หลับได้ดั่งฝัน.......แต่ไม่ฝัน


ใครที่ฝันว่า อยากนอนหลับให้สบายๆ ง่าย ๆ หลับไม่ยาก โปรดอ่านทางนี้

หลายๆคนอาจประสบปัญหาเรื่องการนอนหลับได้ยากเมื่อถึงเวลาหลับแล้ว
การนอนหลับยากอาจมีสาเหตุมาจากความไม่พร้อมทางกายภาพเช่น ดื่มกาแฟ ดื่มชา
หรืออะไรอื่นๆ ที่มีสารกระตุ้นให้ประสาทตื่นตัวหรืออาจเป็นสภาพแวดล้อมที่มีเสียงอึกกะทึกครึกโครม เสียงเครื่องบินขึ้นลงเสียงรถไฟอะไรพวกนี้ ล้วนเป็นสาเหตุภายนอกที่มีส่วนทำให้คนเรานอนไม่ค่อยหลับหรือหลับได้ยาก

 

แต่สาเหตุภายนอกบางอย่างดังที่กล่าวมาเมื่อเวลาผ่านไปเนิ่นนานมันจะกลายเป็นความเคยชินถึงขั้นเสพติดขาดไม่ได้ก็มีสำหรับบางคนแล้วน้ำชากาแฟไม่ใช่อุปสรรคของการนอนหลับ ดื่มแล้วหลับสบายคนที่อยู่ใกล้คลองที่มีเรือวิ่งผ่านไปมาประจำส่งเสียงดังแผดแสบแก้วหูวันไหนไม่ได้ยินเสียงเรือวิ่ง ชักจะนอนไม่สนิทเพราะมันดูเหมือนแปลกไป เช่นเดียวกันผู้คนที่อาศัยอยู่ใกล้ทางรถไฟ วันไหนไม่ได้ยินเสียงหวูดก็เป็นกังวลว่าเกิดอะไรขึ้น จึงทำให้นอนไม่หลับ เครื่องบินก็เช่นเดียวกันเสียงเครื่องบินที่ได้ยินอยู่เป็นปกติทุกวันมีส่วนทำให้ผู้อาศัยรอบๆ สนามบินหลับได้สบายโดยไร้ความวิตกกังวลทั้งสิ้น


นี่เราจะเห็นว่าปัจจัยจากภายนอกนั้น บางอย่างนานไปกลายเป็นความเคยชินถึงขั้นขาดไม่ได้ด้วยซ้ำไปด้วยเหตุผลที่กล่าวแล้ว

 

แต่มีปัจจัยตัวหนึ่งที่สำคัญยิ่งต่อการนอนหลับของเราคือปัจจัยภายใน มันเป็นความรู้สึก เป็นอารมณ์ เป็นความนึกคิด หรือที่เราเรียกว่าใจ นั่นเอง พระพุทธองค์ตรัสว่า “สิ่งทั้งหลายในชีวิตเรา ใจมาก่อน ใจเป็นหัวหน้าทุกอย่างสำเร็จด้วยใจ” นั่นหมายความว่า ชีวิตคนๆ หนึ่งนั้น ใจนั่นแหล่ะคือ Super Conductor คือ ตัวนำยิ่งยวดในภาระกิจทั้งปวง      แม้กระทั่งภาระกิจในการหลับ


