บังกลาเทศย่อยยับเพราะความแค้นของคนสองตระกูล

ข่าวการฆ่ากันรอบใหม่ใน บังกลาเทศ ชวนให้ผู้รู้อดีตของประเทศนี้ สังเวชใจอย่างยิ่ง

เพราะคนสองตระกูลสร้างแค้นเลือดทางการเมืองที่ผลัดกันล้างด้วยเลือดอย่างต่อเนื่องมา ๔๐ปีเศษแล้ว

บังกลาเทศ แยกตัวจากปากีสถาน ด้วยสงครามเลือดในปี ๑๙๗๑ 

ต่อมามีการเลีอกตั้งได้ประธานาธิบดีคนแรก ชื่อ เซีย อับดุลเลาะห์ มาน ดำรงตำแหน่งได้ ๓ปีเศษ ดึงประเทศจากยากจนสุดๆ

ขึ้นมาได้หน่อย.  ก็เกิดการรัฐประหาร โดย กองทัพบก นำโดย นายพลอะไรจำชื่อไม่ได้ พวกทหารฆ่าท่านประธานาธิบดี นั่นคือ

จุดเริ่มต้นของศึกสายเลือด เพราะลูกสาวของประธานาธิบดี ศึกษาอยู่ต่างประเทศ ก็เริ่มการแก้แค้น ( เหมือนนาง อองซาน ซูจี )

หลายปีต่อมาเมื่อประชาชนเบื่อคณะทหารที่คอรัปชั่นอย่างมโหฬาร ลูกสาวอดีตประธานาธิบดี ก็ก่อขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตย

โค่นล้มรัฐบาลทหารได้ นางคนนั้น ก็ล้างแค้นให้บิดาด้วยการแขวนคอท่านนายพล แล้วสถาปนาตนเองเป็นประธานาธิบดี

 เจ้ากรรมของบังกลาเทศ ลูกสาวนายพลที่ถูกแขวนคอก็เก่งทางการปลุกระดมทางการเมืองไม่แพ้นางประธานาธิบดี ก็ก่อตั้งพรรคฝ่ายค้าน

ขึ้น และใช้วิธี ม๊อบ ขัดขวางการกระทำของรัฐบาลในทุกเรื่อง นางรัฐบาลก็เลี้ยงม๊อบเดิมขึ้นมาสู้กันบาดเจ็บล้มตายเป็นพันๆทุกครั้ง

สองนางผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะตลอด ๔๐ ปี แทนที่จะพัฒนาประเทศ กลับช่วงชิงอำนาจไม่รู้จบ

 คราวนี้มารอบใหม่ ทหารผ่านศึกเมื่อ ๑๙๗๑ โผล่ขึ้นมาเรียกร้องสิทธิอะไรไม่มีใครจำได้ ก่อม๊อบเดินขบวนตีกับฝ่ายรัฐบาลอีก

ความแค้นของสองนางเฒ่า ยังไม่จบยังจะต้องล้างผลาญกันต่อไปอีกหลายชาติ

      ไม่รู้ว่าสองนางเฒ่าร่ายมนต์อะไรจึงจูงคนบังกลาให้อยู่ในมือในทางนรกสายนั้นได้ช้านาน

      ประชาชนชาวไทยก็ถูกมนต์ดำอะไรสะกดอยู่ ทุกวันนี้. อยากให้แดนทองแห่งนี้ลงนรกเหมือนชาวบังกลานักหรือครับ?

      เจ้าของมนต์ดำทั้งหลายน้อยๆหน่อยได้หรือยังครับ ? จะเอากันจนวอดวายกันไปข้างหนึ่งหรือครับ?

      แล้ว " พี่น้อง ประชาชน " ที่พวกเขาเรียกท่านเล่าครับ อยากเป็นควายบังกะลาตลอดไปหรือครับ ?

       ปลงเสียเถอะ " แม่จำเนียร "