อาจารย์วีระ ภาคอุทัย และอาจารย์
ดร.เยาวรัตน์ ศรีวรานันท์ อาจารย์ภาควิชาเศรษฐศาสตร์การเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ซึ่งได้รับทุนวิจัยจากสำนักกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) ให้ทำวิจัยเรื่อง การพัฒนาระบบการตัดสินใจและการจัดการโซ่อุปทานพริกปลอดภัยจังหวัดแพร่
น่านและชัยภูมิ ร่วมกับ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สำนักงานเกษตรจังหวัดแพร่ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) จัดประชุมเรื่อง
“แพร่:
รู้เท่าทันศักยภาพเพื่อสร้างโอกาสของเกษตรกร” ซึ่งได้รับเกียรติจาก
นายมนัส โสกันธิกา รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่เป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมทั้งได้ให้แสดงความเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆที่เป็นแนวทางต่อการพัฒนาจังหวัดแพร่
โดย รศ.ดร.จันทร์จรัส เรี่ยวเดชะ
ผู้อำนวยการฝ่ายเกษตร สกว. กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดประชุม และ ดร.สีลาภรณ์
บัวสาย รองผู้อำนวยการ สกว. สรุปผลการประชุมและกล่าวปิดการประชุม เมื่อวันที่
9 พฤศจิกายน พ.ศ.2555 ณ ห้องประชุมศาลาประชาคมที่ว่าการอำเภอหนองม่วงไข่ อำเภอหนองม่วงไข่
จังหวัดแพร่
การจัดประชุม
“แพร่: รู้เท่าทันศักยภาพเพื่อสร้างโอกาสของเกษตรกร” ในครั้งนี้
ได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือจากบุคคลหลายหน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานเกษตรจังหวัดแพร่ นายการัณย์
เกื้อวันชัย นายอำเภอหนองม่วงไข่ นายประภาส สานอูป เกษตรอำเภอหนองม่วงไข่ นายประเสริฐ สุกิน
นายกเทศมนตรีตำบลหนองม่วงไข่ ผู้นำท้องถิ่น และหน่วยงานราชการต่างๆ ซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมประชุมกว่า 300 คน โดยแยกเป็นเกษตรกรผู้สนใจจากอำเภอหนองม่วงไข่
อำเภอสอง และอำเภอร้องกวาง ประมาณ 150 คน
นักเรียน ประมาณ 50 คน คุณครูจากโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการวิจัยกับคณะเกษตรศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดย ผศ.ดร.ถาวร อ่อนประไพ เป็นหัวหน้าโครงการฯ ประมาณ
50 คน หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องและคณะสำนักวิจัยประมาณ 50 คน ซึ่งในส่วนหนึ่งของการประชุม
ได้มีการเสวนา เรื่อง “จากพริกสู่...โจทย์จังหวัดแพร่”โดยมี รศ.ดร.จันทร์จรัส
เรี่ยวเดชะ เป็นผู้ดำเนินการเสวนา นอกจากนี้ยังได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้แทนจากมหาวิทยาลัยในพื้นที่ภาคเหนือ
อาทิ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์
มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยแม่โจ้
และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เป็นต้น
อาจารย์วีระ
ภาคอุทัย
เผยว่า “การจัดประชุมครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจาก การทำงานวิจัยโครงการ “การพัฒนาระบบการตัดสินใจการผลิตสินค้าเกษตรกร
และการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานพริกจังหวัดแพร่” ซึ่งโครงการวิจัยฯได้ทำการศึกษาและช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องผลผลิตต่อไร่ต่ำ
และพริกมีปัญหาเรื่องโรคและแมลงมาก รวมไปถึงปัญหาเรื่องราคาพริกที่เกษตรกรขายได้มีราคาตกต่ำ
โดยโครงการวิจัยได้จัดฝึกอบรมเกษตรกร ให้ความรู้เรื่อง
การจัดการห่วงโซ่อุปทานพริกสดปลอดภัย โดยเน้นให้เกษตรกรตระหนักถึงระบบป้องกัน
การจัดการและการดูแล การรวมกลุ่มเกษตรกร การรักษาคุณภาพและมาตรฐานพริกปลอดภัยให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและการบันทึกข้อมูล
การปรับเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติของเกษตรกรที่มีผลต่อผลผลิตตกต่ำ เช่น กรณีไม่เก็บผลพริกที่เป็นโรคกุ้งแห้ง