ใจเป็นปัจจัยภายในที่ทรงอิทธิพลส่งผลกระเทือนต่อระบบกายภาพทั้งหมดได้ บางครั้งเมื่อใจไม่ตั้งมั่นก็จะนำไปสู่ความงุ่นง่านกระสับกระส่าย ดิ้นไปดิ้นมาเกือบตกเตียงแทบทุกคืน ลุกนั่งก็แล้ว เดินก็แล้ว อาบน้ำก็แล้ว
ปลุกเพื่อนลุกให้มาเป็นเพื่อนก็แล้ว โอ้ย สาระพัดวิธีการ มันก็ยังไม่หลับ เลยกลายเป็นคนหลับยาก ในที่สุดก็ต้องหันไปพึ่งพายานอนหลับ และยาพวกนี้ต้องนำเข้าจากต่างประเทศปีหนึ่งๆ ว่ากันว่าประเทศไทยสั่งนำเข้ายาเพื่อให้นอนหลับง่ายเป็นมูลค่าถึงหมื่นล้านบาททีเดียวเชียว เสียดายเหลือเกินที่ภาระกิจในการหลับอันแสนสุขของมนุษย์ต้องถูกแทรกแซงด้วยยาที่แสนแปลกปลอม

ผู้เขียนมีสูตรนอนหลับส่วนตัวอยู่ว่า
เพลิดเพลินกับงาน สำราญกับคน ก้าวข้ามพ้นอุปสรรคนานา

คิดดูก็ได้ว่าชีวิตเราเกี่ยวข้องพัวพันกับงาน กับคน กับสถานการณ์ต่างๆ รอบด้าน
อย่างหลีกหนีไม่พ้นหากเราเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับสิ่งสามสิ่งเหล่านี้ได้อย่างราบรื่นลงตัว รับรองว่าจิตจะสะอาดเกลี้ยงเกลาอันจะนำไปสู่การนอนหลับที่สนิทหมดสิทธิ์ฝันโดยประการทั้งปวง พระอรหันต์ทั้งหลาย
มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น เวลาท่านหลับจะไม่มีการฝันเพราะจิตของท่านสะอาดบริสุทธิ์ไม่มีสารพิษคือ โลภ โกรธ หลง ตกค้างในใจ จึงไม่มีเหตุปัจจัยใดต้องให้ท่านฝัน   


มีพุทธพจน์บทหนึ่งบอกว่า “อะกิลาสุ วินเท หะทะยัสสะ สันติง” แปลว่า “คนขยันวุ่นอยู่กับงานจะได้ความสงบใจ” ขยายความได้ว่า คนที่หมกมุ่นพัวพันกับงานทั้งวันนั้น จิตมันจะนิ่งไม่ซัดส่ายไปหาเรื่องอื่นใด เพลิดเพลินในงานเสมือนหนึ่งว่าลืมคืนวันเดือนปีไปเลย เมื่อถึงเวลาพักในยามค่ำคืน ธรรมชาติก็จะให้ทิปเป็นรางวัลคือนอนหลับง่าย บางรายหัวยังไม่ทันถึงหมอนก็หลับแล้ว อย่างนี้เขาเรียกว่า หลับกลางอากาศ หากวันไหนท่านได้ยินเสียงกรนตัวเองสักหนึ่งครั้ง สังเกตจำไว้เลยว่าคืนนั้นท่านจะหลับสนิทหมดสิทธิ์ฝันดังว่าแล้ว เพราะธรรมชาติต้องการจะบอกว่า   ร่างกายพร้อมพักแล้ว จิตก็ควรพร้อมแล้วเช่นกัน


คนที่เราเกี่ยวข้องสัมพันธ์ทั้งโดยตรงโดยอ้อม โดยใกล้ชิดหรือไกลห่างออกไป ถึงระดับโลกนั้น ต้องตั้งฐานจิตเมตตาธรรมเอาไว้ก่อน ดังพุทธพจน์ที่ว่า “โลโกปัตถัมภิกา เมตตา” แปลว่า “เมตตาธรรมค้ำจุนโลก” ทุกๆ คนรอบกายเราล้วนประสบชะตากรรมเดียวกันทั้งสิ้น เรามีภัยคุกคามเดียวกันคือ แก่ เจ็บ ตาย และอยู่ร่วมชายคาความผันผวนแปรปรวนในสถานการณ์แห่งชีวิตเดียวกัน หากเราจงเกลียดจงชังกัน ก็จะเป็นการตอกย้ำกระหน่ำโทษมนุษย์ด้วยกัน รักกันเข้าไว้ ปรารถนาดีต่อกันไว้ ใจเราร่มเย็นเป็นสุขแน่นอน  

