คืนคลายถ่ายถอน




คืนคลายถ่ายถอน

ดิฉันอยู่ทางโลกทำธุรกิจบ้านจัดสรรค์ สร้างบ้านขาย แต่เพราะว่าธรรมทำให้เรารู้ขอบเขตรู้จักพอ ถ้าคนไม่มีธรรม โอโห้...มันเมากับโลกมาก เขาทำบ้านใหญ่ๆโตๆ สร้างตึกตั้งร้อยชั้น ถ้าไม่ทำด้วยกิเลส มันทำไม่ได้หรอก ไอ้เราเมื่อก่อนไปดู กับเดียวนี้ไปดู มันก็ต่างกันแล้ว โอโห้ เมามาก สร้างบ้านตั้งร้อยชั้น แล้วไม่รู้ว่าเขาได้อะไร ที่สุดก็ไม่ได้อะไร พอเราเกิดสติปัญญาขี้นมาแล้วเราก็ คืนคลายถ่ายถอนจากความโง่ ความมัวเมากับวัตถุสิ่งของ ลมหายใจขาดต้องทิ้งไว้กับโลกหมด เอาไปไม่ได้ แต่ที่เรามาปฏิบัติธรรมเป็นอริยธรรม มันติดหัวใจเราไป หลายภพหลายชาติ หลายกัปป์ หลายกัลป์เลย ไม่มีสูญเปล่า แต่ทรัพย์ในโลกสูญหมด เอาไปไม่ได้ จะกินดีขนาดไหน เอาหูฉลามบ้วนปากด้วย ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร คนรวยเศรษฐีเขาบอกเขากินเป็นแสน ยิ่งใช้มาก ยิ่งมัวเมามาก เขาก็คิดว่านั้นคือความสุข เพราะเขาไม่รู้ เขาไม่รู้วิธีปฏิบัติ ถ้าเรามีความรู้สึกตัว เราก็จะไม่ไปหลงกับสิ่งเหล่านั้น ไม่ไปตื่นเต้น ไม่ไปมัวเมา ไม่ไปอะไรทั้งนั้นเลย คิดดูนะธรรมมันสอนเรา สอนให้ปล่อยวางทั้งหมด อย่างที่พระพุทธองค์บอกว่ามีอะไรก็ทุกข์ในสิ่งที่มี


เพราะฉะนั้นเราหาเงินหาทองก็ให้พอมี พอสมควร เราก็เข้าหาธรรมะดับทุกข์ในใจ มีสติมีปัญญา นี้แหล่ะคือทรัพย์ที่แท้จริง ที่นีก็ขอให้เพื่อนผู้ปฏิบัติธรรม อย่าท้อแท้ บางทีก็ท้อแต่อย่าถอย ห้ปฏิบัติไปให้สู้ไป เอาอย่างนี้สู้ตาย ไม่ใช่ตัวตายหรอก กิเลสตาย สู้ให้กิเลสมันตายไปเลย ให้กิเลสมันดิ้นต่อหน้า เห็นกิเลสดิ้นไหม เวลามันอยาก อู้ย.. อยากเลิก อยากให้เสียงระฆังเสียงดังกังสดาลอย่างแบบสวรรค์ มันอยากอย่างงั้น แต่อยากอย่างงั้นก็ไม่เป็นไรหรอก เราก็ให้รู้สึกตัวก็แล้วกัน ให้รู้ว่ามันอยาก นะค่ะ อย่าไปไหลตามมัน อย่าไปวิ่งตามมัน ก็รู้สึกตัวทั้งวันๆ อยู่บนทางจงกลมน่ะคะ ไม่ต้องไปแก้ไข แล้วเวลาง่วงขึ้นมาเราก็อมน้ำบ้าง หายใจเข้าลึกๆ กลั้นไว้แล้วก็ หายใจออกยาวๆ วิธีแก้นั่นมันมี แก้แค่นั้นก็พอ แล้วถ้ามันไม่หาย เอ้ย เดินลากขา เดินเลย เดินมากๆ การเดินจงกลม ได้สติที่ดีมากที่เดียวเลย ได้กำลังมาก ถ้ายังง่วงๆอยู่ นั่งยกมืออยู่ มันไม่มีกำลัง ต้องขึ้นมาเดินเลย