แล้วปล่อยให้ผลพริกแห้งกลายเป็นแหล่งแพร่ขยายเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคกุ้งแห้งระบาดได้รวดเร็ว
ทำให้เกษตรกรต้องใช้สารเคมีเพื่อแก้ไขปัญหามากขึ้น เป็นต้น"
อาจารย์วีระ กล่าวต่ออีกว่า
“สำหรับการแก้ไขปัญหาเรื่องราคาพริกตกต่ำนั้นโครงการวิจัยได้เสนอระบบการตัดสินใจเพื่อเป็นทางเลือกในการเลือกช่วงการปลูกพริก
ที่จะทำให้สามารถขายพริกได้ราคาสูงขึ้น แต่ทั้งนี้จะต้องสอดคล้องกับเงื่อนไขของสภาพพื้นที่
พันธุ์พริก ความรู้ความสามารถของเกษตรกร
และความต้องการของตลาดหรือสภาพการแข่งขันทางการตลาด เพราะจากการวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณฝนตก
ดัชนีราคาขายส่งพริกเป็นรายเดือน ระบบตลาดพริกชี้ฟ้าที่ออกสู่ตลาดในแต่ละแหล่งผลิต
จังหวัดแพร่มีข้อได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบเมื่อเปรียบเทียบกับแหล่งผลิตอื่น เช่น
จังหวัดเชียงใหม่ ตาก น่าน และจังหวัดหนองคาย
เพราะสามารถปลูกพริกชี้ฟ้าให้ออกสู่ตลาดได้ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมและเดือนพฤศจิกายน
ซึ่งเป็นช่วงที่พริกชี้ฟ้ามีราคาสูง โดยเกษตรกรควรปลูกพริกปลายเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายน
แต่เกษตรกรที่จะปลูกพริกในช่วงนี้ซึ่งมีฝนตกมากปัญหาเรื่องโรคพริกมีมาก
ต้องปลูกพริกในสภาพพื้นที่ดอน น้ำไม่ท่วมไม่ขัง มีระบบการระบายน้ำออกจากสวนพริกได้อย่างรวดเร็ว
เกษตรกรต้องทำแปลงพริกสูงขึ้นและคลุมแปลงด้วยพลาสติกสีดำเพื่อลดปัญหาน้ำท่วมขังในแปลงพริก
เพราะพริกไม่ชอบฝนตกบ่อยและน้ำท่วมขัง หากเกษตรกรปลูกพริกให้สามารถเก็บเกี่ยวก่อนสิ้นปีได้ก็จะขายได้ราคาสูงเพราะเข้าสู่ตลาดพริกสดทั้งพริกหนุ่มเขียวและพริกก้ามปู”
“เกษตรกรควรมีการหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าจะปลูกพริกพื้นที่มากขึ้นได้หรือไม่
เพราะถ้าพื้นที่ปลูกพริกมีมากราคาพริกที่เกษตรกรขายได้จะมีราคาตกต่ำ
แต่ถ้าเกษตรกรปลูกพริกชี้ฟ้าเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีปริมาณฝนตกน้อย
การปลูกพริกจะทำได้ง่าย มีปัญหาเรื่องโรคและแมลงน้อย แต่พริกจะเก็บเกี่ยวหลังปีใหม่
ซึ่งเป็นช่วงที่พริกจากแหล่งผลิตอื่นๆออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก
ราคาพริกที่เกษตรกรขายได้จะไม่สูงมากนัก ประจวบกับเป็นช่วงที่โรงงานซอสพริกซื้อพริกแดงเด็ดก้านเพื่อแปรรูปเป็นซอสพริกจำนวนมาก
หากเกษตรกรขายพริกแดงเด็ดก้านส่งโรงงานซอสได้ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 13-14 บาท
เกษตรกรก็สามารถอยู่ได้” อาจารย์วีระ ภาคอุทัย กล่าวในที่สุด
อาจารย์วีระ ภาคอุทัย
ข้อมูลข่าว/ภาพ
กิตติศักดิ์ สิงหา วิเคราะห์
สังเคราะห์และเผยแพร่
-สวัสดีครับอาจารย์..
-ผ่านมาศึกษาข้อมูลเรื่องพริกครับ.
- “เกษตรกรควรมีการหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าจะปลูกพริกพื้นที่มากขึ้นได้หรือไม่ เพราะถ้าพื้นที่ปลูกพริกมีมากราคาพริกที่เกษตรกรขายได้จะมีราคาตกต่ำ แต่ถ้าเกษตรกรปลูกพริกชี้ฟ้าเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีปริมาณฝนตกน้อย การปลูกพริกจะทำได้ง่าย มีปัญหาเรื่องโรคและแมลงน้อย แต่พริกจะเก็บเกี่ยวหลังปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่พริกจากแหล่งผลิตอื่นๆออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ราคาพริกที่เกษตรกรขายได้จะไม่สูงมากนัก ประจวบกับเป็นช่วงที่โรงงานซอสพริกซื้อพริกแดงเด็ดก้านเพื่อแปรรูปเป็นซอสพริกจำนวนมาก หากเกษตรกรขายพริกแดงเด็ดก้านส่งโรงงานซอสได้ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 13-14 บาท เกษตรกรก็สามารถอยู่ได้”
-ขอบคุณครับ.
...... หมอเปิ้น .... ชอบจริงๆๆ นะคะ ....
.... การใส่เสื้อผ้าอ้อม .... กับ ....การทำการเกษตร .......ดูไปได้ดี .... เข้ากันได้ค่ะ ขอชื่นชมนะคะ