หลังจากที่โครงการสงเคราะห์ฟื้นฟูฯ... ที่องค์หลวงปู่ท่านเมตตาแก่เด็กๆ และเยาวชนได้พักไปนานหลายเดือน เด็กๆ ก็กลับมาอีกครั้ง รอบนี้เงินทุนที่เกื้อหนุนทางวัดทางผู้รับผิดชอบบอกว่า "ให้มากแล้ว" แต่สำหรับภาระที่เกิดขึ้น ที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านเมตตาเสมอว่า "ให้กินอิ่ม นอนหลับ และมีความสุข"... ก็ถือว่าทุนสนับสนุนไม่พอ แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหาและอุปสรรคของการสงเคราะห์ผู้คนที่มีมิจฉาทิฐิหลงไปทางอบาย...แล้วที่สำคัญเขายังมีวาสนา ของการได้รับโอกาสการสั่งสมกุศลกรรม ผ่านการมาใช้ชีวิตและทำสาธารณูประโยชน์ต่อวัด
ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงโครงการในหลายๆ โครงการที่ทางข้าราชการจัดทำขึ้นและใช้จ่ายเงินไปโดยสูญเปล่า แต่โครงการที่ดูท่าที่จะมีความต่อเนื่องกลับไม่มีงบหรือมีค่อนข้างน้อย
ในหัวใจของคนทำงานแท้ที่จริงแล้ว ไม่ว่า...จะมีงบหรือไม่มีงบ แต่เพื่อการสงเคราะห์ที่นำพาผู้คนไปสู่การพ้นทุกข์ขอเพียงแค่มีปัญญาเท่านั้น ก็สามารถปฏิบัติกิจการงานนั้นได้เสมอ
และวันนี้ในช่วงบ่าย ข้าพเจ้าก็ตัดสินใจ กลับเข้าไปวัดเพื่อไปรับโอกาสเช่นเดียวกันในการแบ่งปันสู่การเรียนรู้ในเด็กๆ และเยาวชนที่มาฟื้นฟูที่วัด ... ความคิดหนึ่งปรากฏขึ้นในใจของข้าพเจ้า "คงไม่มีอะไรสามารถมาทัดทานจิตใจของข้าพเจ้าได้ ... หากสิ่งนั้นไม่ใช่หรือไม่ได้ทำด้วยเหตุแห่งศีลและเหตุแห่งธรรม"....
ผู้คน...ที่คอยเข้ามาเพื่อเป็นอุปสรรคนั้น ก็เพียงแค่แสดงบทบาทให้ข้าพเจ้าได้เกิดการตระหนักรู้ในตนเองเท่านั้นว่า มีความมุ่งมั่นและมั่นคงทางจิตใจมากน้อยแค่ไหน ... แค่บทพิสูจน์ใจ
บทเส้นทางของการใช้ชีวิต มีอะไรมากมายที่ให้ความหมายแก่การเกิดที่ซ่อนอยู่ภายใต้วิถีการดำเนินชีวิตของเรา
และเช่นเดียวกัน ... ย่างเข้าปีที่สี ของการได้ร่วมทำงานถวายแด่พระพุทธศาสนาและองค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่ไม่เคยหยุดนำพาผู้คนไปสู่กุศลจิตผ่านกิจการงานสงเคราะห์เด็กและเยาวชนที่มาฟื้นฟูจิตใจที่วัด ถือว่าเป็นโอกาสอันประเสริฐอย่างยิ่งสำหรับข้าพเจ้า ในการใช้ชีวิตที่มีลมหายใจนี้
...
๒๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๕
สาธุครับ..คุณนิภาพร
หัวใจของความเป็นครู :) สาธุค่ะ
พ่อขออนุโมทนาสาธุด้วยคน พ่อมีความต้องการที่จะบอกลูกว่า พ่อเป็นห่วงและคิดถึงลูกเสมอ
ขออวยพรให้ลูกมีอายุมั่นขวัญยืน มีวรรณะผ่องใส มีความสุข มีสุขภาพดี มีจิตใจที่มั่นคงแข็งแกร่งเสมอ
"ลูกอยู่ใหนจงอยู่เย็นให้เป็นสุข"
(เดี๋ยวนี้พ่อลงข้อความเป็นอิสระด้วยตัวเอง)