ่ง
.
หรืออาจปนเปื้อนจากการเหมืองเก่า โรงงานรุ่นเก่า
.
สรุปคือ ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา, มีการตรวจพบข้าวปนเปื้อนสารเคมีสูงดังต่อไปนี้
.
(1). ข้าวปลูกในตอนกลาง-ตอนใต้ของสหรัฐฯ > ปนเปื้อนสารหนู
.
(2). ข้าวจากจีน-ไต้หวัน > ปนเปื้อนสารตะกั่ว
.
.
ไทยนำเข้าอาหารเด็ก และซีเรียล (cereal = อาหารทำจากธัญพืช) หลายชนิด โดยเฉพาะอาหารเด็กเล็กจากสหรัฐฯ
.
นิตยสารบิสเนซ อินไซเดอร์ วิเคราะห์เร็วๆ นี้ว่า อาจจะมีกระแสอพยพออกของคนจีนรุ่นใหม่ที่มีการศึกษาสูง หรือมีฐานะดีมาก 2 ระลอก
.
(1). brain drain = สมองไหล
.
ผลการสำรวจเร็วๆ นี้พบว่า คนจีนที่มีฐานะดีส่วนหนึ่งซื้อบ้าน-คอนโดฯ นอกประเทศ เพื่อขอสิทธิ์เป็นพลเมือง เตรียมส่งลูกหลานไปเรียนต่อ และอาจอพยพย้ายประเทศถ้าจำเป็น
.
ประเทศแม่เหล็กที่คนจีนนิยมอพยพออก คือ สหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย
.
ออสเตรเลียมีนโยบายรับคนที่มีการศึกษาสูง โดยเฉพาะวิศวกร-นักวิทยาศาสตร์-พยาบาล เข้าประเทศ เพื่อเพิ่มจำนวนประชากรที่มีสติปัญญาดี ทำให้คนจีน-อินเดีย-ยุโรปตะวันออกอพยพเข้าสูง
.
(2). health drain = อพยพออกจากปัญหาสิ่งแวดล้อม
.
ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ โดยเฉพาะน้ำเสีย-ปนเปื้อนสารเคมีกว่าครึ่งประเทศ และอากาศเสีย โดยเฉพาะหมอกควันจากการเผาไหม้จากโรงงาน รถยนต์ ทำให้คนจีนส่วนหนึ่งเริ่มมองหาบ้านที่ 2 นอกประเทศ
.
.
ตัวอย่างความรู้สึก "ไม่ปลอดภัย" ปรากฏชัดในเรื่องนมผง โดยหลังมีปัญหานมผงผสมเมลามีนหลายระลอก ทำให้เกิดทัวร์คนจีนไปกว้านซื้อนมผงนอกประเทศ
.
คุณแม่ชาวฮ่องกง และอังกฤษประท้วงทัวร์ "ซื้อนมผง" แบบยกแผง เนื่องจากทำให้นมผงขาดตลาด บริษัทเพิ่มการผลิตนมผงไม่ทัน
.
ทว่า... ในระยะยาวคงจะเป็นข่าวดีแบบสุดๆ สำหรับบริษัทนมผง การท่องเที่ยว และห้างค้าปลีก
.
นักท่องเที่ยวชาวจีน มาเลเซีย รัสเซีย และเกาหลีใต้มีบุญคุณต่อประเทศไทย... ท่านเหล่านี้ทำให้คนไทยมีงานทำ มีรายได้เข้าประเทศ
.
.
ถ้าจะมีทัวร์เข้ามาซื้อนมผงในไทยก็ขอให้พวกเราช่วยกันต้อนรับดีๆ
.
และอย่าลืมเรียนภาษาอังกฤษ-ภาษาต่างประเทศไว้ด้วย
.
เด็กรุ่นใหม่น่าจะชวนคุณย่า คุณยาย คุณแม่เรียนภาษาอังกฤษไปด้วย จะได้เก่งกันทั้งเมือง...
.
ดีไม่ดีอาจเปิดบ้านแบบโฮมสเตย์ (homestay = เปิดบ้านรับนักท่องเที่ยว) เป็นรายได้พิเศษในระยะยาวทีเดียว
.
.
คนไทยได้รับตะกั่วน้อยลงไปมากหลังมีการใช้น้ำมันสูตรไร้สารตะกั่ว
.
วิธีป้องกันสารตะกั่วที่สำคัญได้แก่ [ CDC ]
.
(1). ระวังสีทาบ้านรุ่นก่อนปี 1978/2521 ลอกหลุด
.
ถ้าบ้านของท่านทาสีก่อนปี 2521, แนะนำให้ถูพื้น-เช็ดถูหน้าต่างด้วยน้ำทุก 2-3 สัปดาห์ และล้างมือด้วยสบู่ก่อนกินอาหาร-ดื่มน้ำทุกครั้ง เพื่อลดโอกาสปนเปื้อนสีทาบ้าน
.
(2). ทำความสะอาดของเล่น-เครื่องประดับของเล่น และล้างมือเด็กด้วยสบู่ก่อนกินอาหาร-ดื่มน้ำ-ก่อนนอน
.
(3). หลีกเลี่ยงขนมจากต่างประเทศ โดยเฉพาะชนิดที่ไม่มีตรา "อย."
.
คำแนะนำในสหรัฐฯ คือ ให้หลีกเลี่ยงขนมจากเม็กซิโก, ในไทยคงจะเป็นขนมจากนอกประเทศ
.
(4). ล้างมือด้วยสบู่หลังอ่านหนังสือ โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์
.
อย่าใช้มือกินอาหารไปด้วย จับหนังสือหรือหนังสือพิมพ์ไปด้วย เพื่อลดโอกาสได้รับโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ฯลฯ จากหมึกพิมพ์
.
.
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
.
> [ Twitter ]
- Thank BBC source > American Chemical Society Meeting > (will be published in) Journal of Environmental Science and Health (Part B).
- นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์. 13 เมษายน 56. ยินดีให้ท่านนำบทความไปใช้ได้ โดยอ้างที่มา และไม่จำเป็นต้องขออนุญาต... ขอบคุณครับ > CC: BY-NC-ND.
- ข้อมูล ทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค; ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูง จำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้