วันที่ 25 ธันวาคม 2555 (ต่อ)
หลังพัก รับประทานอาหารกลางวัน เราจัดให้ผู้เข้าประชุมเข้ากลุ่มย่อย 15 กลุ่ม ตามหมายเลขในป้ายชื่อ แต่ละกลุ่มมีทีมงาน สคส. และทีมงานของเครือข่ายเบาหวานดูแลกลุ่มละ 1 คน คุณธวัช หมัดเต๊ะ รับหน้าที่ดำเนินกิจกรรมตลอดช่วงบ่าย
ทีมงานยกป้ายหมายเลขกลุ่มเรียกแขก
คุณธวัช หมัดเต๊ะ
ก่อนเริ่มกิจกรรมคุณอ้อม อรพิณ ชูเกาะทวด พาผู้เข้าประชุมยืดเส้นยืดสายในช่วงเวลาสั้นๆ (กำมือ แบมือ ไก่ ปาก ปีก ตูด) ทีมงานเครือข่ายพากันไปเป็นหางเครื่องโชว์ท่าอยู่บนเวที
คุณอรพิณ ชูเกาะทวด สาธิตท่าทาง
หางเครื่อง
ทำตามกันทุกคน
เราใช้กิจกรรมเชฟกะทะเหล็ก ที่ตั้งชื่อดูดีว่า CA Award – Chef Kra-Ta-Lek Accreditation Award เป็นกิจกรรมให้ผู้เข้าประชุมได้เรียนรู้เครื่องมือ BAR, AAR คุณธวัชบอกผู้เข้าประชุมว่าได้จำลองให้ง่ายกว่าในรายการทีวี แจ้งกติกาการแข่งขันและเกณฑ์การให้คะแนน (เอกสารที่ใช้ในกิจกรรม Download ได้ที่นี่ )
ให้ทุกกลุ่มปรึกษาหารือกัน ส่งผู้แข่งขันสะบัดไข่ 5 คน แข่งขัน 2 รอบ รอบที่ 1 แข่ง 3 คน (ใช้วิธีการเหมือนกัน) รอบที่ 2 แข่ง 2 คน (ใช้วิธีการเหมือนกัน) กลุ่มต้องคุยกันก่อนว่าจะทำงานรูปแบบใดดี มีคำแนะนำในการทำ One meeting ให้
ในการ BAR ให้ตั้งเป้าหมาย CA ระดับใด? ทำไม? อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ แบ่งหน้าที่กันอย่างไร? ให้ทุกคนมีส่วนร่วมกับผลงานของกลุ่ม ส่วน AAR ก็ให้ทบทวนเป้าหมาย อะไรที่ทำได้ดี เพราะอะไร อะไรที่ยังทำได้ไม่ดี เพราะอะไร หากต้องปฏิบัติภารกิจนี้ในรอบถัดไปจะปรับปรุงตรงจุดใด อย่างไร
ผู้เข้าประชุมทุกกลุ่มทำงานกันอย่างตั้งใจ มีการให้คะแนนแต่ละกลุ่ม สุดท้ายมี 2 กลุ่มคือกลุ่ม 3 และกลุ่ม 14 ได้คะแนน 49 คะแนนเท่ากัน แต่ของรางวัล (DVD เปิดงาน) มีจำกัด จึงต้องให้แต่ละกลุ่มส่งคน (คนที่ 6) ขึ้นมาประลองสะบัดไข่กันบนเวที จนเหลือผู้ชนะเพียงกลุ่มเดียว แจก DVD ไปคนละ 1 แผ่น 20 คนพอดี
บรรดาเชฟกะทะเหล็ก
คุณธวัช wrap up ว่า ไม่ว่าผลงานจะออกมาดีหรือไม่ดี เกิดการเรียนรู้ได้ทั้งหมด จะออกเป็น action ในครั้งต่อไป ใช้ได้กับงานทุกเรื่อง AAR เป็นเครื่องมือการเรียนรู้ระหว่างการทำงาน (เปรียบเหมือนระหว่างการพักยกของนักมวย การชกยังไม่จบ พี่เลี้ยงและนักมวยต้อง AAR กัน) ใช้เวลาไม่มากนัก ยกตัวอย่างการ BAR, AAR การจัดค่ายเบาหวาน
BAR & AAR ช่วยอะไรได้บ้าง
ต้องทำบ่อยๆ ทำเรื่อยๆ ตอนทำใหม่ๆ การพูดจะหยาบๆ ทำๆ ไปจะคมขึ้น... ถ้าอยากได้อะไรที่สดใหม่ ก็ให้คนพรรษาน้อยพูดก่อน จะเป็นธรรมชาติ ช่วงแรกๆ ต้องให้เวลา ตั้งคำถาม การทำ BAR, AAR เหมือนการสร้างพื้นที่การเรียนรู้ ทำบ่อยๆ จะเกิดเป็น culture… การเรียนรู้และบรรยากาศ เป็นสิ่งที่ต้องทำคู่กัน ในการ AAR ต้องพยายามฟังให้มากที่สุด บรรยากาศสำคัญ ระวังอย่าให้เข้าสู่ mode discussion
การเรียนรู้มักเกิดได้ดีในบรรยากาศแบบพี่แบบน้อง ถ้าบรรยากาศไม่ดี คนจะไม่แชร์กัน ตัวอย่างเช่น วงจิบน้ำชายามบ่าย วงพูดคุยในระหว่างการทำงาน... เทคนิคไม่ซับซ้อน ใช้คำถามเป็นเครื่องมือกระตุ้นให้คนคุยกันและสร้างบรรยากาศให้คนเปิดใจ
สุดท้ายเราให้ผู้เข้าประชุม AAR โดยแจกกระดาษรูปหัวใจให้ทุกคนเขียน มีคนที่ได้พูด (และได้ DVD กลับไป)
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
สวัสดีปีใหม่ครับอาจารย์ มีความสุขเบิกบานกับงานเพื่อสังคมนะครับ