 

ผู้เขียนเคยเป็นพระอุปัฏฐากดูแลหลวงพ่อปัญญานันทะภิกขุในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
มีอยู่วันหนึ่งวันนั้นเวลาประมาณบ่ายโมง เป็นเวลาที่หลวงพ่อท่านจะพักผ่อนในช่วงกลางวันเพราะอายุท่าน
๙๐ กว่าแล้วตอนนั้น ในขณะที่ท่านกำลังจะล้มตัวลงนอน หลวงพ่อกับผู้เขียนก็ได้ยินเสียงเลื่อยยนต์ตัดไม้อยู่หลังกำแพงวัดอันเป็นเขตพื้นที่ของชาวบ้านข้างวัดเสียงดังมาก ขนาดปิดห้องเปิดแอร์เสียงก็ยังดังทะลุเข้ามา
ปกติแล้วถ้าเสียงดังขนาดนี้ยังไงก็นอนหลับไม่ลงผู้เขียนก็เลยตัดสินใจจะออกไปขอร้องให้เขาหยุดก่อนเพื่อจะให้หลวงพ่อได้นอนพักผ่อนแบบสบายๆเมื่อหลวงพ่อล้มตัวลงนอนห่มผ้าแล้ว ผู้เขียนก็แอบเดินย่องๆ เบาๆ
ไปที่ประตูเตรียมเปิดออกไปข้างนอกเพื่อภาระกิจดังกล่าว ทันใดนั้นก็มีเสียงตามหลังมาว่า


“อัมพรจะไปไหน” หลวงพ่อถามเบาๆ


“จะไปบอกให้คนตัดไม้หยุดก่อนครับ เสียงดังมากเลยครับ”

ผู้เขียนตอบตามสถานการณ์จริง

ไม่ต้องไปบอกเขา เรื่องของเขา
ไม่ใช่เรื่องของเรา เรื่องของเราคือหลับ
” สิ้นเสียงของหลวงพ่อท่านก็หลับ

ผ่านไปสักสองชั่วโมงท่านก็ตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
ขณะที่เสียงเลื่อยยนต์ยังแผดเสียงคำรามของมันอย่างต่อเนื่องจนถึงเย็นกว่าจะยุติเสียงที่น่ารำคาญนั้น
ในขณะที่หลวงพ่อท่านก็เสร็จสิ้นภาระกิจการนอนหลับพักผ่อนที่สมบูรณ์ก่อนหน้านั้นเช่นเดียวกัน


เรื่องของเขาไม่ใช่เรื่องของเราเรื่องของเราคือหลับ”  ยังเป็นเสียงที่ยังคงดังกึกก้องอยู่ในใจผู้เขียนตลอดมา

หลวงพ่อปัญญาได้สอนวิธี (How to) จัดการกับสถานการณ์แวดล้อมอุปสรรคปัญหารอบตัวได้อย่างยอดเยี่ยม อันดับแรกที่สุดต้องแก้ที่เราก่อน มันง่ายดีท่านว่า ไม่ต้องเสียเวลาไปเดินเรื่องใดๆ แก้ที่เราจบที่เราก่อนมันไว
ไม่เสียเวลา ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากได้ดีมาก ไม่ต้องไปทะเลาะกับใคร


เพลิดเพลินกับงาน สำราญกับคน ก้าวข้ามพ้นอุปสรรคนานา” คือยาขนานเอกที่จะทำให้เรานอนหลับได้ง่ายๆ ไม่ยากเลย

 
 

หมายเลขบันทึก: 508033เขียนเมื่อ 8 พฤศจิกายน 2012 07:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม 2012 14:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท