-----------
ก้าวแรกของการจัดการปัญหา : การขจัดปัญหาความไร้รัฐให้แก่ลุงตู่
-----------
เมื่อวันที่ ๒ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๔ สำนักทะเบียนท้องถิ่นเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายได้บันทึกรายการสถานะบุคคลของนายชาญ สุจินดาในทะเบียนประวัติตามกฎหมายไทยว่าด้วยการทะเบียนราษฎรในสถานะ "บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน" โดยยอมรับให้มีเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลักขึ้นต้นด้วยเลข ๐ และในวันเดียวกัน สำนักทะเบียนนี้ยังได้ออกบัตรประจำตัวตามกฎหมายไทยว่าด้วยการทะเบียนราษฎรให้นายชาญถือเอาไว้เพื่อแสดงตน ซึ่งบัตรนี้มีชื่อว่า “บัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน” ขอให้สังเกตว่า ทะเบียนประวัติดังกล่าวก็ยอมรับว่า นายชาญเกิดใน พ.ศ.๒๔๘๔ จากนางผิวและนายป่วน ซึ่งเป็นคนสัญชาติไทย แต่ไม่ระบุสถานที่เกิด
-----------
ก้าวที่สองของการจัดการปัญหา : ความพยายามในการขจัดปัญหาความไร้สัญชาติให้แก่ลุงตู่ โดยการสืบค้นข้อเท็จจริงอันเป็นรากเหง้าของลุงตู่ และนำไปสู่การกำหนดสิทธิในสัญชาติของลุงตู่
-----------
นางสาวสายชลและคณะได้ทำหน้าที่สืบค้นข้อเท็จจริงตั้งแต่ต้น จนสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้ดังกล่าวแล้ว และบรรลุที่จะตามตัวพยานบุคคลหลายคนที่รู้ที่มาของนายชาญจนได้มาซึ่งพยานหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับความเป็นมาของนายชาญ ทั้งนี้ พยานบุคคลที่สำคัญให้ปากคำเกี่ยวกับความเป็นมาของนายชาญหรือ “ลุงตู่” ต่อนางสาวสายชลและคณะ มีอยู่ ๖ คน กล่าวคือ (๑) นายสว่าง สังข์ทอง หรือ “ลุงแกละ” ซึ่งเป็นพี่ชายร่วมมารดากับนายชาญ และรู้จักนายชาญ มาตั้งแต่เกิด (๒) นางเล็ก แซ่ตั้ง ซึ่งป็นภริยาของนายปลอด กิจเกษมเป็นบุตรบุญธรรมของนางผิวและนายแสวง สังข์ทอง สามีคนแรกและเป็นบิดาของนายสว่าง นางเล็กรู้จักนายชาญ มาเป็นเวลาประมาณ ๕๕ ปี (๓) นายโสภณ โชติกมล ซึ่งเป็นบุตรที่เกิดจากภรรยาคนที่ ๒ ของนายสุทัศน์ โชติกมล ซึ่งเป็นสามีของนางเยื้อน โชติกมล น้าสาวของนายสว่างและนายชาญ ซึ่งนางเยื้อนเลี้ยงดูบุคคลทั้งสองมาตั้งแต่นางผิวมารดาเสียชีวิตใน พ.ศ.๒๔๘๙ (๔) นายสุระพงษ์ โชติกมล ซึ่งเป็นหลานนางเยื้อน โชติกมล (๕) นายประเมิน เกาสละ หรือ “ลุงน้อย” ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านและเพื่อนเล่นสมัยเด็กของนายชาญ และรู้จักนายชาญมาเป็นเวลาประมาณ ๖๗ ปี และ (๖) พันเอกล้วน จันทร์เผ่าแสง ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านและเพื่อนเล่นสมัยเด็กที่รู้จักนายชาญ มาเป็นเวลาประมาณ ๖๗ ปีเช่นกัน เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่จำความได้
-----------
ก้าวที่สามของการจัดการปัญหา : การกำหนดตัวบุคคลที่รับผิดชอบผลักดันการพัฒนาสิทธิในสถานะบุคคลตามกฎหมายให้แก่ลุงตู่
-----------
ในส่วนการออกแบบกระบวนการร้องขอพิสูจน์และพัฒนาสิทธิในการรับรองสถานะบุคคลตามกฎหมายไทย อันหมายถึงการรวบรวมพยานหลักฐานและการดำเนินการตามกฎหมายเพื่อร้องขอเพิ่มชื่อของนายชาญในทะเบียนคนอยู่ถาวรตามกฎหมายการทะเบียนราษฎรของรัฐไทยในสถานะคนสัญชาติไทยนั้น นางสาวสายชลและคณะได้ร้องขอการสนับสนุนทางวิชาการจาก “โครงการบางกอกคลินิกเพื่อให้คำปรึกษากฎหมายด้านสถานะและสิทธิของบุคคล กองทุนศาสตราจารย์คนึง ฦๅไชย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” ซึ่งในขั้นตอนนี้ จึงมีนักกฎหมายจากโครงการนี้เข้ามาร่วมงานกับนางสาวสายชลและคณะอีก ๓ ท่าน กล่าวคือ (๑) นางสาวศิวนุช สร้อยทอง (๒) นางสาวพวงรัตน์ ปฐมสิริรักษ์ และ (๓) นางสาวปรางค์สิรินทร์ เอนกสุวรรณกุล ทั้งนี้ ภายใต้ความดูแลของ รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร ผู้รับผิดชอบการเรียนการสอนในวิชากฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล
ยังมีก้าวต่อไปที่จะต้องมาบันทึกต่อในส่วนที่ว่าด้วยย่างก้าวเพื่อการจัดการปัญหาสิทธิในการรับรองสถานะบุคคลตามกฎหมายให้แก่ลุงตู่ จึงโปรดติดตาม
ไม่มีความเห็น