ในการเพาะปลูกพืชแต่ละชนิดถ้าผู้ปลูกคำนึงถึงการจัดการศัตรูพืชเพื่อลดความเสี่ยงจากการทำลายของ ศัตรูพืชแต่ละชนิดคงจะดีมาก เพราะ การลดความเสี่ยงนี้ คือ ความสามารถในการจัดการพืชให้รอดปลอดภัยจาก โรคและแมลงศัตรูพืช
ในช่วงเดือน ธันวาคม –มกราคม ใบยางพาราร่วงหล่น เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่ชาวสวนยางต้องเฝ้าสังเกต ต้นยางอย่างใกล้ชิดมากขึ้นเพราะเมื่อใบเก่าร่วงไป ใบใหม่ก็ต้องมาทดแทน ซึ่งโรคราแป้งในยางพาราก็มักจะเกิด ในช่วงแตกใบอ่อน ดังนั้นแล้วก็ต้องเฝ้าระวัง
ราแป้ง เกิดจากเชื้อเชื้อราOidium heveae Steinm ( Oidium Leaf Disease)
เชื้อสาเหตุมีลักษณะเป็นฝุ่นแป้งบนใบอ่อนยางพารามักพบการระบาดในช่วงที่ฝนตกปรอยๆ อุณหภูมิลดลง ๓ – ๔ องศาเซลเซียส หรือสภาพอากาศเย็นอุณหภูมิประมาณ ๑๘ – ๒๐ องศาเซลเซียส ใบอ่อนยางพาราจะมีสีขาวคล้ายฝุ่นแป้ง กระจายทั่วทั้งใบ ประมาณ ๒ – ๔ วัน หลังจากนั้นใบจะร่วง มีอาการคล้ายน้ำร้อนลวก อาการรุนแรงร่วงโกรนทั้งต้น ไม่รุนแรงใบจะมีรอยจุด หรือบิดงอใบยางพาราที่เจริญงอกมาแทนใบร่วงโกรนใบจะเล็กกว่าปกติ
ผลกระทบ: กรณีใบร่วงโกรนทั้งต้น ยางพาราจะใช้เวลาเพิ่มที่จะพัฒนาเป็นแก่จัดพร้อมเปิดประมาณ ๓๐ – ๓๕
วันและผลผลิตลดลง กรณีใบเป็นจุดผลผลิตจะลดลง
การป้องกัน:
๑. หมั่นสำรวจสวนยางพารา
๒.ยางเล็กที่ไม่สูงมากนัก เครื่องพ่นสารเคมีฉีดพ่นถึง แตกใบอ่อนใช้กำมะถันผง ฉีดพ่น
อัตราส่วนตามฉลาก ฉีดพ่นเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอ หรือใช้สาร เบโนมิล
(benomyl) 50% WP โดยใช้ในอัตรา 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร โดยต้องพ่นบนใบยางอ่อน ทุก ๆ สัปดาห์
๓. ใช้กำมะถันบด (กำมะถันที่ใช้ทำดินปืน)
บดให้ละเอียดเทบนกระดาษ ประมาณ ๑ ช้อนแกง แล้วจุดไฟๆจะค่อยลุกติด เกิดควันไฟที่มีกลิ่นเหม็นกำมะถัน
แต่ละจุดห่างกันประมาณ ๒๐ เมตร (๕ จุด /ไร่) ควรปฏิบัติงานตอนเช้าตรู่
เนื่องจากอากาศเย็น ควันที่เกิดจากการไหม้จะค่อยๆลอยเอื่อยๆ
ไม่มีความเห็น