สู้กิเลสให้มันดิ้นตายไปเลย

ฟังวันนี้ขอให้ได้กำลังใจ เพราะดิฉันก็เคยผ่านสิ่งเหล่านี้มาทั้งหมดแล้วล่ะ แต่สู้มาจนบัดนี้ รู้สึกสู้แล้วล่ะก็ ได้ดีขึ้นมาได้ ก็เลยอยากจะเชียร์ให้ทุกๆคนสู้ สู้กิเลสให้มันดิ้นตายไปเลย ต่อหน้าต่อตา พระพุทธองค์จึงทรงตรัสว่า ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย มันไม่ใช่ร่างกายตาย แต่มันตายจากมรรคจากผล เรามาทำอย่างนี้ได้มรรคได้ผล


ความจริงดิฉันก็เหมือนกับพวกคุณทั้งหลาย ก็มีครอบครัว มีอะไรอยู่ทางโลกมาแล้ว อะไรมาแล้วทุกอย่าง แล้วก็มาเปรียบกับทางธรรมแล้ว การปฏิบัติแล้วได้ผลธรรม โอโห้.. มันภูมิใจตัวเองว่าเราพบทางสว่าง ถ้าเราไม่มีทางนี้มืดตลอดกาลเลย ทำมากก็ได้มาก ความเพียรทำเข้าไป ทำน้อยก็ได้น้อย เห็นบางคนก็สึกว่าขยันดี เดินตลอดเลย ไม่ถอย บางคนก็เดินแข่งกัน พรุ่งนี้มาแข่งกับดิฉันใหม่ เดินแข่งกันดีนะค่ะ ปฏิบัติธรรมแข่งกันดี เป็นทางเจริญ แข่งกันหาวัตถุสิ่งของ ไม่เจริญหรอก มีแต่โลภมาก อยากได้ ความพอก็ไม่มี ไม่จบ ทางธรรมมันจบได้ ดิฉันเห็นหลายคนตั้งใจปฏิบัติ กันดี ดิฉันก็ยังยินดีด้วย บางทีก็สงสารนะค่ะ แต่ต้องแข็งใจ ต้องใจแข็งอยากให้ได้ดี ต้องเข้มงวด คุณไปหาที่ไหนไม่มีหรอก สถานที่อย่างนี้ ดิฉันผ่านวัดมายี่สิบกว่าปี เห็นเข้าวัดทำอาหาร แล้วก็วิ่งซื้อนู้นซื้อนี้ แล้วก็คุยกัน ทะเลาะกัน ไม่มีหรอกเข้มงวดกวดขันให้มาปฏิบัติ


มีแห่งเดียวในโลก

ถึงได้บอกว่าปฏิบัติแข่งกันดี น่าภูมิใจที่นี่มีแห่งเดียวไม่ใช่ในประเทศไทย แต่เป็นแห่งเดียวในโลก ดิฉันก็เรียกว่าโชคดี บุญวาสนาก็พาให้มาเจอกับที่นี่ จึงได้มีความก้าวหน้าในการปฏิบัติ ความรู้สึก คือสติสัมปสัญญะมันทำโดยตรงเลย มันเป็นสัจจะธรรม คุณคิดดูกระทบแล้วรู้ มันไม่ต้องไปอ้อมค้อมที่ไหนเลย เพราะฉะนั้นจึงจะให้กำลัง แต่ทำที่แรกๆอาจจะไม่ชัดเจน แต่ในระหว่างเจ็ดวันสิบวัน บางคนก็อาจจะได้ไป ได้ความรู้สึกตัว ลูกสาวของดิฉันก่อนหน้านี้ก็มา เดินตลอดเลย เขาไปได้วันจะกลับ เขาบอก อู้ยหู้...ความรูสึกตัวนะจริงๆมันสบายจัง

พอเรารู้จักมันแล้ว มันเบาๆ เขากลับไปบอกว่าแค่กระทบเบาๆ ก็รู้แล้ว แล้วจะไปใช้กับชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้นการที่เรามาปฏิบัติวิธีนี้ เวลาเราเคลื่อนไหวอะไรเราก็รู้สึกตัว เวลาเรากลับไปบ้าน เราก็พยายามทำต่อต้องให้ต้องเนื่องเป็นลูกโซ่ เวลาอยู่กรุงเทพหรืออยู่ต่อหน้าคนอื่นเราก็ไม่ต้องไปยกมือเพราะเขาจะหาว่าเราไม่ปรกติ เราก็ผลิกมืออย่างนี้ก็ได้ ทำได้หลายอย่าง ให้เรารู้สึกว่าเรากำลังผลิกมืออย่างนี้ก็ได้ คนทางโลกเขาไม่เข้าใจหรอก แต่ดิฉันเขาจะว่าอย่างไรก็ช่างเขา ดิฉันก็ยกมือ ไม่สนใจเขา บางคนอายไม่กล้าทำ ก็ทำอย่างนี้ก็ได้ ลูบอย่างนี้ก็ได้ พยายามมีความรู้สึกตัว กลับไปให้ทำตลอด นั่งรถก็ให้ทำตลอด แล้วก็เรืองช้อปปิ้ง เรื่องอะไรให้มันน้อยๆลงไปหน่อย เสียเวลา เอามาทำความรู้สึกตัวดีกว่า คิดดูนะคนที่เขาไม่รู้สึกตัวเลยเขาเป็นอย่างไร เวลานี้โลกทุกวันนี้ มีแต่คนที่ไม่มีสติ ไม่รู้สึกตัว โลกถึงได้วุนวายทุกวันนี้ ถ้ารู้สึกตัวแล้วจะไม่กล้าทำผิด ความรู้สึกตัวมันทำให้เรามีทั้งศิล สมาธิ ทั้งปัญญา อยู่ในตัวเสร็จเลย เรายิ่งทำมากเท่าไร ยิ่งให้มหาคุณ เพราะฉะนั้นไหนๆเราก็มาพบทางนี้แล้วเป็นทางที่ถูก ไม่ผิดเลย เราทำไปๆๆๆ มันจะเป็นมหาคุณอย่างมากเลย เราได้หลักไปแล้ว การปฏิบัติเจ็ดวันสิบวันก็ทำให้เต็มที่ แล้วก็กลับไปบ้านหรือไปทำงานก็ทำต่ออย่าได้ทิ้ง ถ้ามีโอกาสให้เข้ามาปฏิบัติอีก ไม่ต้องเข็ด เพราะที่นี้เป็นที่ที่ล้างกิเลส เราอย่าไปตามกิเลสมาก ความสุขสบายความสะดวกนี้ โอ้โห้.. น่ากลัวมาก เพราะเราไปตามมันตลอด เราไม่เลยฝืนไม่เคยสู้กับมัน พอเรามาฝืนเรามาสู้กับมัน เรารู้สึกว่ามันทรามาณมาก เพรากิเลสมันก็ไม่ยอมให้เราทำ

เพราะฉะนั้นวันนี้ก็ขอให้กำลังใจกับทุกๆคนนะค่ะ แล้วขอให้บุญกุศลที่ดิฉันปฏิบัติธรรมมาทั้งหมดทั้งสิ้น จงมารวมเป็นพลังปัจจัยส่งเสริมให้ผู้ปฏิบัติธรรมทุกๆคน มีความเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป จนถึงความพ้นทุกข์นะค่ะ

หมายเลขบันทึก: 514803เขียนเมื่อ 2 มกราคม 2013 09:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม 2013 03:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีปีใหม่นะคะคุณคนบ้านไกล

Large_blob?1357061857

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท