ใครที่ผ่านไปผ่านมาตามถนนกลางหมู่บ้านโนนเพ็กพัฒนา จะเห็นบ้านอยู่หลังหนึ่งซึ่งปลูกผักไว้เป็นประจำในบริเวณสวนหน้าบ้าน ผักแปลงนี้มีพื้นที่ประมาณครึ่งงาน เจ้าของแปลง คือ คุณแม่ยุ่น เกษตรกรสูงวัยผู้ปลูกกุยช่ายมาตั้งแต่วัยสาว ปัจจุบันแม้อายุหกสิบกว่าก็ยังปลูกกุยช่ายเป็นอาชีพเสริม
คุณแม่ยุ่น เล่าว่า เริ่มแรกที่ปลูกกุยช่าย (ภาษาอีสานเรียกผักแป้น) ได้พันธุ์มาน้อยนิด ลงมือปลูกและขยายพันธุ์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งปลูกได้กุยช่ายเต็มพื้นที่
คุณแม่ยุ่น ขยายพันธุ์กุยช่ายโดยการแยกหน่อ เริ่มจากขุดกุยช่ายขึ้นมาทั้งกอ ตัดใบกุยช่ายออกจนหมด ให้เหลือหน่อที่มีความยาวประมาณ 2 - 3 นิ้ว ปักดำในแปลงที่เตรียมไว้แล้ว โดย 1 หลุม ใช้กุยช่าย 2 หน่อ ระยะห่างของแต่ละหลุมประมาณ 1 คืบ แปลงปลูกกุยช่ายต้องขุดดินให้ลึก และรองพื้นด้วยปุ๋ยคอก หลังปลูกให้รดน้ำเป็นประจำทุกวัน ประมาณ 15 วัน สามารถตัดกุยช่ายไปบริโภคหรือจำหน่ายได้ โดยใช้มีดที่มีความคมตัดกุยช่ายให้ชิดติดดิน หลังให้ตัดหว่านด้วยปุ๋ยคอกเพียงอย่างเดียว รดน้ำทุกวัน เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตและการแตกหน่อ จะสามารถตัดกุยช่ายได้อีกทุก 15 วัน
ในแต่ละวัน คุณแม่ยุ่น ใช้เวลาโดยเฉลี่ยประมาณ 1 ชั่วโมง สำหรับการดูแลรักษาและจัดการกับผลผลิต คุณแม่ยุ่น มีรายได้จากการจำหน่ายผลผลิต คือ กุยช่ายสด และกุยช่ายดอง ประมาณ เดือนละ 3,000 บาท หรือ ประมาณ 36,000 บาท ต่อปี ซึ่งอาจจะน้อยเกินไปสำหรับหลายๆ คน แต่คุณแม่ยุ่น ก็พึงพอใจกับรายได้นี้ เพราะเป็นการประกอบอาชีพที่ใช้พื้นที่ครึ่งงานและใช้เวลาวันละ 1 ชั่วโมง เท่านั้น
สถานที่ บ้านโนนเพ็กพัฒนา ตำบลหนองบัวแก้ว อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
ที่บ้านครูอ้อย มีกุยช่าย 1 กาละมัง เอาไว้ ผัดหมี่โคราชค่ะ กลับไปทีไรก้ได้เอามาลงกระทะทุกทีค่ะ
ปลูกและขยายพันธ์ุง่าย และที่สำคัญไม่ต้องใช้สารเคมี